สระแก้ว - ผบช.สตม.ลงพื้นตรวจด่านพรมแดนด้านอรัญประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ AEC
วันนี้ (8 พ.ย.) พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว ณ.ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมี พ.ต.อ.สังคม ตัดโส ผกก.ตม.จ.สระแก้ว พ.ต.ท.เบญจพล รอดสวาสดิ์ รอง ผกก. นำเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรอรัญประเทศหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 12 และ 13 กองกำลังบูรพา และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกัมพูชาประจำด่านปอยเปต ประเทศกัมพูชา มาร่วมให้การต้อนรับคณะของ ผบช.สตม.
ด้าน พล.ต.ท.ภาณุ กล่าวว่า การเดินทางมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติของ จนท.ตม.จว.สระแก้ว ในครั้งนี้เพื่อมาดูสถานที่ และความพร้อมในการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ว่าขาดเหลืออะไรบ้าง เช่น เครื่องมืออุปกรณ์การตรวจสอบหนังสือเดินทาง และต้องการพัฒนาอะไร เพื่อรองรับการเข้าสู่ AEC ซึ่งด่าน ตม.พรมแดนภาคตะวันออกได้รับการสนับสนุนจากยูเอ็น(UN) ส่งเครื่องมือ และเทคโนโลยีพิเศษมาเสริม เพื่อสกัดกั้น และตรวจสอบการค้ามนุษย์ อาชญากรรมข้ามชาติ เป็นต้น
ดังนั้น หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองต้องมีการบริการที่ดี และต้องรวดเร็วในการอำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่เดินทาง และสัญจรผ่านด่าน และนอกจากด้านบริการแล้ว เจ้าหน้าที่ตม.จะต้องดูแลด้านความมั่นคงของประเทศควบคู่ไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่ ตม.จะเป็นทั้งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาเดียวกัน
ส่วนปัญหากรณีชาวเขมรมุสลิมจำนวนมากเดินทางไปชายแดนภาคใต้ของไทย พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม. กล่าวว่า จากการตรวจสอบทราบว่าเมื่อเดือนที่ผ่านมา มีชาวเขมรมุสลิมเดินทางผ่านด่านพรมแดนอรัญประเทศไปชายแดนภาคใต้ประมาณ 2,000 กว่าคน ซึ่งพบว่าเป็นการเดินทางไปทำงานที่ฝั่งประเทศมาเลเซียเป็นส่วนใหญ่ มีส่วนน้อยที่ยังคงทำงานอยู่ฝั่งไทย ส่วนกรณีที่ เจ้าหน้าที่ ตม.จ.นราธิวาส และ ตม.3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการจับกุมชาวเขมรมุสลิมที่หลบหนีเข้าเมืองลักลอบเข้ามาทำงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ แล้วควบคุมตัวส่งมาผลักดันกลับประเทศ
ทางด่าน ตม.อรัญประเทศนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นได้รับรายงานว่า มีชาวเขมรมุสลิมบางส่วนเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านด่านพรมแดนอรัญประเทศ โดยมีพาสปอร์ตเดินทางอย่างถูกต้อง แต่เมื่อไปถึงชายแดนภาคใต้ได้มีการทิ้งพาสปอร์ตแล้วกลายเป็นผู้หลบหนีเข้าเมืองลักลอบทำงานรับจ้างอยู่บริเวณชายแดนภาคใต้ของไทย ซึ่งจากการประเมินของเจ้าหน้าที่พบว่า ที่ชาวเขมรมุสลิมทิ้งพาสปอร์ตนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับกุมของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากหากมีพาสปอร์ตแล้วลักลอบทำงานในประเทศไทยจะถูกจับกุมหลายข้อหา เช่น อยู่เกินกำหนดในระยะเวลาของพาสปอร์ต ลักลอบทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และจะต้องถูกดำเนินคดีด้วย แต่หากทิ้งพาสปอร์ตก็จะเป็นแค่ผู้หลบหนีเข้าเมือง เมื่อถูกจับก็จะถูกส่งมาผลักดันกลับประเทศโดยไม่ต้องถูกดำเนินคดี จึงทำให้ชาวเขมรมุสลิมที่เดินทางไปทำงานชายแดนภาคใต้เลือกที่จะทิ้งพาสปอร์ต ทำให้เป็นปัญหาด้านความมั่นคง
ขณะนี้ได้สั่งการให้ ตม.จ.สระแก้ว สอบสวนอย่างเข้มงวดกรณีชาวเขมรมุสลิมที่ถูก ตม.ชายแดนภาคใต้จับกุม และถูกส่งกลับมาผลักดันกลับประเทศที่ ด่าน ตม.สระแก้ว ได้ตรวจสอบ และสอบสวนเพิ่มเติมหากพบว่าชาวเขมรมุสลิมคนใดตรวจสอบแล้วพบว่าเดินทางเข้าไทยผ่านด่าน ตม.อรัญประเทศ โดยมีพาสปอร์ตเดินทางเข้ามาให้ดำเนินคดีข้อหาแจ้งเท็จ และอยู่ในไทยเกินกำหนด เพื่อไม่ให้มีการทิ้งพาสปอร์ตแล้วลักลอบทำงานในพื้นที่อีก
