ศรีสะเกษ - ตชด.ที่ 224 กันทรลักษ์ และ จนท.ป่าไม้ปะทะเดือดแก๊งเขมรติดอาวุธลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตชายแดนไทย บริเวณพลาญตาโมกข์ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ผลเขมรตาย 1 ราย จับเป็นได้ 1 ราย ขณะจนท.ป่าไม้ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส 1 ราย ส่งต่อเข้ารักษา รพ.ศรีสะเกษ
วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.นพรัตน์ กองเมืองปัก ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 224 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ขุนหาญ และเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ สืบทราบว่า มีชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงที่บริเวณพลาญตาโมกข์ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ในเขตประเทศไทย ซึ่งห่างจากชายแดนไทย - กัมพูชา ประมาณ 7 กิโลเมตร (กม.)เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันเลื่อยไม้พะยูง เจ้าหน้าที่ของไทยจึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ปรากฏว่า กองกำลังคุ้มกันติดอาวุธของกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงถล่มเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ก่อน จึงได้เกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด นานประมาณ 10 นาที กลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการตรวจสอบรอบบริเวณพื้นที่ที่มีการปะทะกัน พบว่า มีชาวกัมพูชาถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และจับกุมชาวกัมพูชาได้อีก 1 ราย ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายทืน เทียน อายุ 19 ปี เป็นชาว จ.กัมปงสะปือ ประเทศกัมพูชา และมีเจ้าหน้าที่ของไทยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่บริเวณแขนขวาได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ชื่อ นายอลิส เอี่ยมชม เป็นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา และพบไม้พะยูงถูกตัดเป็นท่อนและเหลี่ยม ประมาณ 15 ท่อน จึงได้รีบนำตัวเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ห้วยศาลาที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลขุนหาญ อ.ขุนหาญ
แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งล่าสุดอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว และ ได้ควบคุมตัวชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมได้ไปที่ สภ.กันทรอม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ (27 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ของไทยได้สนธิกำลังจำนวนประมาณ 40 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เดินเท้าเข้าเคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงชายแดนชาวกัมพูชา เพื่อตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดและนำศพชาวกัมพูชาที่เสียชีวิตและของกลาง ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
วันนี้ (27 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.นพรัตน์ กองเมืองปัก ผบ.ร้อย ตชด.ที่ 224 อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า เมื่อกลางดึกของคืนวันที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) ร่วมกับเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) อ.ขุนหาญ และเจ้าหน้าที่ทหารปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ด้าน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ สืบทราบว่า มีชาวกัมพูชาลักลอบเข้ามาตัดไม้พะยูงที่บริเวณพลาญตาโมกข์ ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ในเขตประเทศไทย ซึ่งห่างจากชายแดนไทย - กัมพูชา ประมาณ 7 กิโลเมตร (กม.)เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลังเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่า มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวนหนึ่งกำลังช่วยกันเลื่อยไม้พะยูง เจ้าหน้าที่ของไทยจึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม แต่ปรากฏว่า กองกำลังคุ้มกันติดอาวุธของกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงถล่มเข้าใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ก่อน จึงได้เกิดการยิงปะทะกันอย่างดุเดือด นานประมาณ 10 นาที กลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงได้อาศัยความมืดหลบหนีเข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำการตรวจสอบรอบบริเวณพื้นที่ที่มีการปะทะกัน พบว่า มีชาวกัมพูชาถูกยิงเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย และจับกุมชาวกัมพูชาได้อีก 1 ราย ทราบชื่อภายหลังว่าชื่อ นายทืน เทียน อายุ 19 ปี เป็นชาว จ.กัมปงสะปือ ประเทศกัมพูชา และมีเจ้าหน้าที่ของไทยถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบชนิดเข้าที่บริเวณแขนขวาได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ชื่อ นายอลิส เอี่ยมชม เป็นเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศาลา และพบไม้พะยูงถูกตัดเป็นท่อนและเหลี่ยม ประมาณ 15 ท่อน จึงได้รีบนำตัวเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ห้วยศาลาที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ นำส่งเข้ารักษาที่โรงพยาบาลขุนหาญ อ.ขุนหาญ
แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงถูกส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ซึ่งล่าสุดอาการอยู่ในขั้นปลอดภัยแล้ว และ ได้ควบคุมตัวชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุมได้ไปที่ สภ.กันทรอม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อมาเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ (27 พ.ย.) เจ้าหน้าที่ของไทยได้สนธิกำลังจำนวนประมาณ 40 นาย พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์เดินเท้าเข้าเคลียร์พื้นที่จุดเกิดเหตุปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่ไทยกับกองกำลังติดอาวุธกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูงชายแดนชาวกัมพูชา เพื่อตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดและนำศพชาวกัมพูชาที่เสียชีวิตและของกลาง ไปดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
