นราธิวาส - เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจบนถนนในหมู่บ้านบางขุด อ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังได้รับแจ้งว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงจากภาคเหนือเข้ามาส่งในพื้นที่ สามารถจับกุมไม้พะยูงจำนวน 140 ต้น มูลค่ากว่า 27 ล้านบาท ขณะที่คนขับอ้างไม่รู้นึกว่าข้าวสาร
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 พ.ย.) พล.ต.ต.ทรงเกียรติ์ วาทะกุล ผบก.สส.ศชต. สั่งการให้ ร.ต.อ.วินิจ ขจรจตุพร รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.ศชต. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจบนถนนในหมู่บ้านบางขุด หมู่ 1 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงจากภาคเหนือเข้ามาส่งในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส จนกระทั่งมีนายบุญเชิด โขงจันทึก อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 10 ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 80-0469 ร้อยเอ็ด ที่บรรทุกข้าวสารเต็มคันผ่านมาอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น และจากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบไม้พะยูงจำนวน 140 ต้น มูลค่ากว่า 27 ล้านบาท ซุกซ่อนไว้ในสุดของกระบะบรรทุกโดยมีกระสอบข้าวสารจำนวนมากวางปิดทับไม้พะยูงเอาไว้
จากการสอบสวน นายบุญเชิด ให้การว่า ตนรับรถยนต์บรรทุกสิบล้อคันนี้ต่อมาจากเพื่อนชื่อ โจ้ ไม่ทราบนามสกุล โดยตนรับช่วงขับรถบรรทุกจาก จ.นครราชสีมา ถึง จ.นราธิวาส ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 15,000 บาท แต่ปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องไม้พะยูง เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นข้าวสารไม่ทราบว่ามีไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะบรรทุก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายบุญเชิด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แว้ง เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ต่อไป
เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (4 พ.ย.) พล.ต.ต.ทรงเกียรติ์ วาทะกุล ผบก.สส.ศชต. สั่งการให้ ร.ต.อ.วินิจ ขจรจตุพร รอง สว.กก.สส.2 บก.สส.ศชต. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งจุดตรวจบนถนนในหมู่บ้านบางขุด หมู่ 1 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังสืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงจากภาคเหนือเข้ามาส่งในพื้นที่ อ.แว้ง จ.นราธิวาส จนกระทั่งมีนายบุญเชิด โขงจันทึก อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52/2 หมู่ 10 ต.บ้านเก่า อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ขับรถยนต์บรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 80-0469 ร้อยเอ็ด ที่บรรทุกข้าวสารเต็มคันผ่านมาอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงขอตรวจค้น และจากการตรวจค้นอย่างละเอียดพบไม้พะยูงจำนวน 140 ต้น มูลค่ากว่า 27 ล้านบาท ซุกซ่อนไว้ในสุดของกระบะบรรทุกโดยมีกระสอบข้าวสารจำนวนมากวางปิดทับไม้พะยูงเอาไว้
จากการสอบสวน นายบุญเชิด ให้การว่า ตนรับรถยนต์บรรทุกสิบล้อคันนี้ต่อมาจากเพื่อนชื่อ โจ้ ไม่ทราบนามสกุล โดยตนรับช่วงขับรถบรรทุกจาก จ.นครราชสีมา ถึง จ.นราธิวาส ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 15,000 บาท แต่ปฎิเสธไม่มีส่วนรู้เห็นเรื่องไม้พะยูง เนื่องจากเข้าใจว่าเป็นข้าวสารไม่ทราบว่ามีไม้พะยูงซุกซ่อนอยู่ภายในกระบะบรรทุก เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายบุญเชิด พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.แว้ง เพื่อดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ต่อไป
