ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ปทส.” ตำรวจภาค 3 สกัดจับรถสิบล้อบรรทุกไม้พะยูงล็อตใหญ่กว่า 250 ท่อน มูลค่าส่งออกกว่า 15 ล้าน เตรียมขนเข้าโกดังบางนา กรุงเทพฯ ก่อนส่งออกต่างประเทศ ด้านคนขับไหวตัวหลบหนีไปได้ ตำรวจเร่งขยายผลรวบเครือข่าย
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตำรวจภูธรภาค 3 (ปทส.ภ.3) นำโดย พ.ต.ท.ไท สกุลสันติรักษ์ รองผู้กำกับการ (ผกก.) ปทส.ภ.3 ได้ทำการตรวจยึดรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว หมายเลขทะเบียน 80-4343 สุรินทร์ ซึ่งบรรทุกไม้พะยูงกว่า 250 ท่อน น้ำหนักประมาณ 20 ตัน มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท มาตรวจสอบที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา
หลังจากเจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับได้ที่บริเวณถนนมิตรภาพ ทางเลี่ยงเมืองนครราชสีมา ฝั่งขาออกหน้าศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา แต่คนขับไหวตัวทันวิ่งหลบหนีไปได้ ทิ้งไว้เพียงรถบรรทุกไม้พะยูง
สำหรับการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) ได้สั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ ปทส.ภ.3 เร่งทำการกวาดล้างกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างอย่างเข้มข้น
ปทส.ภ. 3 จึงได้วางสายข่าวลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว กระทั่งมีรายงานว่าจะมีการขนไม้พะยูงซึ่งเป็นไม้หวงห้ามจากพื้นที่ ต.ท่าตูม จ.สุรินทร์ เพื่อนำไปเก็บซ่อนไว้ที่ย่านบางนา จ.สมุทรปราการ รอการลักลอบขนย้ายออกนอกประเทศ จึงนำกำลังกระจายตามจุดที่คาดว่าเป็นเส้นทางขนย้าย กระทั่งทราบเป้าหมายชัดเจน จึงเข้าทำการจับกุมแต่คนขับไหวตัวทันทิ้งรถ และหลบหนีไปได้
จากการตรวจสอบพบไม้พะยูง จำนวน 250 ท่อนดังกล่าว ถูกปิดทับด้วยผ้าใบคลุมอีกชั้นหนึ่งเพื่ออำพรางตาเจ้าหน้าที่ และขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังทำการขยายผล เนื่องจากทราบว่ามีรถนำหน้าเพื่อดูต้นทางเพื่อให้รถบรรทุกไม้พะยูงขับตาม เพื่อสาวไปถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังต่อไป
ด้าน นายสุรวุฒิ ใจกิจสุวรรณ หัวหน้าฝ่ายป้องกันรักษาป่า สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา ซึ่งได้เดินทางมาตรวจสอบไม้ดังกล่าว เปิดเผยว่า ไม้พะยูงที่จับได้ครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นไม้ใหม่ขนาดเล็ก คาดว่าเป็นไม้พะยูงที่ตัดไว้ในป่าก่อนเข้าไปลำเลียงออกมา หรือนำมาทำเสารั้วเพื่ออำพรางให้เป็นไม้เก่า เนื่องจากไม้บางท่อนยังมีรอยฝังดินอยู่ และเปลือกไม้ส่วนใหญ่แห้งตายหมดแล้ว
ทั้งนี้ ปัจจุบันไม้พะยูงขนาดเล็กเริ่มเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น ซึ่งไม้พะยูงจำนวน 250 ท่อนนี้ หากนำออกส่งขายต่างประเทศได้จะมีมูลค่าเพิ่มอีกเป็น 10 เท่า หรือกว่า 15 ล้านบาท