กาฬสินธุ์-ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ตรวจติดตามปริมาณน้ำเขื่อนลำปาว พบน้ำลดลงเร็วกว่าปกติ ล่าสุด เหลือเพียง 323 ล้าน ลบ.ม. พบสาเหตุจากสภาพอากาศร้อน เตือนเกษตรกรหยุดเพาะปลูกข้าวนาปรัง และทำนากุ้ง เพราะต้องเหลือน้ำไว้ใช้ผลิตน้ำประปาเท่านั้น
วันนี้ (8 ธ.ค.) นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ นายประมวล ศรีทอง นายอำเภอสหัสขันธ์ ขึ้นตรวจสอบระดับน้ำตรงสะพานเทพสุดา สะพานข้ามเขื่อนลำปาว พบว่า ปริมาณน้ำเขื่อนลำปาวได้ลดลงอย่างรวดเร็ว
ล่าสุด ปริมาณน้ำเหลือเพียง 323 ล้าน ลบ.ม. จากปริมาณกักเก็บที่ 1,950 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 16 ซึ่งเหลือน้ำที่ใช้การได้เพียง 223 ล้าน ลบ.ม.
นายสุวิทย์ สุบงกฎ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ปริมาณน้ำที่ลดลงอย่างรวดเร็วเกิดจากสภาพอากาศที่ร้อนทำให้เกิดการระเหยเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้ โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำปาวได้หยุดปล่อยน้ำถาวรเพื่อกักน้ำไว้ใช้ผลิตน้ำประปา พื้นที่ชลประทานกว่า 350,000 ไร่
ส่วนใหญ่ปลูกข้าวต้องหยุดการเพาะปลูก รวมถึงการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม และคาดว่าผลกระทบด้านเศรษฐกิจทางการเกษตรจังหวัดจะเสียหายกว่า 1 พันล้านบาท
ทั้งนี้ ในจำนวนน้ำที่เหลือจะมีไว้ใช้เพื่อผลิตน้ำประปาภายในจังหวัด รวมถึงน้ำอุปโภคบริโภคที่ต้องนำไปแจกจ่ายให้แก่ประชาชน
ส่วนแนวทางแก้ไขปัญหาระยะยาว โดยนโยบายรัฐบาลจังหวัดกำลังทำการสำรวจโดยเฉพาะการขุดเจาะบ่อบาดาลให้แก่พื้นที่นอกเขตชลประทานกว่า 200 แห่งแล้ว