เพชรบุรี - คดีไม่ฟ้อง “พ.ต.ท.แก๊งล่าสัตว์” ลาม นายอำเภอแก่งกระจานโผล่ออกโรงโต้อุทยานฯ เผยพิจารณาคดีตามสำนวนของพนักงานสอบสวน ตามคำให้การในสำนวนที่เสนอมาที่ จนท.อุทยานฯ ได้ให้การพบเห็น “พ.ต.ท.ธีรยุทธ” เดินอยู่คนเดียวในป่า และพบเพียงอาวุธมีดเท่านั้น พร้อมยอมรับพนักงานสอบสวนไม่ได้ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุจริง เพราะไม่มีใครทักท้วงหรือโต้แย้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในเขตอุทยานฯ หรือนอกเขต ด้านอัยการเตรียมขอข้อมูลใหม่ตำรวจมาประกอบสำนวนพิจารณาสั่งฟ้อง
วันนี้ (29 ม.ค. 56) ที่ว่าการอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ชี้แจงถึงสาเหตุการสรุปสำนวนสั่งไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี คดีร่วมกันล่าสัตว์ในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่เป็นข่าวครึกกโครมในขณะนี้ว่า หากพิจารณคดีนี้ตามความรู้สึกของกระแสสังคมในตอนนี้ตนต้องยอมเจ็บตัว แต่ถ้าพิจารณาตามสำนวนของพนักงานสอบสวนจะพบว่าตามคำให้การในสำนวนที่เสนอมาโดยเฉพาะผู้กล่าวหา คือ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ให้การว่าพบเห็น พ.ต.ท.ธีรยุทธเดินอยู่คนเดียวในป่า และพบเพียงอาวุธมีดเท่านั้น ซึ่งทางอุทยานฯ ก็ได้ดำเนินการเปรียบเทียบปรับข้อหาเข้าอุทยานฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต และพกอาวุธคือมีดเพื่อการล่าสัตว์ เป็นเงิน 1 พันบาทไปเรียบร้อยแล้ว โดยทางอุทยานฯ ไม่ได้มีการให้การถึงพฤติกรรมหรือพบเห็นว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธกำลังล่าสัตว์อยู่แต่อย่างใด ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นๆ มีหลักฐานประจักษ์พยานต่างๆ อยู่พร้อม รวมถึงอาวุธปืน เมื่อพนักงานสอบสวนได้ส่งไปตรวจสอบก็ไม่พบว่าเป็นของ พ.ต.ท.ธีรยุทธด้วย
นายสุทธิพงษ์ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 8 คนในสำนวนก็ไม่ใครซัดทอดหรือให้การปรักปรำ พ.ต.ท.ธีรยุทธแต่อย่างใด ขณะที่ทุกคนรวมถึง พ.ต.ท.ธีรยุทธก็ขอไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น ดังนั้น เมื่อตนในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้พิจารณาตามสำนวนแล้วก็จึงไม่ฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ แต่เมื่อเรื่องถูกมองด้วยอารมรณ์ก็อาจจะขัดต่อความรู้สึกของประชาชน แต่ถ้าพิจารณาตามสำนวนก็ต้องเป็นไปตามรายละเอียดสำนวน ในขณะนี้เชื่อว่าทางสำนักงานอัยการจังหวัดเพชรบุรี ต้องให้มีการสำนวนเพิ่มเติม ทางพนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามที่สำนักงานอัยการแจ้งมา
สำหรับที่มีกระแสข่าวระบุว่า ทำไมพนักงานสอบสวนจึงไม่ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ ตรงนี้เรายอมรับว่าไม่ได้เดินทางไปจริง เพราะไม่มีใครทักท้วงหรือโต้แย้งว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ในเขตอุทยานฯในเขต หรือนอกเขต
“ผมตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่วันเกิดเรื่องทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานระบุมีผู้ต้องหา 9 คน คือ พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี สว.สส.สภ.ปราณบุรี รวมอยู่ด้วย แต่พอทำเอกสารส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีผู้ต้องหาเพียง 8 คนเท่านั้น ส่วน พ.ต.ท.ธีรยุทธถูกอุทยานเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 1 พันบาท ไม่ได้อยู่ส่งดำเนินคดีแต่อย่างใด กระทั่งมีการตรวจพบเรื่องนี้ ทางอุทยานฯ จึงยอมเผยออกมาว่าได้หลักฐานเพิ่มเติมเป็นรูปถ่ายกับคลิปวีดีโอที่มี พ.ต.ท.ธีรยุทธอยู่ในภาพด้วย กระทั่งเข้าไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้ง แต่เมื่อให้การก็ไม่ได้มีการเห็นว่า พ.ต.ท.ธีรยุทธกำลังล่าสัตว์หรือพกอาวุธปืนอย่างใด นอกจากมีด และอุทยานฯ ก็เปรียบเทียบปรับไปแล้ว” นายสุทธิพงษ์ ตันบุญยศิริเดช นายอำเภอแก่งกระจาน ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนกล่าว
ด้านนายวรวิทย์ สัมพัฒนวรชัย อัยการจังหวัดเพชรบุรี เผยว่า สำหรับคดีผู้ต้องหาที่กระทำความผิดทั้งเกี่ยวกับอาวุธปืนและเข้าไปล่าสัตว์โดยผิดกฏหมายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตามที่พนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้พิจารณาก่อนส่งฟ้องศาล ตามที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ที่กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชน เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่ส่งฟ้องเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกจับกุมได้ในชุดเดียวกันด้วยนั้น ในเบื้องต้นได้พิจารณากันแล้ว ยังมีประเด็นที่ต้องสั่งพนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นในการตรวจสอบสถานที่ต่างๆ ที่อยู่ในภาพถ่าย ซึ่งทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมคณะและผู้บริหารของกรมอุทยานฯได้ลงมาตรวจสอบไปก่อนหน้านี้นั้น ทางอัยการจะแจ้งขอข้อมูลใหม่ที่ตำรวจได้ทั้งหมดมาประกอบสำนวนเดิมเพื่อใช้พิจารณาสั่งฟ้องด้วย เพราะประเด็นการตรวจสอบความชัดเจนของภาพถ่าย เบื้องต้นทางอัยการเห็นว่าควรจะตรวจสอบอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งต้องขอเวลาตรวจสอบสำนวนหลักฐานให้ละเอียดรอบคอบเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เนื่องจากคดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของสื่อมวลชนและประชาชนทั่วไป ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาหรือสั่งฟ้องผู้ต้องหาเพิ่มหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ยังอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบสำนวน ในส่วนของผู้ต้องหาขณะนี้ได้อนุญาตให้ประกันตัวไปแล้วและไม่มีระยะเวลาในการฝากขังมาเป็นข้อกำหนด