ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - อาการอาพาธ “หลวงพ่อคูณ” ดีขึ้นมาก หลังหยุดให้ยาฆ่าเชื้อ 2 วัน ไม่พบมีภาวะแทรกซ้อน ไม่มีไข้ ตื่นตัว และพูดคุยได้มาก รับอาหารทางสายยางได้ดี แต่ยังมีเสมหะอยู่มาก แพทย์ให้พ่นยาขยายหลอดลม และเคาะปอดต่อเนื่อง คาดให้กลับวัดได้หลังปีใหม่
วันนี้ (16 ธ.ค.) ความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ด้วยภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา ล่าสุด หลวงพ่อคูณ อาการดีขึ้นมาก ตื่นตัวมากขึ้น พูดคุยกับลูกศิษย์แพทย์พยาบาลที่เฝ้าไข้ได้มาก แต่ยังต้องใส่สายออกซิเจนเพื่อช่วยในการหายใจ
นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ซึ่งเป็นแพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า หลังหยุดให้ยาฆ่าเชื้อเป็นวันที่ 2 ยังไม่พบมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ และไม่มีไข้ อาการโดยรวมดีขึ้นกว่า 90% ตื่นตัว และพูดคุยได้มากขึ้น ปัญหาสำคัญตอนนี้ คือ ยังมีเสมหะอยู่มาก แม้จะลดลงจากเดิม ซึ่งต้องใช้เครื่องเคาะปอด และพ่นยาขยายหลอดลมต่อเนื่อง
สำหรับการรักษายังเป็นแนวทางเดิม คือ พยายามให้หลวงพ่อไอออกมาเองให้ได้ เพื่อขับเสมหะที่อยู่ในลำคอออกมาให้มากที่สุด ซึ่งตอนนี้ ท่านทำได้ดี ส่วนการฟื้นฟูร่างกายนั้นนักกายภาพบำบัดยังมาทำกายภาพยกแขนขาอยู่บนเตียงต่อเนื่องทุกวัน เพื่อให้กล้ามเนื้อมีแรง ส่วนน้ำหนักตัวเท่าเดิมคือ ประมาณ 45 กิโลกรัม และรับอาหารผ่านทางสายยางเข้าทางช่องท้องได้ดี
“วันพรุ่งนี้จะหารือกับคณะลูกศิษย์ในการเตรียมสถานที่รองรับการกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ แต่ที่แน่นอน คือ สัปดาห์หน้ายังกลับวัดไม่ได้ เบื้องต้น ได้หารือกันบ้างแล้ว หลายคนเห็นว่าน่าจะกลับหลังปีใหม่” นพ.พินิศจัยกล่าว
ด้าน นพ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมปอด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หนึ่งในทีมแพทย์รักษาอาการอาพาธหลวงพ่อคูณ กล่าวว่า สภาพปอดหลวงพ่อคูณมีการฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหลือพื้นที่อักเสบอยู่ประมาณ 20-30% ปอดที่เคยแฟบก็พองตัวขึ้นมาเป็นปกติเหมือนก่อนเข้าโรงพยาบาลครั้งล่าสุด ส่วนการรักษาอาการอักเสบของปอดยังให้ยาพ่นต่อเนื่อง พร้อมกับให้ยาขยายหลอดลม ให้ออกซิเจน หากอาการดีขึ้นเช่นนี้ คาดว่าสัปดาห์หน้าจะเริ่มการฟื้นฟูสภาพปอด โดยการฝึกการหายใจ และให้ปั่นจักรยานไฟฟ้า เพื่อบริหารปอดให้แข็งแรง