สระบุรี - พนักงานโรงงานอุตสาหกรรมประท้วงนายจ้างไม่จ่ายโบนัส ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงป่าสักปลาธรรมชาติ และปลาเลี้ยงในกระชังตายเป็นแพ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันนี้ (28 ธ.ค.) เกิดเหตุปลาในแม่น้ำป่าสักบริเวณใกล้สะพานอำนวยสงคราม เขตเทศบาลเมืองสระบุรี กระเสือกกระสนลอยคอเพราะขาดออกซิเจนหายใจ ปลาเล็กตายลอยเป็นแพ มีชาวบ้านทราบข่าวต่างพากันใช้สวิง และใช้แหหว่านตักและจับปลาตะเพียน ตะโกก ปลากดสีทองตัวขนาดใหญ่หนัก 3-4 กิโลกรัมได้เป็นจำนวนมาก
ต่อมา นายภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรีทราบข่าวได้นำเจ้าหน้าที่จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลเมืองฯ มาดูที่เกิดเหตุโดยให้เก็บตัวอย่างน้ำ นำส่งสาธารณสุขจังหวัดสระบุรีเพื่อตรวจสอบ ก่อนแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบ ในขณะเดียวกัน มีผู้เลี้ยงปลาในกระชังในลำน้ำป่าสักในเขต ม.4 ต.ตะกุด (บ้านม่วง) เขตเทศบาลตำบลตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี แจ้งขอความช่วยเหลือไปยังเทศบาลตำบลตะกุด
นายสมศักดิ์ พวงกุหลาบ นายกเทศมนตรีตำบลตะกุด พร้อมเจ้าหน้าที่รีบรุดไปตรวจสอบพบนายชำนาญ ปานทอง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20/1 ม.4 ต.ตะกุด อ.เมือง จ.สระบุรี เจ้าของกระชังเลี้ยงปลาผู้เสียหายกำลังคุมลูกน้องตักปลาที่ตายใต้น้ำส่งให้พ่อค้าแม่ค้าที่มารับซื้อไปทำปลาร้า และส่วนหนึ่งที่ตายลอยอยู่เหนือน้ำ รอรถมาบรรทุกไปส่งให้โรงปูนทีพีไอ อ.แก่งคอย เพื่อทำปุ๋ย
นายชำนาญ ปานทอง ผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนเลี้ยงปลาทับทิมทั้งหมด 90 กระชังๆ ละ 1,800 ตัว มีหลายรุ่นปะปนกัน เหตุที่ปลาตายในครั้งนี้ทราบเมื่อกลางดึกคืนวานนี้ (27 ธ.ค.) สาเหตุที่ทำให้ปลาตายเนื่องมาจากปลาถูกสารเคมี (ยังไม่ทราบว่าเป็นสารอะไร) ซึ่งขณะลูกน้องของตนลงไปตักปลาที่ตายในแม่น้ำป่าสัก มีอาการปวดแสบปวดร้อนตามร่างกาย ก่อนหน้านี้ ตอนเช้าวันนี้ (28 ธ.ค.) มีผู้เลี้ยงปลาด้วยกันมาสอบถามว่า ปลาของตนตายหรือไม่ เพราะมีพนักงานของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งในเขต อ.แก่งคอย ที่กำลังประท้วงนายจ้างอยู่เพราะนายจ้างไม่จ่ายโบนัสประจำปีให้จึงโกรธแค้นพากันลักลอบปล่อยน้ำเสียลงแม่น้ำปลาสักทำให้ปลาตายดังกล่าว ส่วนค่าเสียหายประมาณ 4 ล้านบาท