ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - กองทัพภาคที่ 3 ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการทำลายไร่ฝิ่น ตั้งเป้าปี 56 ดูแล 65 พื้นที่เป้าหมาย 17 จังหวัดภาคเหนือ ด้านแม่ทัพน้อยเผยพื้นที่ปลูกลดลงต่อเนื่อง ส่วนปีนี้อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล หากชัดเจนเตรียมเดินหน้าทำลายทันที ระบุ “อมก๋อย” พบลักลอบปลูกมากติดอันดับ-ปีนี้เจอแล้วกว่า 800 ไร่
วันนี้ (28 พ.ย. ) ที่ห้องประชุมทองจัตุ กองกำลังผาเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดการประชุมแผนการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่น ประจำปี 2556 ขึ้น โดยมี พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธาน
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นเพื่อกำหนดแผนในการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่น และการตัดทำลายไร่ฝิ่น เพื่อลดพื้นที่การลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ภาคเหนือ โดยการดำเนินงานในรอบปี 2556 จะเป็นการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย กองทัพภาคที่ 3 กองทัพน้อยที่ 3 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 และภาค 6 สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 3 กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 และภาค 6 รวมถึงจังหวัดและอำเภอต่างๆ
กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้กองทัพน้อยที่ 3 และโครงการกำจัดพืชเสพติด กองทัพภาคที่ 3 จัดตั้งกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 และหน่วยเฉพาะกิจกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 3 ขึ้น ณ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 2555 จนถึงวันที่ 30 เม.ย. 2556 เพื่อกำกับดูแลการปฏิบัติงานของทุกหน่วยในการควบคุมพื้นที่ปลูกฝิ่นและการตัดทำลายไร่ฝิ่นในพื้นที่เป้าหมายให้ได้มากที่สุด
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานนั้น สถาบันสำรวจและติดตามการปลูกพืชเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. (สพส.) ได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายสำหรับการดำเนินงานให้แก่กองทัพภาคที่ 3 ไว้จำนวน 65 พื้นที่เป้าหมาย พร้อมทั้งจัดส่งข้อมูลต่างๆ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการ โดยจะเริ่มจากการสำรวจหาพื้นที่ปลูกฝิ่น การควบคุมพื้นที่ และการตัดทำลาย รวมไปถึงการดำเนินการหลังการตัดทำลาย ซึ่งจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือประชาชน
ขณะที่ข้อมูลล่าสุดพบว่า สพส.ได้ตรวจพบพื้นที่ที่มีการปลูกฝิ่นในพื้นที่เป้าหมายแล้ว 12 พื้นที่ 1,619 แปลง จำนวน 952.76 ไร่ นอกจากนี้ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมือง ยังตรวจพบแปลงที่มีการปลูกฝิ่นนอกพื้นที่เป้าหมายจำนวน 3 แปลง เนื้อที่ประมาณ 9 ไร่ ในบริเวณช่องทางชุ่ยถัง ต.หนองบัว อ.ไชยปราการ จ.เชียงใหม่อีกด้วย ซึ่งกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 ได้ส่งข้อมูลและสั่งการให้หน่วยงานต่างๆ เข้าปฏิบัติการตัดทำลายแล้ว
พล.ท.ปรีชา จันทร์โอชา แม่ทัพน้อยที่ 3 และรองผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจ ศูนย์ปฏิบัติการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด กองทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า สถิติการลักลอบปลูกฝิ่นในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือนั้นมีเป็นจำนวนมาก
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามควบคุมอย่างเข้มงวด ทำให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาสามารถลดปริมาณพื้นที่การปลูกจนเหลือประมาณ 1,200 ไร่ สำหรับในปีนี้หน่วยงานต่างๆ กำลังอยู่ในระหว่างการสำรวจและรวบรวมข้อมูล โดยในส่วนของภาคเหนือตอนบนพบมากในพื้นที่ อ.อมก๋อย ซึ่งมีข้อมูลว่าพบพื้นที่ปลูกฝิ่นแล้วประมาณ 400 แปลง รวม 800 ไร่ โดยส่วนใหญ่กลุ่มผู้ปลูกฝิ่นเป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่สูง เนื่องจากมีแรงจูงใจจากด้านรายได้ที่ได้จากการจำหน่ายฝิ่น
พล.ท.ปรีชากล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ร่วมกับ ป.ป.ส.ในการเข้าควบคุมพื้นที่และจัดกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่เป้าหมายต่างๆ แล้ว หากมีการยืนยันข้อมูลจากพื้นที่เป้าหมายก็จะทำการจัดกำลังเข้าตัดทำลายทันที ซึ่งจากผลการปฏิบัติการที่ผ่านมาถือว่าเป็นที่น่าพอใจ สามารถลดปริมาณการปลูกฝิ่นได้อย่างต่อเนื่อง แต่ถึงกระนั้นทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยังคงต้องสำรวจข้อมูลและร่วมกันควบคุมปริมาณการปลูกฝิ่นให้ลดลงให้ได้มากที่สุดต่อไปเพื่อไม่ให้ปริมาณฝิ่นในท้องตลาดเพิ่มขึ้น รวมทั้งเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มนายทุนสามารถเชื่อมโยงไปถึงกลุ่มผู้ปลูกฝิ่น ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มปริมาณการปลูกฝิ่นและผลผลิตฝิ่นได้
ทั้งนี้ ภายหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม พล.ท.ปรีชา และคณะได้เดินทางไปยังดอยสามหมื่น อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ เพื่อเยี่ยมชมการเข้าทำลายไร่ฝิ่นที่มีการลักลอบปลูกของเจ้าหน้าที่ โดยมีนายธานินทร์ สุภาแสน ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมเยี่ยมชมการปฏิบัติการในครั้งนี้ด้วย
