xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ประกอบการราชบุรีอัด รบ.ทําร้ายโรงโอ่งขึ้นค่าแรง 300 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ราชบุรี - ผู้ประกอบการโรงโอ่งราชบุรี รุมอัดนโยบายปรับขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์” ทําร้ายโรงโอ่ง ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาในราชบุรีอย่างมาก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนการผลิตใช้แรงงานเป็นต้นทุนหลักของการผลิต

เวลา 16.00 น.วันนี้ (21 ก.พ.) นายศุภชัย เหลืองแสงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี เป็นประธานการประชุมหาแนวทาง และมาตรการช่วยเหลือสมาคมเครื่องเคลือบดินเผาราชบุรี จากนโยบายปรับขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ที่ห้องประชุมสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 4 ราชบุรี โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ และผู้ประกอบการโรงโอ่งหลายแห่ง เช่น โรงโอ่งเถ้าฮงไถ่ โรงโอ่งรัตนโกสินทร์ โรงโอ่งเรืองศิลป์ 3 โรงโอ่งเถ้าเฮงปู่ โรงโอ่งสหศิลป์ โรงโอ่งอุตสาหกรรมดินไทย เข้าร่วมประชุม

นายสมหมาย ชินภานุวัฒน์ นายกสมาคมเครื่องเคลือบดินเผาราชบุรี เจ้าของโรงโอ่งเรืองศิลป์ 3 กล่าวว่า จากมาตรการนโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทของรัฐบาล ซึ่งมีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้นมา โดยให้ผู้ประกอบการทุกแห่งปฏิบัติตามนโยบายนั้น ได้มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาในจังหวัดราชบุรีเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนการผลิตใช้แรงงานเป็นต้นทุนหลักของการผลิต ดังนั้น ทางสมาคมเครื่องเคลือบดินเผาราชบุรี จึงให้จังหวัด และหน่วยราชการหาแนวทางช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้อุตสาหกรรมเครื่องเคลือบดินเผาราชบุรี สามารถประกอบกิจการ และดำเนินการผลิตต่อไปได้

โดยสมาคมมีมาตรการช่วยเหลือ จำนวน 6 ข้อ คือ 1.ขอให้หน่วยงานราชการช่วยจัดงบประมาณจัดซื้อสินค้าไปตกแต่ง ปรับภูมิทัศน์เพื่อเป็นการระบายสต๊อกสินค้าให้แก่โรงงานโดยตรง 2.จัดหาแหล่งเงินทุน เป็นเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย หรือเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ เป็นระยะเวลา 3 ปี 3.ในส่วนเงินสมทบผู้ประกันตน (ประกันสังคม) จัดเก็บเงินสมทบผู้ประกันในอัตราพิเศษ 4.การประเมินภาษีโรงเรือน ให้คงอัตราเดิม 5.ชดเชยส่วนต่างของเงินค่าจ้างตามนโยบายปรับขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำ รายละ 50/คน 6.ส่งเสริมและสนับสนุนการกระจายสินค้า และหาช่องทางการตลาดทั้งใน และต่างประเทศ

นายวีระ แตละกุล เจ้าของโรงโอ่งสหศิลป์ กล่าวว่า โรงงานตนได้รับผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำของรัฐบาล เหตุผลที่ว่าทำไมโรงงานต้องหยุดตั้งแต่ก่อนเดือนมกราคมก่อนนโยบายการขึ้นค่าแรงของรัฐบาล จาก 180 กว่าบาท เป็น 251 บาท ก็กระทบมาครั้งหนึ่งแล้ว

“ผมเป็นคนบริหารการจัดเก็บข้อมูลต้นทุนการผลิตของสมาคมว่าจะมีการขึ้นค่าแรงเท่าไรจะมีผลกระทบต่อสมาคม ผมจึงบอกว่า การขึ้นค่าแรงมีผลกระทบต่อสมาคมมาก โดยสมาคมมีต้นทุนอยู่ 3 อย่างด้วยกัน อย่างแรกคือ วัตถุดิบ ซึ่งค่าแรงได้ปรับขึ้นอย่างพรวดพราดเลย เหตุที่มันกระทบค่าแรง 300 บาทนี้ผมว่ารัฐบาลทำร้ายเรามาก เพราะว่าขึ้นภายใน 6 เดือน ขึ้นครั้งหนึ่งปรับเป็น 251 บาท และอีกพรวดเดียวเป็น 300 บาท ขณะที่ต้นทุนหลัก 55 เปอร์เซ็นต์ของแรงงานมันเพิ่มขึ้นอีกกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่เราไม่สามารถขึ้นราคาสินค้าอย่างพรวดพราดเป็นไปไม่ได้ เหมือนปลาช็อกน้ำแล้วอยู่ไม่ได้”

นายศุภชัย เหลืองแสงทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาของส่วนราชการว่า ทางภาครัฐไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดประชุมหาทางการแก้ปัญหาว่ามีอะไรบ้างที่ทางโรงโอ่ง และจังหวัดจะร่วมกันแก้ปัญหา ซึ่งเรื่องการขึ้นค่าแรงเป็นนโยบายของรัฐบาลมีการนำไปใช้ทั้งประเทศ ไม่ได้ใช้เฉพาะราชบุรีเท่านั้น แต่ทั้งนี้ แนวทางช่วยเหลือก็จะอยู่ในกรอบของจังหวัด

สำหรับข้อเรียกร้องที่ทางสมาคมได้เรียกร้องมานั้น ทางรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะเดินทางมาที่ราชบุรีวันที่ 15 มีนาคมนี้ถือว่าโชคดีของราชบุรีที่จะได้นำรายละเอียดข้อมูลปัญหาต่างๆ รายงาน ซึ่งทราบว่าโอ่งเป็นสัญลักษณ์ของราชบุรี คนทั้งประเทศรู้จักโอ่งราชบุรี ถึงอย่างไรก็จะทำให้โอ่งได้อยู่คู่กับราชบุรีให้ได้ต่อไป

“ภาครัฐเห็นความสำคัญในเรื่องปัญหาการแบกรับภาระจากนโยบายรัฐบาล ซึ่งจากนโยบายบางส่วนอาจจะมีส่วนที่ดี แต่บางส่วนจะมีผลกระทบ วันนี้จึงนำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือว่ามีประเด็นไหนบ้างที่สามารถพิจารณาช่วยเหลือได้ ซึ่งนโยบายขึ้นค่าแรง 300 บาท เป็นนโยบายของรัฐบาลไม่ใช่นโยบายของจังหวัด ซึ่งขณะนี้ ภาครัฐได้ออกมาตรการมาแล้ว 15 ข้อ ซึ่งข้อไหนบ้างอาจจะไปช่วยเหลือทางโรงโอ่งได้บ้าง ส่วนข้อไหนไม่ต้องการก็ว่ากันไป เพราะข้อมูลทั้งหมดนี้จะนำเสนอรัฐมนตรีพิจารณาในวันที่ 15 มีนาคมด้วย”

กำลังโหลดความคิดเห็น