พระนครศรีอยุธยา - ไฟไหม้บ่อขยะกรุงเก่าพ่นพิษเข้าบ้านเรือนประชาชน ชาวบ้านครวญ ไม่ต้องการกองขยะใกล้ชุมชน
วันนี้ (5 ม.ค.) เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้กองขยะ ที่หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมา รถดับของเพลิงเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา 3 คัน มาฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยพบว่า เพลิงลุกไหม้ข้างของกองขยะ แล้วลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียง ส่งผลให้เกิดควันลอยเข้าไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้สูงอายุ และเด็กอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ อากาศที่เย็นลงทำให้ควันลอยต่ำเข้าสู่บริเวณเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำแต่ยังไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นางฉัตรวดี วิลเลี่ยมพลีส อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/5 หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากบ่อขยะประมาณ 500 เมตร กล่าวว่า เกิดเพลิงลุกไหม้ตั้งแต่ช่วงเช้า และลุกลามไปเรื่อยๆ มีลูกเล็กอายุ 2 เดือน ได้รับความเดือดร้อนมาก ต้องปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด แต่ควันก็ยังลอยเข้ามาได้ ซึ่งปกติไม่เคยเกิดเพลิงลุกไหม้ก็เดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็นอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้จึงอยากให้เร่งแก้ไขโดยเร็ว ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้กองขยะอยู่ใกล้หมู่บ้าน
นายปรีชา ขันธไพศรี รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรี ทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้รถดับเพลิงเข้าไปดับเพลิงในจุดที่กำลังลุกไหม้ ซึ่งสามารถควบคุมได้แล้ว แต่จะมีปัญหาเรื่องควัน เบื้องต้น ทราบว่าเกิดจากเกษตรกรจุดไฟเผานาแล้วลามมาที่บ่อขยะ ซึ่งจะเร่งตรวจสอบหาคนจุดไฟ แต่ยืนยันว่าเทศบาลไม่มีนโยบายเผาขยะเนื่องจากจะเกิดปัญหามลพิษ
สำหรับกองขยะแห่งนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายวิทยา หาดนิล นักวิชาการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอนามัย ได้มาตรวจสอบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าบ่อขยะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชน และสภาพแวดล้อม โดยมีการนำขยะมาทิ้งเฉลี่ยวันละ 200 ตัน ทำให้สะสมเป็นกองสูงจากพื้นดินประมาณ 15 เมตร ซึ่งเกินขีดความสามารถของเทศบาลที่จะเข้าไปจัดการ และอยู่ระหว่างหาทางแก้ปัญหาอยู่
วันนี้ (5 ม.ค.) เกิดเหตุเพลิงลุกไหม้กองขยะ ที่หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ต่อมา รถดับของเพลิงเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา 3 คัน มาฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยพบว่า เพลิงลุกไหม้ข้างของกองขยะ แล้วลุกลามไปยังบริเวณข้างเคียง ส่งผลให้เกิดควันลอยเข้าไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้สูงอายุ และเด็กอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ อากาศที่เย็นลงทำให้ควันลอยต่ำเข้าสู่บริเวณเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เจ้าหน้าที่ต้องเร่งฉีดน้ำแต่ยังไม่สามารถที่จะควบคุมเพลิงเอาไว้ได้
นางฉัตรวดี วิลเลี่ยมพลีส อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/5 หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา ห่างจากบ่อขยะประมาณ 500 เมตร กล่าวว่า เกิดเพลิงลุกไหม้ตั้งแต่ช่วงเช้า และลุกลามไปเรื่อยๆ มีลูกเล็กอายุ 2 เดือน ได้รับความเดือดร้อนมาก ต้องปิดประตูหน้าต่างทั้งหมด แต่ควันก็ยังลอยเข้ามาได้ ซึ่งปกติไม่เคยเกิดเพลิงลุกไหม้ก็เดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็นอยู่แล้ว เมื่อเกิดเหตุเช่นนี้จึงอยากให้เร่งแก้ไขโดยเร็ว ถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้กองขยะอยู่ใกล้หมู่บ้าน
นายปรีชา ขันธไพศรี รองนายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรี ทราบเรื่องแล้ว และได้สั่งการให้รถดับเพลิงเข้าไปดับเพลิงในจุดที่กำลังลุกไหม้ ซึ่งสามารถควบคุมได้แล้ว แต่จะมีปัญหาเรื่องควัน เบื้องต้น ทราบว่าเกิดจากเกษตรกรจุดไฟเผานาแล้วลามมาที่บ่อขยะ ซึ่งจะเร่งตรวจสอบหาคนจุดไฟ แต่ยืนยันว่าเทศบาลไม่มีนโยบายเผาขยะเนื่องจากจะเกิดปัญหามลพิษ
สำหรับกองขยะแห่งนี้ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมด้วยนายวิทยา หาดนิล นักวิชาการ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมอนามัย ได้มาตรวจสอบ หลังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่าบ่อขยะดังกล่าวส่งผลกระทบต่อประชาชน และสภาพแวดล้อม โดยมีการนำขยะมาทิ้งเฉลี่ยวันละ 200 ตัน ทำให้สะสมเป็นกองสูงจากพื้นดินประมาณ 15 เมตร ซึ่งเกินขีดความสามารถของเทศบาลที่จะเข้าไปจัดการ และอยู่ระหว่างหาทางแก้ปัญหาอยู่
