ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “หลวงพ่อคูณ” โชว์ปั่นจักรยานไฟฟ้าและยกแขนออกกำลังเบาๆ ครั้งแรกหลังหายจากอาการติดเชื้อซ้ำซ้อน พร้อมให้พรปีใหม่ 2556 และบอก “กูดีแล้ว” บ่นอยากกลับวัดบ้านไร่ ด้าน ผอ.รพ.มหาราชนครราชสีมาเผยอาการดีขึ้นเกือบเป็นปกติแล้ว ไม่มีไข้ อยู่ในระยะฟื้นฟูร่างกาย ก่อนพิจารณากลับวัด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พักรักษาอาการอาพาธด้วยภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย. 2555 และเกิดภาวะแทรกซ้อนติดเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินหายใจ คณะแพทย์ต้องให้การรักษาอย่างใกล้ชิด จนถึงขณะนี้รวมเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน 9 วัน ซึ่งถือเป็นการรักษาข้ามปีและยาวนานที่สุดกว่าการอาพาธทุกครั้งที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (8 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.00 น. ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นห้องพักรักษาอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมด้วยทีมแพทย์ที่รักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ นำโดย นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้เข้าตรวจอาการหลวงพ่อคูณอีกครั้ง
พร้อมนิมนต์หลวงพ่อคูณลุกขึ้นจากเตียงผู้ป่วยก่อนให้ออกกำลังกายเบาๆ ด้วยการยกแขนขา และให้ปั่นจักรยานไฟฟ้าภายในห้องพัก หลังหายจากอาการอาพาธด้วยการติดเชื้อซ้ำซ้อนที่ระบบทางเดินหายใจในโรงพยาบาล
จากการสังเกตหลวงพ่อคูณ วันนี้มีใบหน้าที่สดชื่นแจ่มใส และดูแข็งแรงขึ้นมาก แต่ไม่ยอมพูดจากับทีมแพทย์มากนัก ซึ่งหลวงพ่อคูณสามารถปั่นจักรยานไฟฟ้า และยกแขนขาเพื่อทำกายภาพฟื้นฟูร่างกายได้นานกว่า 15 นาที ครั้งนี้คณะแพทย์อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพอยู่ด้านหน้าประตูห้องพักเท่านั้น โดยให้ห่างจากตัวหลวงพ่อคูณในรัศมี 2 เมตรเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน
จากนั้นหลวงพ่อคูณให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก โดยให้พรในโอกาสปีใหม่ 2556 ด้วยน้ำเสียงที่เบาและแหบแห้งว่า เอ่อ... ลูกหลานเอ๊ย… ปีใหม่เป็นวันดี ปีใหม่ปีเก่าก็คือเก่า ลูกหลานมึงเอ๊ย..กูดีแล้ว...จากนั้นลูกศิษย์ได้ประคองลุกขึ้นยืนแล้วเดินได้ประมาณ 4-5 ก้าวก่อนขึ้นเตียงผู้ป่วยพักผ่อน
นพ.ณรงค์ อภิกุลวนิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา กล่าวว่า อาการโดยภาพรวมหลวงพ่อคูณดีขึ้นเกือบเป็นปกติแล้ว ขณะนี้อยู่ในช่วงระยะพักฟื้น อาจมีเสลดเสมหะอยู่บ้าง แต่อาการไข้ที่เคยมีขณะนี้ไม่มีแล้ว ส่วนปอดขณะนี้ถือว่าดีขึ้นใกล้เคียงกับปกติ แต่เนื่องจากท่านมีโรคปอดอยู่เดิม อากาศเปลี่ยนแปลงจะทำให้มีเสลดเสมหะอยู่พอสมควร จากนี้ไปยังต้องเฝ้าดูแลเรื่องภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิดต่อไป
“อาการขณะนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่คณะแพทย์คงต้องดูเรื่องการฟื้นฟูสภาพหลวงพ่อต่อไปอีกระยะหนึ่ง ซึ่งจะแจ้งให้ประชาชนได้ทราบเป็นระยะๆ ไป หากอาการหลวงพ่อดีขึ้นและไม่มีไข้ ไม่มีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เราจะได้หารือกับบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกครั้งในการพิจารณานิมนต์ท่านกลับไปพักฟื้นต่อที่วัดบ้านไร่” นพ.ณรงค์กล่าว
สำหรับการฟื้นฟู คณะแพทย์พยายามให้หลวงพ่อมีกิจกรรมการออกกำลังกายด้วยการยกแขน การปั่นจักรยานไฟฟ้า หรือการพยุงให้ท่านลุกขึ้นมานั่ง เพื่อให้ฟื้นฟูสภาพของกล้ามเนื้อและทำให้เรื่องการขับเสลดเสมหะดีขึ้น หากท่านฟื้นได้ดีกว่านี้น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดี ซึ่งในช่วงพักฟื้นนี้ต้องยอมรับว่ามีความเสี่ยงในการติดเชื้อซ้ำซ้อนได้ตลอดเวลา
“ขณะนี้หลวงพ่ออายุมาก 90 ปีแล้ว และมีโรคปอด และเรื่องปัสสาวะออกน้อย และปัสสาวะลำบาก ฉะนั้นจึงมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนจากเรื่องต่างๆ ได้ตลอดเวลา คณะแพทย์ต้องดูแลกันอย่างใกล้ชิดจริงๆ และช่วงนี้หลวงพ่อก็บ่นอยากกลับวัดบ้านไร่ตลอด หากคิดว่าหลวงพ่อปลอดภัยดีแล้วคณะแพทย์เราคงจะอนุญาตให้หลวงพ่อกลับวัดบ้านไร่ต่อไป” นพ.ณรงค์กล่าว
คลิกเพื่อชมคลิป :