แพทย์ระบุพบหัวใจ “พ่อคูณ” ผิดปกติ-ศิษย์วอนอย่าเชื่อข่าวลือละสังขาร

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์ชี้ “หลวงพ่อคูณ” อายุมาก มีโรคประจำตัวเพียบจึงเกิดปัญหาขึ้นได้ตลอดเวลา ล่าสุดพบหัวใจผิดปกติ แต่ยังไม่จำเป็นต้องรักษาทันที ชี้หากอาการดีขึ้นไร้ภาวะแทรกซ้อนคาด 2 สัปดาห์จะพิจารณากลับวัดอีกครั้ง ด้านลูกศิษย์วอน ปชช.อย่าหลงเชื่อข่าวลือหลวงพ่อละสังขาร คาดเป็นฝีมือเจ้ามือหวย ยันอยู่ในความดูแลของแพทย์ใกล้ชิด อาการดีขึ้นตามลำดับ

วันนี้ (15 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น. ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นห้องพักรักษาอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ

พร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคสมอง, โรคระบบทางเดินหายใจ, โรคติดเชื้อ, โรคปอด, โรคหัวใจและหลอดเลือด และวัณโรค เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อติดตามภาวะติดเชื้อซ้ำซ้อนในระบบทางเดินปัสสาวะและสำลักจนเกิดภาวะหลอดลมอักเสบซ้ำขึ้นอีก โดยคณะแพทย์ใช้เวลาตรวจนานเกือบ 1 ชั่วโมง (ชม.)

นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้อาการดีขึ้นตามลำดับ ไม่มีไข้กลับขึ้นมาอีก รู้ตัวพูดดี คุยได้เกือบปกติ เสลดเสมหะมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ทางคณะแพทย์อยากขอเรียนไปยังพี่น้องประชาชนให้ทราบว่าหลวงพ่อคูณอายุย่างเข้า 90 ปีแล้ว และมีโรคประจำตัวหลายโรค ทั้งเส้นเลือดหัวใจตีบ ทำบายพาสเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ซึ่งโดยทั่วไปผู้ที่ผ่านการทำบายพาสมา 10 ปีก็มักจะมีปัญหาเกิดขึ้น

นอกจากนี้ ท่านยังมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งมีโอกาสเกิดลิ่มเลือดในสมองทำให้เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาตซ้ำซ้อนได้, มีเส้นเลือดสมองตีบและแตกต้องไปผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ เมื่อ 8 ปีก่อน ส่งผลให้เกิดปัญหาต่อระบบการปัสสาวะและส่งผลจนถึงทุกวันนี้ และท่านยังมีโรคถุงลมโป่งพอง, วัณโรคปอด ซึ่งรักษาหายแล้วแต่เนื้อปอดบางส่วนแฟบไป หลอดลมบางส่วนผิดปกติ อีกทั้งยังเป็นโรคเบาหวาน และยังมีอีกหลายโรค

ฉะนั้น จากการที่หลวงพ่อมีอายุมากและมีโรคประจำตัวมากดังกล่าว คงพอจะเห็นแล้วว่าทำไมท่านจึงเกิดปัญหาทางปอดขึ้นบ่อยๆ และมีแนวโน้มต้องใส่สายสวนปัสสาวะไปตลอดชีวิตเพราะหลวงพ่อปัสสาวะเองไม่ได้ ขนาดมีน้ำปัสสาวะค้างอยู่เกือบลิตรยังไม่รู้สึกปวดปัสสาวะเลย ซึ่งเรื่องนี้อันตราย เนื่องจากจะส่งผลให้ไตมีปัญหา ดังนั้นสิ่งเหล่านี้คือเหตุผลที่ทำให้หลวงพ่อคูณเกิดมีปัญหาอยู่เรื่อยๆ

“อย่างไรก็ตาม จากการติดตามโรคเดิมของท่านตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติเกิดขึ้นในอวัยวะใด ยกเว้นหัวใจของท่าน มีบางอย่างที่เราเห็นว่าไม่ปกติแต่ยังไม่ถึงขั้นต้องไปทำอะไร คือ ยังไม่เป็นปัญหาเร่งด่วนที่จะต้องทำในตอนนี้” นพ.พินิศจัยกล่าว

นพ.พินิศจัยกล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการกลับวัดบ้านไร่นั้น หากหลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นเรื่อยๆ และไม่มีภาวะแทรกซ้อนอะไร ภายใน 2 สัปดาห์นี้จะได้พิจารณาให้กลับวัดบ้านไร่อีกครั้ง แต่มีประเด็นสำคัญคือ ตอนนี้ทุกครั้งที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงหลวงพ่อจะมีปัญหาทุกครั้ง อันนี้เราต้องวางระบบใหม่ทั้งหมด ทั้งที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา และที่วัดบ้านไร่ ซึ่งต้องมีห้องที่ควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ได้ สำหรับที่วัดบ้านไร่นั้น คณะลูกศิษย์กำลังดำเนินการกันอยู่ คงต้องรอให้เรื่องดังกล่าวนี้เรียบร้อยก่อนถึงจะให้ท่านกลับวัดบ้านไร่ได้

ด้าน นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมโรคปอด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า ปอดหลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นแล้ว แต่โรคถุงลมโป่งพองกำเริบขึ้นอีก ซึ่งเป็นโรคประจำตัวอยู่แล้วและทุกครั้งที่เป็นไข้ ไอ หรืออากาศเปลี่ยนแปลง
 
“หลวงพ่อมีโอกาสเกิดถุงลมโป่งพองกำเริบขึ้นได้ตลอดเวลา อย่างครั้งล่าสุดนี้อาการถุงลมโป่งพองก็กำเริบอีก แต่เมื่อให้ยาพ่นแล้วอาการดีขึ้น ไม่หอบเหนื่อยมาก เนื่องจากการสำลักคราวนี้ค่อนข้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับครั้งแรกที่มารักษา ซึ่งคงต้องเป็นๆ หายๆ อยู่อย่างนี้หลายครั้งแม้เราพยายามป้องกันให้ดีที่สุดแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม เพื่อความไม่ประมาทเราได้เตรียมเครื่องช่วยหายใจไว้ในห้องของท่านตลอดเวลา เช่นเดียวกับพักอยู่ในห้องไอซียู”

ขณะที่นายสมบูรณ์ โสตถิอนันต์ หรือ “ไก่โต้ง” ลูกศิษย์ใกล้ชิดหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า หลวงพ่อท่านยังจำลูกศิษย์ทุกคนได้ดี ส่วนข่าวลือเรื่องการละสังขารนั้น ขอยืนยันไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่เรื่องนี้คงไปห้ามไม่ให้มีข่าวลือไม่ได้ เพราะคนขายหวยมักไปปล่อยข่าวว่าหลวงพ่อจะมรณภาพบ้าง หรือละสังขารบ้าง เพื่อสร้างกระแสกระตุ้นการซื้อหวยเพื่อเพิ่มยอดขายซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงก่อนวันหวยออก ซึ่งตามความจริงแล้วหากหลวงพ่อมรณภาพจริงคงปิดบังกันไม่ได้ ต้องเป็นข่าวใหญ่โตผ่านสื่อต่างๆ แน่นอน ฉะนั้นประชาชนอย่าไปหลงเชื่อข่าวลือ เพราะขณะนี้หลวงพ่อคูณอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์อย่างใกล้ชิดและอาการอาพาธดีขึ้นตามลำดับ