“ปลอดประสพ” ยันแล้งอีสานกลางยังไม่น่าห่วง ขณะที่น้ำในเขื่อนอุบลรัตน์เหลือไม่ถึงครึ่ง

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ปลอดประสพ” เผยสถานการณ์น้ำในพื้นที่อีสานตอนกลางยังไม่น่าเป็นห่วง เชื่อน้ำมีเพียงพอ พร้อมกำชับผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญการบริหารจัดการโดยเน้นน้ำดื่มน้ำใช้เป็นอันดับแรก ขณะที่ปริมาณกักเก็บน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ขณะนี้เหลือเพียงร้อยละ 43.84 ของความจุอ่าง แต่สามารถใช้น้ำได้เพียงอีกร้อยละ 26 เท่านั้น

วันนี้ (9 พ.ย.) นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย หรือ กบอ. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในพื้นที่ภาคอีสานตอนกลาง หลังลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์น้ำและรับฟังการบรรยายสรุปสภาพปัญหาและแนวทางการช่วยเหลือจากผู้ว่าราชการจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ ขอนแก่น และมหาสารคาม ที่ห้องประชุมเขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น

นายปลอดประสพกล่าวว่า พื้นที่ภาคอีสานขณะนี้ถือว่าไม่ถึงขั้นแล้ง แต่เป็นภาวะขาดแคลนน้ำเท่านั้น น้ำต้นทุนที่มีอยู่ยังเพียงพอ ซึ่งตนก็ได้กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดให้บริหารจัดการน้ำที่มีอยู่ให้ลงตัว โดยให้ความสำคัญเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้ต้องไม่ให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน ส่วนน้ำเพื่อการเกษตรนั้น หากพื้นที่ใดมีน้ำน้อยต้องประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรเข้าใจเรื่องงดทำนาปรังและปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทน

ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้ 350,000 ล้านบาทเพื่อการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำโดยเฉพาะ ซึ่งพื้นที่ภาคอีสานจะได้รับการจัดสรร 50,000 ล้านบาทเพื่อการพัฒนาน้ำอย่างยั่งยืน โดยมีโครงการผันน้ำจากแหล่งน้ำขนาดใหญ่ อาจจะเป็นจากลาวหรือแม่น้ำโขง

นอกจากนี้ยังมีโครงการขยายพื้นที่ชลประทานและมีระบบกักเก็บน้ำที่มีประสิทธิภาพซึ่งน่าจะใช้ระยะเวลา 3-5 ปี

นายปลอดประสพกล่าวต่อว่า หากจังหวัดใดประสบปัญหาเรื่องน้ำดื่มน้ำใช้หรือมีผลกระทบเกิดขึ้น ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องสั่งการในเรื่องนี้ให้เพียงพอ หากมีการร้องเรียน ผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องรับผิดชอบโดยทันที ดังนั้น การบริหารจัดการน้ำที่ต้องแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือน้ำฝน และน้ำต้นทุน ซึ่งแยกเป็นน้ำผิวดินหรือน้ำในห้วยหนองคลองบึงในอ่างเก็บน้ำ และน้ำใต้ดินพวกน้ำบาดาลเราต้องนำมาเก็บกักไว้ใช้งานให้พ้นวิกฤตภัยแล้งในครั้งนี้ให้ได้

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องสั่งการให้ดำเนินการตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอย่ารอให้ชาวบ้านเดือดร้อนก่อน ซึ่งช่วงนี้รัฐบาลมีเงินช่วยเหลือ โดยให้แต่ละจังหวัดจะต้องกำหนดแผนและบริหารจัดการให้ได้อย่างครอบคลุมเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งได้อย่างทั่วถึงและไม่ให้ประชาชนประสบปัญหา อย่างไรก็ตาม ลำน้ำในกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนกลาง ทั้งแม่น้ำชี แม่น้ำมูล และลำน้ำเชิญ ที่จากการตรวจสอบพบว่าบางจุดมีความแคบเหมาะแก่การทำฝายชะลอน้ำเพื่อจัดสรรน้ำ และกักเก็บน้ำ ดังนั้นทุกจังหวัดต้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยทันที

ขณะที่นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า ปริมาณกักเก็บน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ขณะนี้มีเพียงร้อยละ 43.84 ของความจุอ่างเท่านั้น หรือประมาณ 1,065.81 ล้าน ลบ.ม.โดยที่สามารถใช้น้ำได้เพียงอีกร้อยละ 26 เท่านั้น ในขณะที่อ่างเก็บน้ำ 14 แห่งของทั้งจังหวัดมีปริมาณน้ำพอต่อการแก้ไขปัญหาการอุปโภคบริโภค สำหรับการแก้ไขปัญหาภัยแล้งนอกจากจะนำน้ำเข้าไปแจกจ่ายในพื้นที่ที่ประสบภัยแล้ง ยังคงมีการจัดสรรงบประมาณสำหรับการขุดบ่อ ลอกท่อ ซ่อมแซมบ่อน้ำบาดาล รวมไปถึงการให้ความช่วยเหลือพื้นที่ทางการเกษตรอย่างทั่วถึง