กลุ่มพิทักษ์ทรัพยากรฯ ลำปางยื่นหนังสือทวงคืนสัมปทานก๊าซ-น้ำมัน

ลำปาง - กลุ่มพิทักษ์ทรัพยากรไทยลำปางรวมตัวยื่นหนังสือถึงนายกฯ ให้พิจารณาการให้สัมปทานปิโตรเลียมแก่ ปตท. หวังให้คนไทยใช้ก๊าซและน้ำมันที่ถูกลง

วันนี้ (25 ธ.ค.) กลุ่มคนลำปางในนามกลุ่มคนรักษ์และพิทักษ์ทรัพยากรพลังงานไทย จังหวัดลำปางกว่า 100 คน นำโดยนายมานพ ก้าวสมบูรณ์ ประธานกลุ่มฯ ได้รวมตัวกันที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดลำปาง พร้อมถือป้ายประท้วงเกี่ยวกับความไม่ชอบมาพากลเกี่ยวกับการให้สัมปทานก๊าซและน้ำมันของรัฐบาลที่ให้แก่ ปตท.

นายสุวรรณ กล่าวสุนทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ได้ลงมารับหนังสือจากผู้ชุมนุมที่บริเวณด้านหน้าของศาลากลางจังหวัดลำปาง โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้มีหนังสือส่งถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง

กลุ่มผู้ชุมนุมได้ระบุในหนังสือว่า จากข้อมูล พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ. 2514 ที่รัฐบาลประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2514 จนถึงปัจจุบัน เป็น พ.ร.บ.ที่เอื้อผลประโยชน์เปิดช่องให้นายทุนมีการทุจริตในหลายรูปแบบ สร้างความร่ำรวยให้แก่กลุ่มนายทุน นักการเมือง และข้าราชการเพียงไม่กี่คน แต่ในขณะเดียวกันประเทศชาติกลับจนลง ประชาชนคนไทยซื้อก๊าซและน้ำมันแพงที่สุดในประเทศอาเซียน ทั้งที่ประเทศผลิตก๊าซและน้ำมันได้ด้วยตนเอง

ดังนั้น ประชาชนคนลำปางที่รับทราบและรับรู้ความจริง จึงได้ออกมาเรียกร้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ปี 2550 มาตรา 67 ซึ่งได้ให้สิทธิคนไทยทุกคนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ คุ้มครองและได้รับผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ จึงได้ทำหนังสือถึง ฯพณฯนายกรัฐมนตรี ขอให้ปกป้องผลประโยชน์ด้านพลังงานให้เป็นสมบัติของชาติและของประชาชนอย่างแท้จริง

จึงขอเสนอให้รัฐบาลดำเนินการใน 2 ข้อ คือ 1. ก่อนต่ออายุสัมปทานและการให้สัมปทานใหม่ จะต้องปรับผลประโยชน์จากสัมปทานปิโตรเลียมที่ไทยได้รับให้ทัดเทียมกับประเทศ เพื่อนบ้านและประเทศที่ตื่นตัวแล้ว โดยประเทศไทยจะต้องได้รับผลประโยชน์ไม่น้อยกว่า 80% ของผลผลิตปิโตรเลียมจากแผ่นดินไทย

2. สัมปทานที่ใกล้หมดอายุ มิให้แก้กฎหมายขยายอายุสัมปทานออกไปอีก บ่อน้ำมันและบ่อก๊าซธรรมชาติต้องตกเป็นของแผ่นดินเพื่อประโยชน์เป็นของประชาชน

นอกจากนี้ กลุ่มฯ ยังขอให้ทางรัฐบาลพิจารณานโยบายการปรับขึ้นก๊าซแอลพีจี ทั้งภาคประชาชนและภาคยานยนต์ เนื่องจากเห็นว่าการให้สัมปทานปิโตรเลียมของประเทศไทยเป็นระบบสัมปทานที่รัฐได้รับผลประโยชน์ตอบแทนต่ำที่สุดในอาเซียน ซึ่งผู้ค้าได้กำไรมากอยู่แล้ว และก๊าซแอลพีจีที่ผลิตจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ รัฐบาลควรจัดให้ประชาชนได้ใช้ก่อนทั้งภาคครัวเรือนและยานยนต์ เพราะก๊าซธรรมชาติที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตแอลพีจีมาจากแผ่นดินไทยซึ่ง ถือเป็นทรัพยากรของประชาชน

ทั้งนี้ นางสายธาร ประสงค์ความดี พลังงานจังหวัดลำปาง ได้มารับเรื่องดังกล่าวด้วย โดยทางกลุ่มขอให้ทางพลังงานจังหวัดลำปางได้เปิดเผยข้อมูลของพลังงานในพื้นที่จังหวัดลำปางทั้งหมดให้กับประชาชนได้รับทราบด้วย โดยจะให้เวลาถึงวันที่ 10 มกราคม 2556 หากทางภาครัฐนิ่งเฉยทางกลุ่มจะได้ระดมคนเพื่อออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง