ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ พร้อม นอภ.บางสะพานน้อย สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร ตชด. ตำรวจภูธร และกำลัง อส.กว่า 50 นาย กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาไชยราช-คลองกรูด ป่าต้นน้ำผืนสำคัญของชุมพร ถูกตัดไม้ทำลายป่าอย่างหนัก พบไม้อายุกว่า 100 ปีที่ถูกโค่น และพบการแปรรูปไม้หลังถูกโค่นกลางป่า และใช้วิธีอำพรางนำไม้มาสร้างบ้านกลางป่าอนุรักษ์ ก่อนลำเลียงส่งต่อให้นายทุนภาคใต้ เบื้องต้น ผู้ว่าฯ สั่งรื้อบ้านทันที พร้อมยึดไม้เป็นของกลาง และเตรียมออกหมายจับกลุ่มตัดไม้ 5 ราย โยงใยขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่บางสะพานน้อย
วันนี้ (13 ม.ค.) นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร นายอำเภอบางสะพานน้อย นายสมรักษ์ ศรีเทพ ปลัดอำเภอบางสะพานน้อย นายสถิต จันทรมณี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเสด็จในกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ พร้อม พ.ต.เฉลิมพล คุปตะวาทิน หัวหน้าชุดเฉพาะกิจอู่ทอง นำกำลัง อส. เจ้าหน้าที่อุทยานเสด็จในกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ พร้อมหน่วยเฉพาะกิจอู่ทอง ทหารพรานที่ 1404 ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147 ตำรวจป่าไม้ ตำรวจภูธรบางสะพานน้อย กำนัน ผู้ใหญ่บ้านตำบลไชยราช และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านกว่า 50 นาย เดินทางเข้าไปยังพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาไชยราช-คลองกรูด บริเวณแนวชายแดนไทย-พม่า หมู่ 3 บ้างบางเจริญ ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ หลังได้รับแจ้งเบาะแสว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าในพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งพื้นที่บริเวณดังกล่าวถือเป็นป่าต้นน้ำของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดชุมพรที่สำคัญ
ทันทีที่นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังไปถึงพิกัดที่รับแจ้ง พบตอไม้ขนาดใหญ่ถูกตัดโค่นเป็นจำนวนมาก กระจายอยู่บริเวณป่าชั้นในของป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาไชยราช-คลองกรูด บริเวณริมลำห้วยคลองเพลิน แต่ไม่พบกลุ่มที่โค่นไม้แต่อย่างใด คาดว่าอาจไหวตัวทันขนอุปกรณ์เลื่อยยนต์ต่างๆ หลบออกจากพื้นที่ไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง เนื่องจากการเดินทางเข้าไปพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เส้นทางค่อนข้างลำบากเป็นภูเขาสูงชัน บางช่วงต้องเดินเท้าเข้าไปเท่านั้น
นอกจากนั้น นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พบว่า จากการตรวจสอบยังพบไม้ที่ถูกโค่นลงมาแล้วมีการแปรรูป เป็นไม้แผ่นอีกหลายร้อยแผ่น ขนาดต่างๆ รวมทั้งต้นตะเคียนที่มีอายุกว่า 100 ปี ความสูงกว่า 30 เมตร ได้ถูกกลุ่มตัดไม้ทำลายป่าโค่นลงมาแล้รอการแปรรูป
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันตรวจสอบ ยังพบบ้านไม้ยกพื้นลักษณะ 2 ชั้น ลักษณะเพิ่งปลูกใหม่ โดยนำไม้จากการแปรรูปในบริเวณดังกล่าวมาปลูกเอาไว้ ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่รื้อถอนบ้านหลังดังกล่าวทันทีพร้อมยึดไม้ทั้งหมดเป็นของกลาง นำกลับไปเก็บรักษาไว้ที่หน่วยป่าไม้ต่อไป พร้อมให้พนักงานสอบสวนติดตามสอบสวนหากลุ่มผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ทราบรายชื่อกลุ่มผู้ที่ร่วมขบวนการโค่นป่าในพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ซึ่งจะได้เร่งรัดให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐานต่างๆ ขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มบุคคลเหล่านั้นต่อไป โดยการโค่นป่าในพื้นที่เขตป่าสงวนแห่งชาติครั้งนี้ เป็นกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดด้วย โดยเฉพาะไม้ที่ถูกโค่น และแปรรูปแล้วมีการอำพรางนำมาปลูกเป็นบ้าน และอาคารโรงรีดยางหลังจากนั้นกลุ่มตัดไม้ดังกล่าวก็จะทยอยนำไม้ที่แปรรูปทยอยจนออกไปจากพื้นที่ส่งต่อให้แก่นายทุนทางภาคใต้
นายสถิต จันทรมณี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเสด็จในกรมหลวงชุมพร ด้านทิศเหนือ ตอนบน ระบุว่า ไม้ที่ถูกตัดโค่นลงมามีทั้งไม้สีเสียด ไม้มะหาด ไม้จำปาป่า และไม้ตะเคียน ซึ่งส่วนใหญ่ไม้ทั้งหมดมีอายุกว่า 100 ปีขึ้นไป ซึ่งการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่ต้องใช้วิธีเดินเท้า และใช้รถยนต์ขับเคลื่อน 4 ล้อเท่านั้นถึงจะเข้าถึงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติชั้นในซึ่งอยู่ติดแนวชายแดนไทยพม่าได้ รวมทั้งปัจจุบัน ขบวนการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าได้มีการพัฒนาเลื่อยยนต์เป็นชนิดแบบเก็บเสียงอีกด้วย