พิษณุโลก - เวทีคนรุ่นใหม่ต่อต้านคอร์รัปชัน มรภ.พิบูลสงครามมันหยด ตัวแทนภาคธุรกิจเมืองสองแควขึ้นเวทีฟันธงจำนำข้าวโคตรโกง กินกันพุงกาง ถามอุดหนุนตรงถึงชาวนาได้หรือไม่ ชี้วันนี้ถ้างบประมาณแผ่นดินถูกชักหนักถึง 50% เลิกวันไหนได้รถไฟความเร็วสูงฟรี
วันนี้ (31 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานการบรรยายพิเศษตามโครงการ “สร้างเสริมคุณธรรมจริยธรรม” หัวข้อ “คนรุ่นใหม่ต่อต้านคอร์รัปชัน” จัดโดยคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏ (มรภ.)พิบูลสงคราม จ.พิษณุโลก ซึ่งได้เชิญวิทยากร เช่น นายพิเศษ นาคะพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิษณุโลก และนายวิเศษ วชิราศรีศิริกุล กรรมการที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดพิษณุโลก ร่วมบรรยาย มีนักศึกษาสาขาบัญชีประมาณ 150 คนรับฟังนั้น
นายวิเศษกล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ที่ 88 ของประเทศที่มีปัญหาคอร์รัปชันมากที่สุดในโลกจาก 140 ประเทศทั่วโลก ถ้ามีคะแนนเต็ม 10 ประเทศไทยจะได้คะแนนระหว่าง 3.2-3.4 แต้ม ไม่เคยผ่านเกณฑ์เฉลี่ย หรือไม่เคยอยู่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเลย ขณะนี้ไทยติดอันดับโคตรโกงลำดับที่ 88 หากย้อนหลังไปเมื่อ 20 ปีก่อนจะพบว่าฮ่องกง เกาหลี แย่กว่าไทย แต่ปัจจุบันเขากลายเป็นประเทศที่ไม่มีปัญหา ตรงกันข้ามประเทศไทยมีปัญหารุนแรงขึ้น
“หากนำงบประมาณแผ่นดินของไทยจำนวนล้านล้านบาทเป็นฐานคิด จะมีเงินหายไปไม่น้อยกว่า 30% และทุกวันนี้ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นก็เพราะถูกเรียกเก็บระดับ 50% ลองคิดดูงบประมาณแผ่นดินเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ เงินก็ซุกอยู่ในมือคนโกงมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เอาไปพัฒนาประเทศเลย ถามว่าเปอร์เซ็นต์ที่ถูกคอร์รัปชันไป 2-3 แสนล้านบาท เอาไปทำรถไฟทางคู่ได้ไหม”
นายวิเศษกล่าวว่า โครงการอภิมหาโคตรโกงคือ รับจำนำข้าว ถามว่าทำไมไม่อุดหนุนเงินแก่ชาวนาโดยตรง ทั้งที่ก็ทำได้ แม้ไม่เรียกประกันราคาข้าวก็ตาม ประชากรในโลกนี้ต้องกินข้าวใหม่ เก็บข้าวเก่า ถามว่าทำไม ก็เพราะว่าข้าวเก่าเก็บในโกดังก็ฉีดยากันมอดกันแมลงสาบ รมยาหรืออบยา แล้วใครจะกิน ต่างชาติเขาชอบกินข้าวใหม่เพราะไม่มีสารตกค้าง ตรงกันข้ามกับคนไทยได้กินข้าวปนสารตกค้าง ไม่เว้นแม้แต่ข้าวออร์แกนิกทั้งหลาย
“ทุกวันนี้ชาวนาเรียกร้องแค่ความชื้น รัฐบาลจำนำข้าวตันละ 15,000 บาท ชาวนาถูกกดความชื้นจนร่วงเหลือ 8,000 บาทก็ต้องก้มหน้ารับสภาพ แต่โรงสีรับเงินสดเต็ม 15,000 บาทเมื่อเอาข้าวไปอบแห้ง แถมได้เงินจากค่าฝากข้าวอีก ไซโลหรือโรงสีเอกชนที่เข้าร่วมกับรัฐบาลแต่ละแห่งมีกำไร 500-1,000 ล้านบาทต่อปี” นายวิเศษกล่าว และว่า หากไม่มีรัฐบาลชุดนี้ ก็เอาเงินกู้จากธนาคารไปรับซื้อข้าวจากชาวนา แล้วส่งไปขายต่างประเทศ แต่วันนี้โรงสีรับไปเต็มๆ ถามว่ารัฐบาลอยากช่วยชาวนา ทำไมไม่อุดหนุนชาวนาโดยตรง
นายวิเศษกล่าวว่า เรื่องรถไฟความเร็วสูงนั้น เมื่อ 5 ปีที่แล้วไทยกับจีนได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือเอ็มโอยูร่วมกันว่าจะสร้างรถไฟจากจีนผ่านมาทาง จ.เชียงราย มุ่งหน้าออกทะเลที่กรุงเทพมหานคร นับจากนั้นการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ก็ทำได้แค่สำรวจ แต่ไม่ทำอะไร จากวันนั้นถึงวันนี้ประเทศจีนเขาไม่รอคนไทยแล้ว เพราะถ้ารอ ร.ฟ.ท. จีนเจ๊งแน่นอน ดังนั้นแนวคิดของรถไฟจีนจึงมุ่งมาประเทศลาว ลงที่เวียงจันทน์ ซึ่งดำเนินการไปแล้ว หากไม่มีอะไรผิดพลาด รถไฟจีนหรือคนจีนตอนใต้จะเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.หนองคาย โดยทำรถไฟความเร็วสูงจากเวียงจันทน์-หนองคาย-ขอนแก่น-กรุงเทพฯ เปิดทางผ่านออกทะเลให้กับมณฑลทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนได้
“ปีที่แล้วผู้ว่าการรถไฟประเทศจีนคุยกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อขอทำเอง บอกว่า ร.ฟ.ท.ไม่ต้องยุ่ง เรื่องค่าใช้จ่ายก่อสร้างเขาจะเก็บคืนจากค่าตั๋ว ซึ่งรัฐบาลก็ทำบันทึกข้อตกลง ดังนั้นไม่เกินอีก 5 ปีได้เห็นแน่ ส่วนรถไฟสายเหนือเชียงใหม่-กรุงเทพฯ ประเทศจีนเขาก็อยากทำ แต่ข้อมูลไปไกลถึงญี่ปุ่น เกาหลี ทำให้มีหลายประเทศอยากทำด้วย เรื่องมันก็ยุ่ง แต่เท่าที่ทราบรู้ๆ กันอยู่ว่าต้องจ่ายเงินก่อน ทำให้ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน แต่ที่แน่ๆ นับจากนี้อีก 5 ปี รถไฟความเร็วสูง เชียงใหม่-พิษณุโลก-กรุงเทพฯ ต้องเกิดขึ้น แต่รถไฟจีนจะเดินหน้าทำจากอีสานเข้ากรุงเทพฯ ก่อน”