บุรีรัมย์ - การค้าภายในบุรีรัมย์ขู่เอาผิดผู้ประกอบการโรงสี-ท่าข้าว ฝ่าฝืนไม่ขออนุญาตลักลอบขนย้ายข้าวเข้า-ออกนอกพื้นที่จังหวัด ชี้โทษจำคุก 5 ปี และปรับ 1 แสนบาท พร้อมป้องกันลักลอบนำข้าวเขมรสวมสิทธิโครงการจำนำ ขณะผู้ประกอบการเกรงความผิดทยอยเข้ายื่นขออนุญาตขนย้ายข้าวแล้วกว่า 10 ราย
วันนี้ (9 พ.ย.) นายสุทธิศักดิ์ พรหมบุตร การค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์ เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการโรงสีหรือท่าข้าวขนย้ายข้าวเปลือกหรือข้าวสารทั้งเข้าและออกนอกเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ต้องยื่นขออนุญาตขนย้าย ตามประกาศของคณะกรรมการกลาง ที่กำหนดให้ผู้ประกอบการขออนุญาตขนย้ายข้าวตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นมาตรการในการควบคุม ป้องกันการลักลอบขนย้ายข้าวคุณภาพต่ำจากนอกพื้นที่และประเทศเพื่อนบ้าน เข้ามาปลอมปนหรือสวมสิทธิสร้างความเสียหายแก่โครงการรับจำนำของรัฐบาล ที่กำลังมีการเปิดรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2555/56 จากเกษตรกรอยู่ในขณะนี้
หากตรวจพบว่าผู้ประกอบการรายใดลักลอบฝ่าฝืนขนย้ายข้าวเข้า-ออกนอกพื้นที่โดยไม่มีการขออนุญาตให้ถูกต้อง จะถูกดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ
นายสุทธิศักดิ์กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้มีการตั้งจุดตรวจสกัดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายข้าวจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในพื้นที่อย่างเข้มงวดด้วย ซึ่งในปีที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ลักลอบขนย้ายข้าวจาก จ.สระแก้วเข้ามาในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ถูกส่งฟ้องศาลดำเนินคดี 1 ราย แต่ปีนี้ยังไม่พบผู้กระทำผิดแต่อย่างใด
“ขณะนี้ได้มีผู้ประกอบการโรงสีและท่าข้าวในเขตพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์เข้ามายื่นขออนุญาตขนย้ายข้าวออกนอกพื้นที่จังหวัด ที่สำนักงานการค้าภายในจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อส่งให้โรงสีทางภาคกลางนำไปสีแปรสภาพแล้วกว่า 10 ราย ทั้งนี้ ที่ผู้ประกอบการมายื่นขออนุญาตขนย้ายข้าวเพื่อส่งไปแปรสภาพในช่วงนี้ เนื่องจากต้องการระบายข้าวออกจากโรงสีหรือโกดังเพื่อให้สามารถรองรับผลผลิตข้าวของเกษตรกรที่จะนำมาเข้าร่วมโครงการจำนำในอีกทางหนึ่ง” นายสุทธิศักดิ์กล่าว
