ชาวบ้านเดือดร้อนน้ำเสียปลาตายตลอดลำคลอง

ราชบุรี - ชาวบ้านเมืองราชบุรี เดือดร้อนน้ำในคลองสาธารณะเน่าเสีย ปลาตายจำนวนมากตลอดลำคลอง ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว วอนผู้ประกอบการต่างๆ ควรมีจิตสำนึกในการปล่อยนํ้าเสีย

เวลา 13.30 น.วันนี้ (30 พ.ย.) นายเสาวนิช ชำนาญ ประมงอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี นายไพฑูรย์ ปัตนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ อำเภอเมืองราชบุรี พร้อมชาวบ้านได้ตรวจสอบสภาพนํ้าเสียในลำคลองสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์บริเวณเขตติดต่อระหว่างหมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุ อําเภอเมือง และหมู่ที่ 8 ตำบลรางบัว อำเภอจอมบึง หลังนํ้าในลำคลองดังกล่าวเน่าเสีย ส่งผลให้ปลาขนาดเล็ก และใหญ่ เช่น ปลานิล ปลาตะเพียน ปลากด และปลาชนิดต่างๆ ลอยตายส่งกลิ่นเหม็นจำนวนมาก ชาวบ้านไม่กล้าสูบน้ำขึ้นไปใช้รดพืชผักทางการเกษตร

นางชูศรี จำปาทอง อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38/4 หมู่ 1 ตำบลน้ำพุ กล่าวว่า ได้รับความเดือดร้อนมาก เนื่องจากน้ำที่เสียตลอดลําคลองไม่สามารถสูบขึ้นมารดผักได้ เกรงว่า ถั่ว และแตงกวาที่ปลูกไว้ใบจะเหลือง สภาพนํ้าก็มีกลิ่นเหม็น ช่วงกลางคืนนอนแทบไม่ได้ ไม่รู้จะหาความรับผิดชอบจากใคร เห็นปลาตัวโตลอยตายก็รู้สึกเสียดาย เพราะสามารถจับกินได้แล้วก็มาตายแบบนี้ ตอนนี้ไม่ได้ใช้น้ำในลำห้วยรดพืชผักแล้ว จึงหันไปใช้น้ำจากบ่อบาดาลแทนชั่วคราว

นายนิวัช ชัชวาล อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำพุ กล่าวว่า เป็นความเดือดร้อนที่ซ้ำซากปีนี้เกิด 4 ครั้งแล้ว ที่ผ่านมาปล่อยปลาในลําคลองเพื่อจับบริโภคกันในหมู่บ้าน ซึ่งหากใครจะมาจับหากินก็ไม่ได้หวงห้าม หลายครั้งที่ซื้อมาปล่อยจากประมงราชบุรี หวังว่าอนาคตจะได้กิน แต่ปรากฏว่าเกิดปัญหานํ้าเสียก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะยังคงมีปลาหลงเหลือให้อีกหรือไม่

ด้านนายไพฑูรย์ ปัตนา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำพุ กล่าวว่า สำหรับการแก้ปัญหา ทาง อบต.ได้ทำหนังสือแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อมให้มาตรวจสอบที่มาของนํ้าเสียว่าต้นต่อมาจากที่ใด เพราะเหนือหมู่บ้านขึ้นไปมีโรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่ง โดยวันนี้ได้ประสานประมงอำเภอเมืองมาร่วมตรวจสอบดูด้วยว่าเกิดจากสาเหตุใด พร้อมเก็บนํ้าเสียไปตรวจหาสาเหตุอีกครั้ง

จึงอยากฝากไปยังผู้ประกอบการต่างๆ ให้มีจิตสำนึกในการปล่อยนํ้าเสียลงมา เพราะผู้ใช้น้ำในลำห้วยของตำบลลงไปถึงหมู่ที่ 2 หนองโรงเลื่อย หมู่ที่ 3 โคกกระเพรา ไปหมู่บ้านนาคอก ผ่านไปยังบ้านเขาถ้ำกุญชร ไปตำบลดอนแร่ และไปลงลำห้วยที่ตำบลอ่างทอง อำเภอเมือง จะได้รับผลกระทบกันเป็นบริเวณกว้าง ซึ่งเกิดเป็นครั้งที่ 4 แล้วในรอบปีนี้