xs
xsm
sm
md
lg

ตะลึง! ตร.โคราชสกัดจับแก๊งขนไม้พะยูง 1,500 ท่อน มูลค่ากว่า 400 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.ภ.3  นำคณะ แถลงข่าวตำรวจสภ.โชคชัย จ.นครราชสีมา  จับกุมรถบรรทุกสิบสองล้อ 2 คันขนไม้พะยูงล็อตใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย ไม้พะยูงของกลาง  1,500 ท่อน มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท วันนี้ ( 31 ส.ค.)
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตะลึง! ตำรวจสภ.โชคชัย โคราช สกัดจับแก๊งขนไม้พะยูงเถื่อนล็อตใหญ่สุดเป็นประวัติการณ์ ได้ของกลางไม้พะยูงร่วม 1,500 ท่อน ขนมาในรถบรรทุกสิบสองล้อ 2 คัน มูลค่ากว่า 400 ล้าน พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย สารภาพรับจ้างนายทุนขนเที่ยวละ 3,000 บาท จากบุรีรัมย์ ส่งปลายทาง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะ “ผบช.ภ. 3” เต้น สั่งตั้ง กก.สอบเอาผิด 5 สภ.รายทางปล่อยรถขนไม้ผ่านมาได้อย่างไร

วันนี้ (31 ส.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่หน้าศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) พร้อมด้วย พล.ต.ต.กรกต สาริยา รอง ผบช.ภ.3 ร่วมกันแถลงข่าวตำรวจ สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา จับกุมผู้ลักลอบขนไม้พะยูงรายใหญ่ ได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายบุญรอด ศาลางาม อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 ม.4 ต.บ้านไทร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และนายเสาร์ เชาว์ดี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/3 ม.4 ต.ปัถวี อ.มะขาม จ.จันทบุรี พร้อมของกลางไม้พะยูงจำนวนมากถึง 1,470 ท่อน มูลค่ากว่า 400 ล้านบาท รถบรรทุกสิบสองล้อ จำนวน 2 คัน ที่ใช้บรรทุกไม้พะยูง

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ได้รับแจงจากสายข่าวว่า จะมีขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงผ่านเข้ามาในเขตพื้นที่รับผิดชอบ จึงวางแผนการจับกุม และตั้งจุดตรวจสกัดขึ้นที่บริเวณถนนสายเดชอุดม-โชคชัย ม.2 ต.โชคชัย อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา กระทั่งเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ ได้มีรถบรรทุกสิบสองล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 78-7328 กรุงเทพฯ ซึ่งมีนายบุญรอด เป็นคนขับ และรถบรรทุกสิบสองล้อ ยี่ห้อฮีโน่ ทะเบียน 78-7321 กรุงเทพฯ มีนายเสาร์ เป็นคนขับ วิ่งมาถึงจึงเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น

ผลการตรวจค้นพบไม้พะยูงจำนวนมากบรรทุกอยู่ด้านหลังรถทั้ง 2 คัน โดยมีเพียงผ้าใบปิดคลุมไว้เท่านั้น ซึ่งไม้พะยูงดังกล่าวมีทั้งไม่เก่า และไม้ใหม่ที่ถูกแช่น้ำให้มีลักษณะเหมือนไม้เก่า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่10 เซนติเมตร (ซม.) ยาวประมาณ 2 เมตรขึ้นไป เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า “มีไม้หวงห้ามท่อน (ไม้พะยูง) อันยังไม่ได้แปรรูปไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย”

ด้านผู้ต้องหาทั้ง 2 คนให้การรับสารภาพว่า รับจ้างขนไม้พะยูงมาจาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ เพื่อไปส่งปลายทางที่ตลาดขายไม้เก่า ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งจะมีคนนำรถมาขนถ่ายไม้พะยูงต่อไปอีกทอดหนึ่ง โดย “นายอุ๊” ไม่ทราบชื่อสกุลจริงเป็นผู้ว่าจ้างขน ในราคาเที่ยวละ 3,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ขับรถขนกระเบื้องมาส่งให้ลูกค้าที่ จ.บุรีรัมย์ ขากลับไม่อยากตีรถเปล่ากลับจึงรับจ้างขนไม้ให้ “นายอุ๊” โดยไม่รู้มาก่อนว่าเป็นไม้พะยูงคิดว่าเป็นไม้เก่าเท่านั้น ทำมาแล้ว 2 ครั้ง และครั้งนี้มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ดังกล่าว

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า การจับกุมไม้พะยูงครั้งนี้ถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์เท่าที่เคยจับกุมมาในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 ซึ่งการกระทำของคนร้ายไม่ได้เกรงกลัวกฎหมาย และเจ้าหน้าที่เลย เพราะการขนไม่มีการอำพรางอะไรมากเพียงแต่ใช้ผ้าใบคลุมมาเหมือนสินค้าถูกกฎหมายทั่วไปเท่านั้น หากนำออกไปขายต่างประเทศได้จะมีมูลค่าสูงกว่า 400 ล้านบาท จากการตรวจสอบไม้พะยูงที่จับได้มีทั้งไม้เก่า และไม้ใหม่ที่ถูกแช่น้ำไว้ก่อนนำออกมา

อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ตั้งกรรมการสอบสถานีตำรวจที่เป็นเส้นทางผ่านของขบวนการขนไม้พะยูงล็อตใหญ่ครั้งนี้ ตั้งแต่ สภ.ประโคนชัย, สภ.เฉลิมพระเกียรติ, สภ.นางรอง, สภ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และ สภ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ที่ปล่อยให้รถบรรทุกขนไม้พะยูงผิดกฎหมายจำนวนมากผ่านมาได้อย่างไร เพราะไม้พะยูงเป็นท่อนขนาดใหญ่ไม่ใช่ไม้จิ้มฟันที่สามารถซุกซ่อนจนมองไม่เห็นได้ พร้อมสั่งให้มีการขยายผลการจับกุมในครั้งนี้ด้วย พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว







กำลังโหลดความคิดเห็น