ศรีสะเกษ - ปชช.ชายแดนไทยเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ พร้อมลุกฮือร่วมชุมนุมต้านศาลโลก ลั่นไม่ยอมให้ชาติไทยเสียดินแดนเด็ดขาด ขณะหมู่บ้านศูนย์ประสานงานฯ ทวงคืนเขาพระวิหาร ประเดิมเปิดปราศรัยทุกวัน เพื่อให้ความรู้ปชช.กรณีปราสาทพระวิหารและปลุกสำนึกคนไทยก่อนถึงวันนัดชุมนุมใหญ่ 12-13 ม.ค.นี้
วันนี้ (7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย กล่าวว่า จากการที่ขณะนี้ได้มีกลุ่มพลังมวลชนทำการเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านไม่ยอมรับขอบเขตศาลโลก กรณีพิจารณาคดีตีความคดีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 เกี่ยวข้องกับเขตแดนตามคำร้องของประเทศกัมพูชาที่จะมีคำพิพากษาภายในปีนี้นั้น ตนเห็นว่าเรื่องนี้ศาลโลกคงต้องใช้การพิจารณาค่อนข้างละเอียดมาก เนื่องจากหากมีการวินิจฉัยเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็อาจทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นระหว่างไทย-กัมพูชา
โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนชาวไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาจะได้รับผลกระทบมาก หากการวินิจฉัยของศาลโลกออกมาทำให้ไทยต้องเสียดินแดนบริเวณเขาพระวิหาร เนื่องจากชาวบ้านคนไทยเคยพากันเข้าไปหาของป่าและใช้ประโยชน์ในพื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) มาโดยตลอด อีกทั้งไร่นาบางส่วนก็อยู่ติดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา หากการวินิจฉัยของศาลโลกออกมาแล้วทำให้ไทยเสียดินแดน ชาวบ้านก็จะได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากเช่นกัน
นายก อบต.เสาธงชัยกล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนเชื่อว่าทุกฝ่ายคงคาดการณ์เหมือนกันว่าศาลโลกวินิจฉัยอะไรออกมาก็ต้องคำนึงถึงเขตแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาเป็นสำคัญ เนื่องจากเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และตนคาดว่าศาลโลกอาจยื้อการวินิจฉัยคำพิพากษาเรื่องนี้ออกไปอีก เพราะหากวินิจฉัยออกมาแล้วเป็นประโยชน์แก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็อาจทำให้เกิดสงครามปะทะกันระหว่างทหารทั้ง 2 ฝ่ายตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งชาวบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย เองมีการพูดคุยกันในเรื่องนี้มาก แต่ขณะนี้เหตุการณ์ยังคงปกติ
ทั้งนี้ หากมีการชุมนุมใหญ่เพื่อคัดค้านอำนาจศาลโลก ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.ศรีสะเกษก็พร้อมเข้าร่วมชุมนุมเพื่อต่อต้านไม่ให้ชาติไทยต้องเสียดินแดนเพราะคำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาของศาลโลกอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงต้องให้โอกาสแก่รัฐบาลไทย นำโดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีโอกาสทำงานอย่างเต็มที่ เชื่อว่ารัฐบาลไทยคงไม่ยอมให้ไทยต้องเสียดินแดนกรณีปราสาทพระวิหาร และมั่นใจว่าทหารไทยเองคงไม่ยอมให้มีการเสียดินแดนไทยที่บริเวณเขาพระวิหารอย่างเด็ดขาดเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ขณะเดียวกัน ที่บ้านเลขที่ 221 หมู่ 4 บ้านโศกขามป้อม ต.ภูผาหมอก อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นบ้านของนายผัน กิ่งแสง อายุ 75 ปี ที่ได้จัดเป็นศูนย์ประสานงานในการขับเคลื่อนกรณีปัญหาเขตแดนเขาพระวิหารและคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งได้ใช้ชื่อว่า “หมู่บ้านสมัชชาธรรมยาตราพิทักษ์สยาม ทวงคืนเขาพระวิหาร มณฑลบูรพา โดยอนุสัญญาโตเกียว ค.ศ. 1941” ขณะนี้ได้มีการจัดเตรียมเวทีเสร็จเรียบร้อยแล้ว และนายกิติศักดิ์ พ้นภัย หัวหน้ากลุ่มกำลังแผ่นดิน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้นำเอาเครื่องเสียงขนาดใหญ่มาติดตั้งพร้อมทั้งเปิดเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศกันอย่างคึกคัก
นายผัน กิ่งแสง อายุ 75 ปี แกนนำชาวบ้านชายแดนไทยเขาพระวิหาร อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ขณะนี้สถานที่ชุมนุมเคลื่อนไหวคัดค้านอำนาจศาลโลกมีความพร้อมอย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งตนได้รับการประสานงานจากกลุ่มพลังมวลชนจากทั่วประเทศยืนยันว่าจะพากันมาร่วมชุมนุมเคลื่อนไหวค้านศาลโลกในวันที่ 12-13 ม.ค.นี้ และทุกวันเริ่มตั้งแต่เวลา 16.00 น. ของวันนี้ (7 ม.ค.) เป็นต้นไปจะเริ่มเปิดปราศรัยให้ความรู้เกี่ยวกับปราสาทพระวิหารให้ชาวบ้านตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาได้รับทราบ เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกให้ชาวไทยทุกคนที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ได้ออกมาร่วมกันคัดค้านอำนาจศาลโลกอย่างเต็มที่ต่อไป