‘ถวิล’ อัดแผน ‘แม้ว’เลี่ยงแดงแจง ‘ตู่’ หลุด ครม. ย้อนบึ้มโบอิ้ง-คาร์บอมบ์ไร้มูลส่อจัดฉากซ้ำ หนุน ‘บิ๊กโอ๋’ ตอบชัดอาร์พีจีไม่เอี่ยวลอบฆ่า ไล่ ‘ภราดร’ ลาออก ขรก.ไปรับลูกฝ่ายการเมือง ติงรัฐโหมข่าวระวังกระทบมั่นคงพม่า เหน็บอย่าใช้เพื่อนบ้านเป็นตัวละคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 6 พ.ย. นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ ในฐานะอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผยว่า เป็นไปได้น้อยมากที่จะมีขบวนการลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีระหว่างการเดินทางมา จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ตามที่นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายกล่าวอ้าง การจับกุมอาวุธสงครามของชาวไทใหญ่เป็นเหตุที่เกิดขึ้นปกติตามชายแดนที่มักมีขบวนการลักลอบค้าอาวุธสงคราม ยาเสพติด และปัญหาชนกลุ่มน้อย อีกทั้งการข่าวที่ได้รับแจ้งมายังพบว่า ทางโรงแรมและหน่วยรักษาความปลอดภัยใน จ.ท่าขี้เหล็กเองยังไม่ได้รับการยืนยันที่แน่ชัดจาก พ.ต.ท.ทักษิณว่าจะมีการเข้าพัก
นายถวิล กล่าวต่อว่า เรื่องนี้สามารถมองได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณมีความตั้งใจเดินทางมาพบประธานาธิบดี เต็ง เส่ง ที่นครเนปิดอเพื่อเจรจาเรื่องธุรกิจการค้าตั้งแต่แรก จึงจำเป็นต้องแสดงตัวให้มวลชนเสื้อแดงเข้าพบด้วย แต่เมื่อเกิดแรงกระเพื่อมจากการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ไม่มีชื่อนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคนเสื้อแดงจึงเกิดภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ต้องเลี่ยงโดยหยิบเหตุผลด้านความปลอดภัยเป็นข้ออ้าง พลิกเกมให้คนเสื้อแดงเป็นฝ่ายห้ามไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณเข้า จ.ท่าขี้เหล็กแทน เป็นการเบี่ยงประเด็นให้คนเสื้อแดงห่วงความปลอดภัยของ พ.ต.ท.ทักษิณ
“บอกว่าตัวเองถูกลอบสังหารถึง 4 ครั้ง แต่ที่ผ่านมาล้วนไม่เคยมีมูลแทบทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์เครื่องบินโบอิ้งการบินไทยระเบิดเมื่อปี 44 หรือเหตุการณ์คาร์บอมบ์ที่ยังไม่รู้ว่าเป็นการลอบสังหารจริงหรือจัดฉาก การลักลอบสังหาร พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่ใช่เรื่องง่ายตามที่ออกกันมาให้ข่าว ยิ่งลักลอบปฏิบัติการในต่างประเทศยิ่งยากไปใหญ่ ส่วนที่บอกว่ากลุ่มผู้ค้ายาลงขันกันลอบสังหารนั้นถือว่ามีน้ำหนักน้อย การปราบปรามยาเสพติดสมัยทักษิณล่วงเลยมาหลายปีแล้วจะมาทำอะไรตอนนี้ หากผู้ค้ายาจะลงขันฆ่าทักษิณ ลงขันฆ่า ร.ต.อ.เฉลิม (อยู่บำรุง) ไม่ดีกว่าหรือ” นายถวิลกล่าว
นายถวิล กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ต้องรอรายงานผลการสอบสวนชาวไทใหญ่ที่ถูกจับกุมออกมาเป็นที่ชัดเจน ไม่ใช่ฟังคำพูดของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีเพียงฝ่ายเดียว หากพูดเช่นนั้นใครก็สามารถพูดได้ โดยเฉพาะ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการ สมช.อยากเตือนว่า สมช.เป็นหน่วยงานดูแลความมั่นคงของทั้งชาติบ้านเมืองไม่ใช่รัฐบาลอย่างเดียว หากอยากรับลูกฝ่ายการเมืองมากนัก ให้ลาออกจากข้าราชการประจำออกมาทำงานการเมืองแทน
“หลังนายพานทองแท้ออกมาโพสต์ข้อความกลายเป็นว่าทั้งฝ่ายการเมือง และข้าราชการออกมารับลูกกันหมด หากอยากทราบข้อเท็จจริงให้ดูคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ที่ยืนยันว่า การจับกุมอาวุธสงครามกับแผนลอบฆ่าไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะเขามีข่าวกรองด้านความมั่นคง รู้ดีว่าอาวุธสงครามที่ชายแดนเป็นเรื่องปกติ” นายถวิลกล่าว
ทั้งนี้ นายถวิลกล่าวยังทิ้งท้ายว่า รัฐบาลควรระมัดระวังความสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย การไปโจมตีประเทศพม่าว่าไม่มีความปลอดภัยต่ออดีตนายกรัฐมนตรีโดยไม่มีมูลความจริงที่ชัดเจนจะกลายเป็นการกล่าวหาประสิทธิภาพของหน่วยงานความมั่นคงในประเทศเพื่อนบ้านโดยไม่รู้ตัว อยากถามย้อนมาว่า หากเขาใช้ความมั่นคงในประเทศไทยเป็นตัวละครบ้าง เราจะรู้สึกอย่างไร