ศรีสะเกษ - แก๊งนายทุนอิทธิพลบุกรุกป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กว่า 3,400 ไร่ แสบไล่ฟ้องเล่นงานชาวบ้านนักอนุรักษ์ป่า 30 คนที่เป็นพยานให้ทางการเอาผิด อ้างหมิ่นประมาทและให้การเท็จ ขณะชาวบ้านวอนหน่วยงานรัฐช่วยเหลือด่วน ด้านแกนนำลั่นไม่ท้อ ล่าสุดกรมป่าไม้เข้าช่วยเหลือด้านคดีและประกันตัวแล้ว 2 ราย
วันนี้ (11 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีปัญหากลุ่มนายทุนอิทธิพลบุกรุกยึดครองป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา เป็นบริเวณกว้างกว่า 3,400 ไร่ ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันนี้ ด.ต.ฉัตรชัย จันทะศิลา รองประธานอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยนายยอด ใจมนต์ และนายเทพ กวาดปรางค์ เดินทางมาศาลจังหวัด สืบเนื่องจากได้รับหมายศาลจังหวัด หลังมีผู้เสียหายฟ้องร้องต่อศาลว่า ด.ต.ฉัตรชัย และกลุ่มชาวบ้านเขาแดง ต.โคกตาล อ.ภูสิงห์ รวม 30 คน ซึ่งเป็นกลุ่มนักอนุรักษ์ป่าได้หมิ่นประมาทและให้การเท็จ เนื่องจากทั้งหมดเป็นพยานให้แก่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่ไปจับกุมกลุ่มนายทุนอิทธิพลที่เข้าไปบุกรุกป่าเขาแดง ซึ่งเป็นป่าถาวรตามมติคณะรัฐมนตรีป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา โดยชี้จุดที่มีการบุกรุกป่าว่าเป็นการยึดครองของนายทุนอิทธิพลผู้ใดบ้างให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ดำเนินการตามกฎหมาย
ด.ต.ฉัตรชัยกล่าวว่า ขณะนี้กลุ่มนายทุนอิทธิพลได้ใช้ความเป็นกลุ่มทุนที่มีเงินและมีอิทธิพลดำเนินการฟ้องร้องชาวบ้านที่เป็นพยานในการบุกรุกป่าเขาแดง ป่าฝั่งซ้ายห้วยศาลา ให้แก่ทางราชการเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อกลุ่มนายทุนอิทธิพลบุกรุกป่าดังกล่าว โดยขณะนี้ชาวบ้านกลุ่มนักอนุรักษ์ป่าเขาแดงที่ถูกฟ้องร้องกล่าวหาว่าหมิ่นประมาทและให้การเท็จจำนวน 30 คน ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะต้องหาเงินมาประกันตัวและต้องหาเงินมาจ้างทนายความในการต่อสู้คดีจากการที่เข้าไปเป็นพยานให้เจ้าหน้าที่ป่าไม้
“จึงขอวอนไปยังส่วนราชการที่เกี่ยวข้องทุกส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อธิบดีกรมป่าไม้ และอธิบดีกรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ให้เข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านทั้ง 30 คนในด้านคดีความ ที่ชาวบ้านโดนกลุ่มนายทุนอิทธิพลฟ้องร้องเพราะเข้าไปเป็นพยานให้แก่ทางราชการในครั้งนี้ด้วย” ด.ต.ฉัตรชัยกล่าว
ด้านนายยอดกล่าวว่า แม้จะถูกกลั่นแกล้งฟ้องร้องต่อศาลก็ไม่ท้อถอย จะขอต่อสู้เพื่ออนุรักษ์ป่าต้นน้ำต่อไป ซึ่งตนได้เคยไปยื่นหนังสือต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง แต่ว่ายังคงเพิกเฉย ไม่สนใจแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง จึงขอให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ต่อมาวันเดียวกันนี้ อธิบดีกรมป่าไม้ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมาเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกฟ้องร้องเบื้องต้นจำนวน 2 คน คือ นายยอด และนายเทพ โดยจัดหาเงินจ้างเอกชนนำเอาหลักทรัพย์มาประกันตัวคนละ 100,000 บาท รวม 200,000 บาท พร้อมทั้งจะจัดหาทนายความมาต่อสู้คดีให้ต่อไป
