กาฬสินธุ์ - โครงการชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ยืนยันน้ำต้นทุนมีเพียงพอผลิตน้ำประปาในอีก 5 เดือนข้างหน้า ย้ำเกษตรกรทุกพื้นที่ลดพื้นที่การเพาะปลูกข้าวนาปรัง ชี้ประชาชนอยู่ในความเสี่ยงน้ำแล้ง
จากการติดตามสถานการณ์ความแห้งแล้งซึ่งเกิดจากฝนทิ้งช่วงที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่า ทุกพื้นที่ประสบความแห้งแล้งครอบคลุมทั้งจังหวัด มีประชาชนกว่า 3 แสนครัวเรือนขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน
นายสมหมาย ดอกบัว หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำต้นทุนทั้งจังหวัดปีนี้ถือว่าวิกฤตที่สุดในรอบ 40 ปี โดยเฉพาะเขื่อนลำปาวเหลือน้ำใช้การได้อยู่เพียง 307 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 15 และอีก 17 อ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้ำที่ใช้การได้เพียง 23 ล้าน ลบ.ม. ทั้งหมดเกิดจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน
ถือว่าน้ำจำนวนนี้เหลือเพียงพอไปถึงเดือนพฤษภาคมนี้ ที่สามารถใช้ได้เพียงผลิตน้ำประปา กับการรักษาระบบนิเวศทางน้ำ เกษตรกรควรเชื่อคำเตือนของทางราชการ เพราะการฝ่าฝืนคำเตือนถือเป็นการเห็นแก่ตัว เพราะจะไปเพิ่มภาระในการใช้น้ำที่จะทำให้น้ำหมดเร็วกว่าปกติ
การเตือนการรับมือ ขณะนี้ควรที่จะซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำและวางแผนสำรองน้ำไว้ใช้ในครัวเรือน โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพราะในอนาคตอีก 5 เดือนข้างหน้าก็ไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่าจะมีฝนตกลงมาหรือไม่
สำหรับความเสียหายรายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ มีพื้นที่เสียหายจากภัยพิบัติแล้งกว่า 3 แสนไร่ ประกอบด้วย ไร่อ้อย มันสำปะหลัง นาข้าว นากุ้ง และปลากระชัง มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดยังคงเร่งหาทางแก้ไขอยู่ในขณะนี้
จากการติดตามสถานการณ์ความแห้งแล้งซึ่งเกิดจากฝนทิ้งช่วงที่จังหวัดกาฬสินธุ์ พบว่า ทุกพื้นที่ประสบความแห้งแล้งครอบคลุมทั้งจังหวัด มีประชาชนกว่า 3 แสนครัวเรือนขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน
นายสมหมาย ดอกบัว หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการชลประทานจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ปริมาณน้ำต้นทุนทั้งจังหวัดปีนี้ถือว่าวิกฤตที่สุดในรอบ 40 ปี โดยเฉพาะเขื่อนลำปาวเหลือน้ำใช้การได้อยู่เพียง 307 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) คิดเป็นร้อยละ 15 และอีก 17 อ่างเก็บน้ำขนาดกลางมีปริมาณน้ำที่ใช้การได้เพียง 23 ล้าน ลบ.ม. ทั้งหมดเกิดจากภาวะฝนทิ้งช่วงยาวนาน
ถือว่าน้ำจำนวนนี้เหลือเพียงพอไปถึงเดือนพฤษภาคมนี้ ที่สามารถใช้ได้เพียงผลิตน้ำประปา กับการรักษาระบบนิเวศทางน้ำ เกษตรกรควรเชื่อคำเตือนของทางราชการ เพราะการฝ่าฝืนคำเตือนถือเป็นการเห็นแก่ตัว เพราะจะไปเพิ่มภาระในการใช้น้ำที่จะทำให้น้ำหมดเร็วกว่าปกติ
การเตือนการรับมือ ขณะนี้ควรที่จะซ่อมแซมภาชนะกักเก็บน้ำและวางแผนสำรองน้ำไว้ใช้ในครัวเรือน โดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพราะในอนาคตอีก 5 เดือนข้างหน้าก็ไม่สามารถที่จะคาดการณ์ได้ว่าจะมีฝนตกลงมาหรือไม่
สำหรับความเสียหายรายงานจากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ มีพื้นที่เสียหายจากภัยพิบัติแล้งกว่า 3 แสนไร่ ประกอบด้วย ไร่อ้อย มันสำปะหลัง นาข้าว นากุ้ง และปลากระชัง มูลค่ากว่า 2,500 ล้านบาท ซึ่งจังหวัดยังคงเร่งหาทางแก้ไขอยู่ในขณะนี้
