xs
xsm
sm
md
lg

ผบช.ภาค 5 เผยคดีจับอาร์พีจีฝั่งพม่าผู้ต้องหาอ้างค้าอาวุธ-พบอาวุธข้ามไปจากฝั่งไทย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - “สุเทพ” เผยประสานฝั่งพม่าขอข้อมูลคดีจับชาวไทใหญ่พร้อมอาร์พีจีที่ท่าขี้เหล็กแล้ว พบผู้ต้องหาสารภาพครั้งแรกมีคนเอามาฝากอีก 3-4 วันจะมารับคืน ก่อนกลับคำบอกเป็นเครือข่ายค้าอาวุธ ชี้จุดน่าสนใจอยู่ที่จับได้ไม่ไกลตำแหน่งที่ “ทักษิณ” จะมาเยือน-เข้าระยะทำการอาร์พีจี แถมพบอาวุธข้ามไปจากฝั่งไทยก่อนโดนจับ ยันยังบอกไม่ได้มีเอี่ยวลอบสังหาร “ทักษิณ” หรือไม่ ต้องรอพม่าสอบสวนให้เสร็จก่อน

วันนี้ (7 พ.ย.) พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยถึงกรณีการจับกุมอาวุธสงครามได้ในจังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมาร์ ซึ่งมีการระบุว่าอาจเป็นการวางแผนลอบสังหาร พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะเดินทางเยือนประเทศเมียนมาร์ในระหว่างวันที่ 8-10 พ.ย. 2555 และตามกำหนดการเดิมมีกำหนดการที่จะมายังจังหวัดท่าขี้เหล็กในระหว่างวันที่ 9-10 พ.ย. 2555 ว่า ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ประสานงานไปยังทางเมียนมาร์เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวแล้ว ตามการมอบหมายของ ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี

โดยข้อมูลที่ทางเมียนมาร์แจ้งมานั้นระบุว่า เจ้าหน้าที่ของเมียนมาร์สามาถจับกุมผู้ต้องหาชาวไทใหญ่ 1 รายได้ที่ใกล้โรงแรม 9 ชั้น ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่สำคัญทางศาสนาที่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณมีกำหนดการจะไปเยือนประมาณ 1 กิโลเมตรเศษ พร้อมของกลางเป็นกระสุนอาร์พีจีชนิดทำลายรถถังจำนวน 3 ลูกพร้อมกล่องใส่ ดินชาร์จสำหรับเพิ่มแรงดันในการยิง 3 ชุด และปืนเอ็ม 16 อีก 1 กระบอกพร้อมแมกกาซีนและกระสุน

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าครอบครองอาวุธสงครามดังกล่าวจริง โดยอาวุธทั้งหมดมีผู้นำมาฝากไว้ พร้อมทั้งแจ้งว่าจะมารับคืนภายใน 3-4 วัน แต่จำไม่ได้และไม่รู้จักว่าผู้ที่นำอาวุธสงครามมาให้นั้นเป็นใคร อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนในเวลาต่อมาผู้ต้องหาได้เปลี่ยนแปลงคำให้การ โดยระบุว่าอาวุธสงครามทั้งหมดเป็นของเครือข่ายการค้าอาวุธที่เตรียมจะส่งมอบให้ลูกค้า

พล.ต.ท.สุเทพกล่าวต่อไปว่า ข้อมูลทั้งหมดเป็นข้อเท็จจริงที่ทางเมียนมาร์ได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบแล้ว ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้เป็นอำนาจในการสอบสวนของทางเมียนมาร์ซึ่งไทยไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ แต่หากทางเมียนมาร์ต้องการข้อมูลหรือพยานหลักฐานใดเพิ่มเติมก็สามารถประสานงานตามกฎหมายความร่วมมือระหว่างประเทศได้ โดยฝ่ายไทยพร้อมและยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการดำเนินการเรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่

พล.ต.ท.สุเทพกล่าวต่อไปว่า กรณีดังกล่าวมีจุดที่น่าสนใจคือ อาวุธสงครามทั้งหมดนั้นข้ามจากฝั่งไทยเข้าไปยังเมียนมาร์ในวันเดียวกับที่ผู้ต้องหาถูกจับกุม ขณะที่ตำแหน่งที่ผู้ต้องหาถูกจับกุมนั้นอยู่ในระยะทำการของอาร์พีจี อีกทั้งปริมาณของอาวุธสงครามก็ถือว่าน้อยและไม่มีการบรรจุหีบห่อ หากพิจารณาจากการที่ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นการตระเตรียมเพื่อการซื้อขาย

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องปกติที่ผู้ต้องหาจะปฏิเสธการครอบครองหรือเกี่ยวข้องกับอาวุธสงครามอยู่แล้ว ส่วนผลสรุปของเรื่องดังกล่าวคงต้องรอให้ทางเมียนมาร์ทำการสืบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน จึงจะมีความชัดเจนว่าผู้ต้องหานำอาวุธสงครามดังกล่าวมาใช้เพื่อการใดที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ได้รับคำสั่งการจาก พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพภาคที่ 3 ให้ร่วมกับกองกำลังผาเมือง ทำการตรึงกำลังตลอดแนวชายแดนจังหวัดเชียงรายอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้มีการลักลอบก่อเหตุหรือกระทำความผิดในทุกด้านแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น