ชุมนุมต้านศาลโลกไม่กระทบค้าท่องเที่ยวชายแดน “ช่องสะงำ”

ศรีสะเกษ - ชุมนุมค้านอำนาจศาลโลก คดีปราสาทพระวิหาร ที่ อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษไม่กระทบการค้าท่องเที่ยวชายแดน “ช่องสะงำ” อ.ภูสิงห์ ชาวเขมรแห่มาซื้อสินค้าฝั่งไทยคึกคัก

วันนี้ (13 ม.ค. ) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ศรีสะเกษว่า แม้ขณะนี้กลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยกรณีปราสาทพระวิหาร มณฑลบูรพา และกลุ่มพลังมวลชนจากจังหวัดต่างๆ กำลังพากันชุมนุมเปิดเวทีปราศรัยเพื่อคัดค้านอำนาจศาลโลก กรณีคดีตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ตามคำร้องของฝ่ายกัมพูชา อยู่ที่ “ศูนย์ประสานงานหมู่บ้านสมัชชาธรรมยาตราพิทักษ์สยาม ทวงคืนเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา โดยอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ.1941” บ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่การชุมนุมดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการค้า และการท่องเที่ยวที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด

ในวันนี้ เป็นวันเปิดตลาดนัดชายแดนไทย-กัมพูชาที่บริเวณตลาดเขตแดนไทย ปรากฏว่า มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนชาวกัมพูชาพากันเข้ามาหาซื้อสินค้า รวมทั้งนำเอาสินค้าทางการเกษตรเข้ามาขายในตลาดเขตแดนไทยกันอย่างคึกคัก ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่

นายสมพงษ์ คำแก้ว อายุ 45 ปี พ่อค้าชาวไทยกล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มธรรมยาตราฯ และกลุ่มมวลชนต่างๆ ที่ อ.กันทรลักษ์ ไม่ได้มีผลกระทบต่อการค้า และการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชาไทยแต่อย่างใด ชาวกัมพูชา และชาวไทยที่บริเวณช่องสะงำ ยังคงไปมาหาสู่กันตามปกติ และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเช่นเดิม ไม่ได้หวั่นวิตกต่อการเคลื่อนไหวชุมนุมดังกล่าว

“วันนี้พวกเราพ่อค้าแม่ค้าชาวไทยขายสินค้าได้ดีมาก เพราะชาวกัมพูชายังมีความต้องการเครื่องอุปโภคบริโภค และสินค้าต่างๆ จำนวนมาก การเปิดตลาดนัดที่ช่องสะงำทุกครั้งจึงมีชาวกัมพูชาเข้ามาหาซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศก็เข้าไปท่องเที่ยวในเขตกัมพูชากันอย่างคึกคักเช่นกัน” นายสมพงษ์กล่าว