พระนครศรีอยุธยา - DSI ประสานเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา และ อบต.บ้านป้อม เมืองกรุงเก่า เร่งหาแนวทางแก้ปัญหาบ่อขยะใหญ่ หลังเกิดไฟไหม้สร้างมลพิษทางอากาศจนประชาชนได้รับความเดือดร้อน ชี้ควรมีการก่อสร้างโรงงาน หรือเตาเผาขยะเหมือนที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน
พ.ต.ท.พงษ์อินทร์ อินทรขาว ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ( DSI) กล่าวถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 5 ม.ค.56 ที่ผ่านมา ได้เกิดเพลิงไหม้บ่อขยะแห่งใหญ่ของเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ที่หมู่ 8 ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ต้องใช้รถดับเพลิงเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา จำนวน 3 คัน เดินทางไปฉีดน้ำเพื่อสกัดเพลิงที่ลุกไหม้หล่อเลี้ยงไม่ให้ลุกลามไปมาก โดยพบว่า เพลิงลุกไหม้อยู่บริเวณด้านข้างของกองขยะ แล้วลุกลามไปยังบริเวณใกล้เคียง ส่งผลให้เกิดควันจำนวนมากลอยเข้าไปยังบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ข้างเคียง ซึ่งส่วนใหญ่มีผู้สูงอายุ และเด็กอยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ อากาศที่เย็นลงยังทำให้ควันลอยต่ำเข้าสู่บริเวณเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยาบางส่วน
ล่าสุด วันนี้ (9 ม.ค.) ทาง DSI ได้ประสานกับว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา และนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ป้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อหาทางแก้ไขว่าจะทำอย่างไรกับบ่อขยะแห่งนี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ซ้ำซาก และก่อมลพิษทางน้ำ และทางอากาศ ซึ่งสร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชาวบ้าน และชุมชนละแวกใกล้เคียง จนมีการร้องเรียนอย่างต่อเนื่อง หากบ่อขยะยังอยู่ในที่เดิมก็ยังจะเกิดปัญหาแบบเดิมๆ ไม่สิ้นสุด ควรมีการก่อสร้างโรงงาน หรือเตาเผาขยะเหมือนที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ไม่เช่นนั้นขยะก็จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่มีการทำลายอย่างถูกวิธี
สำหรับบ่อขยะแห่งนี้ DSI พร้อมด้วยนักวิชาการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสารเคมี กรมอนามัย ได้เดินทางมาตรวจสอบแล้วเมื่อช่วงปลายปี 2555 ที่ผ่านมา หลังจากได้รับร้องเรียนจากประชาชนว่า บ่อขยะดังกล่าวมีการขยายบริเวณ และมีปริมาณมากขึ้นทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่อาศัย และสภาพแวดล้อม โดยบ่อขยะมีการนำมาทิ้งเฉลี่ยรวมวันละ 200 ตัน ทำให้เกิดการสะสมเป็นกองสูงจากพื้นดินประมาณ 15 เมตร