xs
xsm
sm
md
lg

โพลจี้รบ.ป้องสิทธิ์พระวิหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จี้ไทยลาออกจากการเป็นกรรมการมรดกโลก เพื่อปกป้องอธิปไตยไทย หลังสมยอมให้เขมรเป็นประธานประชุมมรดกโลกเดือน เม.ย.ปีนี้โดยไม่คัดค้าน ส่อปล่อยเขมรผลักดันแผนบริหารพื้นที่สำเร็จ จวก "เพื่อไทย" เอาชีวิต "วีระ -ราตรี" หาเสียง ธรรมยาตราเปิดเวทีทวงคืนเขาพระวิหาร ขณะที่สวนดุสิตโพลระบุประชาชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีและสิทธิของไทย

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์คดีพิพาทประสาทเขาพระวิหารระหว่างไทยกัมพูชา ว่า ปัญหาเริ่มจากรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ไปลงนามในแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา สนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลกแต่เพียงฝ่ายเดียวโดยที่ไทยไม่คัดค้าน ซึ่งก่อนหน้านั้นรัฐบาลทุกชุด ได้พยายามที่จะขัดขวาง โดยผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนร่วมกันของทั้งสองประเทศ แต่พรรคพลังประชาชน กลับสนับสนุนให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนได้เพียงฝ่ายเดียว จนเป็นปัญหามาถึงทุกวันนี้

แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีคำวินิจฉัยให้แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นโมฆะ เนื่องจากขัด รธน. มาตรา 190 แต่ก็ไม่เป็นผลในการยับยั้ง เนื่องจากกัมพูชาได้ใช้แถลงการณ์ดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังมีแผนบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาท เพื่อให้การขึ้นมีทะเบียนมีความสมบูรณ์ แต่รัฐบาลประชาธิปัตย์ได้เข้าไปคัดค้านตลอดช่วงการบริหารประเทศเกือบสามปีในเวทีมรดกโลก ด้วยการโต้แย้งสิทธิในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารว่า อาจกระทบต่ออธิปไตยของไทย จนทำให้กัมพูชาไม่สามารถบริหารจัดการพื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร ตามแผนที่เสนอต่อมรดกโลกได้มาจนถึงทุกวันนี้

นายชวนนท์ กล่าวว่า แต่รัฐบาลชุดนี้กลับมีจุดยืนที่แตกต่างจากรัฐบาลที่แล้ว โดยไม่ตระหนักถึงจุดยืนในการรักษาอธิปไตยของชาติ หากยังปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปในการประชุม ซึ่งกัมพูชาจะเป็นเจ้าภาพคณะกรรมการมรดกโลกในช่วงเดือนเมษายน 2556 นี้ อาจทำให้ไทยเสียเปรียบ และทำให้กัมพูชาสามารถผลักดันแผนบริหารพื้นที่ได้สำเร็จ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการตัดสินคดีในศาลโลกด้วย เพราะท่าทีของรัฐบาล ไม่มีความเข้มแข็งในการต่อสู้กับกัมพูชา จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทย ทำหนังสือต่อคณะกรรมการมรดกโลกเพื่อยืนยันสถานะของไทยในการลาออกจากการเป็นประเทศสมาชิกของกรรมการมรดกโลกทันที หลังจากที่ก่อนหน้านี้ในรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ เคยประกาศลาออกเอาไว้ด้วยวาจา แต่ช่วงนั้นเป็นรัฐบาลรักษาการ จึงไม่ได้มีการทำหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการ รอให้เป็นการตัดสินใจของรับบาลชุดใหม่

อย่างไรก็ตาม เห็นว่ามีความจำเป็นที่ต้องยืนยันการลาออกดังกล่าว แต่ถ้ายังไม่ลาออก ก็ขอตั้งคำถามกลับว่า รัฐบาลต้องการให้แผนบริหารพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารของกัมพูชา ตามที่เคยตกลงไว้ในสมัยรัฐบาลพรรคพลังประชาชน ให้ประสบความสำเร็จ ใช่หรือไม่

** หยุดใช้"วีระ-ราตรี"หาเสียง

นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงกรณีที่ กัมพูชา จะปล่อยตัว น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ในวันที่ 1 ก.พ. 56 และ อภัยโทษ นายวีระ สมความคิด เหลือ 6 เดือน ว่า คนไทยตั้งหน้าตั้งตารอการกลับมาของทั้งสองคน ไม่ควรมีการนำมาเป็นประเด็นทางการเมืองทั้งสิ้นเพราะอยู่ในคุกสองปีกว่าแล้ว แต่ที่พรรคเพือ่ไทย พยายามกล่าวหาว่า เพราะพรรคประชาธิปัตย์ ช่วยแต่ส.ส.ของตัวเอง และมีความสัมพันธ์ไม่ดี จึงทำให้บุคคลทั้งสองต้องอยู่ในคุกนั้น ทำให้ต้องชี้แจงความจริงว่า เหตุผลที่ทำให้ความสัมพันธ์ไม่ดี เพราะพรรคประชาธิปัตย์ รักษาศักดิ์ศรี ผลประโยชน์คนไทย และอธิปไตยของชาติ ทำให้กัมพูชาไม่พอใจ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวระหว่างนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และสมเด็จฮุนเซน นายกฯกัมพูชา จึงขอถามพรรคเพื่อไทยว่า ที่มีความสัมพันธ์ดีกับกัมพูชาได้ต่อสู้เหมือนที่พรรคประชาธิปัตย์ทำหรือไม่ หรือว่าความสัมพันธ์ดีเกิดขึ้น เพราะมีการเอาผลประโยชน์ไปประเคนให้กัมพูชา ทั้งทางบกและทางทะเล

ทั้งนี้ขอยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์ เลือกรักษาประโยชน์ให้ชาติแม้ความสัมพันธ์จะกระท่อนกระแท่น ก็ตาม

นายชวนนท์ กล่าวด้วยว่า อีกทั้งภายหลังเหตุการณ์ที่คนไทยถูกจับกุมนั้น มีคนไทยถูกจับทั้งหมด 7 คน ตนและนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น ได้เดินทางไปทันที รวมถึงเดินทางไปอีกหลายครั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้ญาติ และช่วยเหลือคนไทยทั้งหมดด้วยการเจรจากับกัมพูชา จนประสบความสำเร็จสามารถช่วยเหลือได้ 6 คน แต่ นางสาวราตรี ปฏิเสธที่จะลงนามในหนังสือที่จะได้รับการปล่อยตัว โดยสมัครใจที่จะอยู่กัมพูชา ร่วมกับนายวีระ ซึ่งเราก็เสียใจที่ช่วยไม่ได้ครบทุกคนพร้อมกับยืนยันว่า ไม่เคยเลือกปฏิบัติ หรือเอาเรื่องดังกล่าวมาเป็นเครื่องมือการเมืองดิสเครดิตฝ่ายตรงข้าม เพื่อสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง แต่ดำเนินการทุกอย่างโดยยึดถือประโยชน์ประเทศบนพื้นฐานของความจริง

**พท.ปัดแลกผลประโยชน์

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ไม่อยากให้ฝ่ายค้านหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาล นำประเด็นข้อพิพาทปราสาทเขาพระวิหาร ไปขยายผลทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นที่รัฐบาลกัมพูชากำลังจะปล่อยตัว น.ส.ราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ และลดโทษ นายวีระ สมความคิด 6 เดือน มาเชื่อมโยงกัน โดยขอปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง ที่มีการกล่าวหาว่า รัฐบาลมีการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับทางกัมพูชาในประเด็นดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นายพร้อมพงศ์ ยืนยันว่า รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย จะต่อสู้ในเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก และขอให้ทุกส่วนในสังคม ให้กำลังใจผู้เกี่ยวข้องในกรณีดังกล่าวด้วย

**ธรรมยาตราเปิดเวทีทวงคืน

แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า กลุ่มธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทย ในกรณีเขาพระวิหาร และมณฑลบูรพา ผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัย ที่หมู่บ้านสมัชชาธรรมยาตราพิทักษ์สยาม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อสร้างความเข้าใจกับกลุ่มมวลชน เกี่ยวกับกรณีข้อพิพาทปราสาทพระวิหาร ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของทหาร ที่ตั้งด่านป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีเข้าไปสร้างสถานการณ์

นายสมาน ศรีงาม ประธานกลุ่มฯ เปิดเผยว่า การจัดเวทีครั้งนี้ เพื่อกำหนดแนวทางการทวงคืนเขาพระวิหาร โดยขณะนี้ทางกลุ่มได้ให้ฝ่ายกฎหมาย ศึกษาแนวทางยื่นฟ้องต่อศาลโลกโดยตรง ในฐานะประชาชนชาวไทย โดยจะรวบรวมเอกสาร และอนุสัญญาโตเกียว 1941 ซึ่งทำในสมัย จอมพล ป. พิบูลย์สงคราม เสนอให้ศาลโลกพิจารณา ก่อนจะตัดสินคดีช่วงปลายปีนี้ แต่จะไม่เคลื่อนไหวชุมนุมเข้าใกล้บริเวณปราสาทพระวิหาร เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอ่อนไหวต่อความมั่นคงของไทยและกัมพูชา และจะกำหนดการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ก่อนการประชุมพิจารณาคดีภายในเดือนเมษายน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การชุมนุมของกลุ่มธรรมยาตรา และกลุ่มพลังมวลชนจากจังหวัดต่างๆครั้งนี้ ไม่ส่งผลกระทบต่อการค้า และการท่องเที่ยว ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ แต่อย่างใด ซึ่งในวันนี้ เป็นวันเปิดตลาดนัดไทย-กัมพูชา ที่บริเวณตลาดไทย ในเขตแดนไทย ปรากฏว่า มีบรรดาชาวกัมพูชา พากันเข้ามาหาซื้อสินค้า รวมทั้งนำเอาสินค้าทางการเกษตรเข้ามาขายในเขตแดนไทยกันอย่างคึกคัก โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่

นายสมพงศ์ คำแก้ว อายุ 45 ปี พ่อค้าชาวไทยคนหนึ่ง ที่ช่องสะงำ กล่าวว่า การชุมนุมของกลุ่มธรรมยาตรา ที่ อ.กันทรลักษ์ ไม่ได้มีผลกระทบต่อทางการค้าและการท่องเที่ยวของไทยแต่อย่างใด ชาวกัมพูชา และชาวไทย ที่บริเวณช่องสะงำ ยังคงไปมาหาสู่กันตามปกติ และยังคงมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันเช่นเดิม ขณะที่ นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศ พากันเข้าไปท่องเที่ยวในเขตกัมพูชา กันอย่างคึกคัก

**โพลจี้รัฐบาลปกป้องศักดิ์ศรีไทย

สวนดุสิตโพล สำรวจความเห็นประชาชนเพื่อสะท้อนความคิดเห็นในภาพรวม ต่อกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ในเรื่องปราสาทพระวิหาร ซึ่งมีการโต้ตอบกันระหว่างรัฐบาล และฝ่ายค้าน รวมทั้งกลุ่มประชาชน ต่างก็วิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วย และไม่เห็น

ผลสำรวจประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับกรณีพิพาท "เรื่องปราสาทพระวิหาร" ระหว่างไทย-กัมพูชา มากน้อยเพียงใด? 54.08 % ระบุ พอรู้บ้าง เพราะเป็นกรณีพิพาท เป็นปัญหาระดับประเทศ สื่อต่างๆ มีการนำเสนอเป็นระยะๆ เป็นเรื่องของคนไทยทุกคน ฯลฯ ส่วน 30.29% ไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะ พอได้ยินได้ฟังมาบ้าง แต่ไม่รู้ข้อมูลรายละเอียดเท่าที่ควร รู้แค่เพียงผิวเผิน ฯลฯ ขณะที่ 9.13% ไม่รู้เรื่องเลย เพราะไม่สนใจ ต้องทำงาน ไม่มีเวลา ไม่ได้ติดตามข่าว ฯลฯ และ 6.50 % รู้อย่างดี เพราะ เป็นปัญหาสำคัญของประเทศที่เกิดขึ้นมานานแล้ว อยากรู้ข้อเท็จจริง ติดตามข่าวนี้มาตลอด ฯลฯ
ส่วนรัฐบาล ฝ่ายค้าน และประชาชน ควรทำอย่างไร? กรณีพิพาท "เรื่องปราสาทพระวิหาร" ระหว่างไทย-กัมพูชา ผลสำรวจพบว่า ฝ่ายรัฐบาล ควรทำดังนี้ คือ อันดับ 1 ดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อปกป้องศักดิ์ศรี และสิทธิของประเทศไทย /ศึกษาข้อมูล เอกสาร สัญญาต่างๆ อย่างละเอียด 66.07%
อันดับ 2 ไม่ปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชน ต้องชี้แจงสถานการณ์ความคืบหน้าเป็นระยะๆ 20.27 % และ อันดับ 3 ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นึกถึงความปลอดภัยของประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน 13.66 %

สำหรับฝ่ายค้าน อันดับ 1 ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการหาวิธีแนวทางแก้ไขปัญหา ให้ข้อแนะนำคำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ 58.41% อันดับ 2 ไม่เล่นเกมการเมือง ไม่นำเรื่องนี้มาสร้างกระแส หรือสร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมือง 21.75 % อันดับ 3 ให้เวลารัฐบาลในการแก้ปัญหาสักระยะ อย่าขัดกันเอง 19.84%

ด้านประชารชน อันดับ 1 รับฟังข่าวสารอย่างมีสติ วิจารณญาณ /ไม่ตื่นตระหนกไปกับข่าวลือ หรือข่าวลวง 45.21 % อันดับ 2 อยู่เฉยๆ ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ไม่สร้างปัญหาให้กับบ้านเมือง 40.19 % และ อันดับ 3 เป็นกำลังใจให้กับทุกฝ่าย โดยเฉพาะรัฐบาลที่ต้องรับบทหนักในเรื่องนี้ 14.60 %.
กำลังโหลดความคิดเห็น