ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์เผย “หลวงพ่อคูณ” อาการดีขึ้นต่อเนื่อง บ่นอยากกลับวัด ยังให้ยาขยายหลอดลมและละลายเสมหะ เหตุอากาศเย็นมีเสมหะมาก พร้อมเปลี่ยนเตียงผู้ป่วยรุ่นใหม่ชนิดพิเศษราคา 6 แสน ทำให้จำวัดได้ดีไม่ปวดเมื่อย ชั่งน้ำหนักตัวได้และป้องกันแผลกดทับ คาดกลับวัดต้นเดือน ก.พ. ขณะวัดบ้านไร่ เร่งปรับปรุงกุฏิหลวงพ่อใหม่เพื่อควบคุมอุณหภูมิห้องและติดกระจกใสป้องกันติดเชื้อ
วันนี้ (9 ม.ค.) นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยถึงอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาตั้งแต่วันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า จากการตรวจอาการล่าสุดวันนี้ หลวงพ่อคูณอาการดีขึ้นต่อเนื่อง รู้ตัว รู้เรื่อง และพูดคุยได้มากขึ้น ไม่มีไข้ อาการคล้ายเมื่อวานนี้ แต่ยังมีเสลดและเสมหะมากเนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวเย็น
ส่วนการรักษาได้ให้ยาพ่นขยายหลอดลม แต่ให้เป็นช่วงๆ ไม่ถี่เหมือนตอนแรก และให้ยาละลายเสมหะ ซึ่งตอนนี้ท่านสามารถไอออกมาเองได้แล้ว น้ำหนักตัวลดลงเล็กน้อย เหลือ 44 กิโลกรัม (กก.) แต่ไม่เกินความคาดหมายมากนัก และหลังจากเปลี่ยนเตียงผู้ป่วยใหม่ให้หลวงพ่อทำให้ท่านจำวัดได้ดี ไม่ปวดเมื่อยตัว ซึ่งเป็นเตียงที่ทางอาจารย์แพทย์โรงพยาบาลศิริราชแนะนำให้ใช้ เนื่องจากเป็นเตียงรุ่นใหม่ที่สามารถชั่งน้ำหนักได้ไม่ต้องยกคนไข้ลงมาชั่ง ซึ่งอาจเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้
และเบาะที่นอนก็เป็นชนิดพิเศษป้องกันแผลกดทับได้ โดยเป็นเตียงบริษัทเอกชนให้มาทดลองใช้ก่อน ราคาประมาณ 6 แสนบาท ตอนนี้ทางลูกศิษย์กำลังพิจารณาที่จะซื้อให้ท่านไปใช้ประจำที่วัดบ้านไร่ด้วย
“ต้องยอมรับว่าการอาพาธของท่านครั้งนี้หนักจริงๆ ตั้งแต่เข้ารับการรักษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 พ.ย. 55 ด้วยภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากสำลัก และเกิดภาวะแทรกซ้อนซ้ำอีกเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 55 ทีมแพทย์ทำงานกันอย่างหนักเพื่อรักษาท่านให้ดีขึ้นและหายในที่สุด และเมื่อท่านดีขึ้นก็มักบ่นอยากออกไปเดินข้างนอกห้องและอยากกลับวัดบ้านไร่บ้าง ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะหลวงพ่อเป็นนักสู้หากสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็จะทำอย่างเต็มที่” นพ.พินิศจัยกล่าว
ส่วนการพิจารณากลับวัดบ้านไร่นั้น นพ.พินิศจัยกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงการพักฟื้นและฟื้นฟูร่างกายเพื่อให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ แข็งแรงมากขึ้น ซึ่งได้ให้นักกายภาพเข้ามาทำกายภาพยกแขนขาและให้ท่านเดินออกกำลังกายเบาๆ ภายในห้อง รวมถึงปั่นจักรยานไฟฟ้า และยังให้งดเยี่ยมต่อไป
ฉะนั้น คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะมีการหารือถึงการนิมนต์ท่านกลับไปพักฟื้นที่วัดบ้านไร่ เพราะช่วงนี้ท่านบ่นอยากกลับวัดบ้านไร่แล้ว แต่เบื้องต้นได้รับแจ้งจากทางลูกศิษย์ว่า ทางวัดกำลังอยู่ในช่วงการปรับปรุงกุฏิห้องพักท่านใหม่ โดยด้านหน้าจะทำเป็นห้องกระจกใสจากเดิมที่ปิดทึบ เพื่อให้ญาติโยมที่มากราบนมัสการท่านได้เห็นหลวงพ่อในอิริยาบถต่างๆ โดยไม่ต้องเดินออกมานอกห้องเพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำซ้อน
นอกจากนี้ ภายในห้องพักท่านที่วัดบ้านไร่ต้องทำใหม่ทั้งหมดเพื่อให้สามารถควบคุมอุณหภูมิที่พอเหมาะให้ได้ เนื่องจากสภาพอากาศปัจจุบันเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและมีผลต่อร่างกายท่านอย่างมาก หรืออาจต้องติดตั้งเครื่องควบคุมอุณหภูมิในห้องท่านใหม่โดยปรับปรุงการติดตั้งกระจกเป็น 2 ชั้น ซึ่งเรื่องนี้ทางลูกศิษย์เป็นผู้ดำเนินการคาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งหมดสิ้นเดือน ม.ค.นี้ จากนั้นก็คงพิจารณาให้ท่านกลับวัดต่อไป ซึ่งอาจเป็นต้นเดือน ก.พ.ก็เป็นได้ เรื่องนี้ลูกศิษย์ได้พูดคุยให้หลวงพ่อได้รับทราบไปบ้างแล้ว