สุรินทร์ - จับกองทัพมดเขมรลักลอบเข้าตัดไม้พะยูงชายแดนไทย ด้าน อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ได้ผู้ต้องหา 3 ราย พร้อมของกลาง ส่วนอีกกว่า 20 คน พร้อมหน่วยคุ้มกันติดอาวุธเผ่นหนีข้ามแดนเข้ากัมพูชาไปได้
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่บริเวณป่าห้วยทรัพย์ตะเคียน อยู่ทางทิศใต้ห่างจากวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ต.จรัส อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ ไปประมาณ 15 กิโลเมตร เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร นำโดย พ.ต.ท.สายสิน ศรวิชัย ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 214 (ผบ.ร้อย ตชด.214 ) ร.ต.อ.มนัส ทองปน รอง ผบ.ร้อย ตชด.214 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ ตชด.214 ตชด.2143 เจ้าหน้าที่ทหารกองร้อยทหารราบ ร้อย ร.2332 กองกำลังสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 และเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ รวมทั้งพระทองมูล ปิยะธรรมโม พระลูกวัดเขาศาลาอตุลฐานะจาโร ต.จรัส รวม 25 นาย
ได้เข้าซุ่มจับกุมชาวกัมพูชาที่ลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงบริเวณป่าห้วยทรัพย์ตะเคียนในเขตชายแดนไทยได้จำนวน 3 คน ขณะลำเลียงไม้พะยูงด้วยการแบกสะพายหลัง ทราบชื่อคือ นายเมี๊ยก แก้ว อายุ 50 ปี อยู่บ้านเนี๊ยกเวียง ต.สะเดา อ.บาราย จ.กัมปงทม นายนึม เนตร อายุ 31 ปี อยู่บ้านตูลสวาย ต.ตะเปียงเตา อ.อัลลองเวง จ.อุดรมีชัย และนายเรือน สุเพียบ อยู่บ้านปรีสมัช ต.เมียนเจย อ.อุดง จ.กัมปงสะปือ พร้อมของกลางไม้พะยูง 12 ท่อน/เหลี่ยม ความยาว 2 เมตร มูลค่าประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งไม้พะยูงในจำนวนนี้พบถูกวางทิ้งไว้กระจายตามป่าในหลายจุดไม่ไกลกันนัก
ผู้ต้องหาชาวกัมพูชารับสารภาพว่ามีเพื่อนชาวกัมพูชาเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตแดนไทยร่วมกันในครั้งนี้ประมาณกว่า 20 คน และได้วิ่งหนีไปได้ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไทยบุกเข้าจับกุม ส่วนค่าจ้างหากแบกไม้พะยูงไปส่งถึงนายทุนในฝั่งประเทศกัมพูชาที่มารอรับซื้อได้จะอยู่ที่ราคาท่อนละ 2,000-2,500 บาท
นอกจากนี้ ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่ไทยดักซุ่มเตรียมจับกุม ยังพบว่ามีกองกำลังคุ้มกันติดอาวุธจำนวน 2 นาย สวมหมวก และแต่งกายคล้ายเครื่องแบบทหารกัมพูชาเดินนำหน้าคอยคุ้มกันชาวกัมพูชาลักลอบตัดไม้พะยูงกลุ่มนี้ด้วย แต่ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในเขตแดนกัมพูชาก่อน และทิ้งหลักฐานหมวกทหารกัมพูชาไว้จำนวน 2 ใบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลำเลียงไม้พะยูงของกลางออกมาจากป่าด้วยความทุลักทุเลเนื่องจากเป็นป่าลึก พร้อมนำตัวผู้ต้องหาชาวกัมพูชาทั้ง 3 รายส่งพนักงานสอบสวน สภ.บัวเชด เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
