00 เชื่อว่าหลายคนที่ได้เห็นบทบาทของ “ลูกโอ๊ค” พานทองแท้ ชินวัตร ในช่วงสองสามเดือนที่
ผ่านมา ถือว่ามีสีสันน่าสนใจ และโดดเด่นผิดหูผิดตา โดยเฉพาะในแง่มุมทางการเมืองได้สร้างกระแส
เป็นข่าวได้ทุกวัน ตราบใดก็ตามที่เขาได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส์ส่วนตัว แม้ว่าในใจจะเชื่อว่ามีคนอื่น
“จัดการ” ให้แทน หรือเขียนให้ก็ตาม เพราะถ้าพิจารณาจากสติปัญญาเท่าที่เห็นด้วยสายตาในอดีตก็ไม่
น่าจะคิดอะไรได้เป็นระบบแบบนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาก็มักมี “ข่าวอื้อฉาว” เช่น ข่าวโกง-ลอกข้อสอบ เคยเกิด
ขึ้นให้เป็นขี้ปากมาแล้ว คราวนี้ก็ด้วยความสัตย์แม้ว่าจะไม่ค่อยเชื่อถือ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกว่ามี
พัฒนาการขึ้นมามากโขทีเดียว
00 การเปิดหน้าถล่ม “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรื่อง “หนีทหาร” ที่เกาะติดมาอย่างต่อเนื่อง จับ
ประเด็นการเมือง อาสาออกมาปกป้อง “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นผู้นำรัฐบาล ทั้งในเรื่องการแก้ต่าง
เรื่อง “ของไม่แพง” เดินสายตระเวนชิมมาถึงหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข้อมูลผิดถูกอย่างไร แต่ก็ถือว่า
สามารถชิงพื้นที่ข่าวได้ทุกครั้งตามต้องการ อันนี้ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวโพสต์เอง หรือคนที่ “วาง
แผน” ชักใยอยู่ข้างหลังก็ตาม
00 การปูดข่าว “ลอบสังหารพ่อ” เพื่อหาทางลงให้ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องไปตากแดด กินฝุ่น ดม
กลิ่นเหงื่อของคนเสื้อแดง ที่จะยกขบวนแห่แหนไปที่ท่าขี้เหล็ก วันที่ 10 พ.ย.อ้าง “หน่วยข่าว” รายงานเป็นตุเป็นตะถึงขบวนการค้ายา-ค้าของเถื่อน ลงขันลงมือ แถมยังไม่วายอวดผลงานแทนพ่อว่า มูลเหตุจูงใจมาจากฝีมือการทำงานกวาดล้างยาเสพติดอย่างเด็ดขาดจนเหี้ยน ทำให้พวกนี้เดือด\ร้อนหนักจนต้องตามฆ่ามาแล้วถึง 4-5 ครั้ง แม้ข้อมูลจะโคตรมั่ว โยงเอาเรื่องการบินไทยระเบิด คาร์บ๊องส์
คาร์บวม พาดพิงไปถึง พลเอก พ. จนพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ถึงกับส่ายหัว แต่ล่าสุดการสรุปโยงจากคดีที่พม่าจับกุมชนกลุ่มน้อยไทยใหญ่พร้อมอาวุธสงครามทั้งเครื่องยิงอาร์พีจีพร้อมกระสุนว่านี่แหละคือขบวนการฆ่าพ่อแม้ว
00 เน้นย้ำเรื่องดังกล่าวกันถึงสองวันติดต่อกัน และก็ได้ผลเมื่อสามารถชิงหน้าสื่อได้ตามคาดมี
การนำไปพาดหัวสื่อกันออกไปอย่างครึกโครม บรรดาสาวกที่เสพข่าวแบบไม่ยั้งคิดอาจส่งเสียงซี๊ดซ๊าด
ห่วงใยแม้ว คราวนี้อาจถึงฆาตก็ได้ แต่พวกที่รู้ทันก็มองออกว่านี่ “ปาหี่” ละครน้ำเน่าจะหาสาเหตุไม่ต้อง
การไปพบคนเสื้อแดงเพื่อตอบคำถามที่น่ารำคาญใจ หลังจากเสร็จสิ้นเป้าหมายหลักนั่นคือ การพบกับ
ประธานาธิบดีเต็งเส่งก่อนหน้าในวันที่ 8 พ.ย.และพบนักธุรกิจพม่าในวันที่ 9 พ.ย.เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเจรจาธุรกิจเรียบร้อยแล้วก็จะเสียเวลาทำไม แต่ปัญหาก็คือเมื่อมาถึงแล้วไปมาพบปะกันสักหน่อยกัน
ก็หักหาญน้ำใจกันมากไปหน่อย ก็นี่ไงเรื่อง “ลอบสังหาร” งัดมาใช้เมื่อไหร่เป็นได้เรื่องทุกที
00 อย่างไรก็ปัญหามันก็คือในเมื่อ “บทละครน้ำเน่า” มันเน่าเกินบรรยาย ทำให้บางคนถึงกับ “หลุด
คิว” อย่างที่กำลังเกิดกับ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม อยู่นี่ไง เพราะดันให้สัมภาษณ์ไปตาม
ประสาพาซื่อ ตามที่ข้อมูลได้รับมาว่า “ไม่มีใครจ้องฆ่า” อาวุธที่จับได้ก็ไม่เห็นเกี่ยวตรงไหน แม้เป็นเรื่อง
จริง แต่มันผิดแผน มันถึงได้เห็นอาการไม่งามเมื่อ “เด็กวานซืน ถอนหงอกเพื่อนพ่อ” ทำตัวเหมือนลูกเจ้า
ของบริษัท เอาแต่ใจไล่ด่าลูกน้องพ่อ ต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัท ภาพออกมาอย่างนั้นจริงๆ
00 น่าเจ็บปวดสำหรับคนที่เป็นถึง รมว.กลาโหม คุมทหารสามเหล่าทัพ แต่มาถูกหักหน้าด่าประจานกลางตลาดอย่างที่เห็น มันก็ย่อยยับป่นปี้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการจิกหัวด่าลูกน้องพ่อ ที่ได้ตำแหน่งมาด้วยวิธีพิเศษ แต่อีกด้านหนึ่งนี่คือเสนาบดี ต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาสอนเชิงเรื่องงานข่าวกรอง เรื่องอาวุธกับนายทหาร หรือว่า ลูกโอ๊ค นึก
สนุกคันมือขึ้นมา ถึงขั้นคิดไปไกลตามแรงยุให้ “คิดการใหญ่” เสียเองหรือเปล่า อาจคิดไปว่าในเมื่อระดับมันสมองของ “อาปู” ที่รับรู้กันทั่วในหมู่คนในครอบครัวว่ายังเป็นนายกฯมาได้ถึงปีกว่าแล้วยังจะเป็นเรื่อยๆ แล้วมีลูกยุจากบางคนว่า ทำไมคนอย่างโอ๊คจะเป็นนักการเมือง หรือถึงขั้นเป็นนายกฯ บ้างไม่ได้ แต่ไม่..ไม่..ไม่..นะโอ๊ค อย่าคิดเลอะเทอะเป็นอันขาด ขอร้องละ !!
ผ่านมา ถือว่ามีสีสันน่าสนใจ และโดดเด่นผิดหูผิดตา โดยเฉพาะในแง่มุมทางการเมืองได้สร้างกระแส
เป็นข่าวได้ทุกวัน ตราบใดก็ตามที่เขาได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กส์ส่วนตัว แม้ว่าในใจจะเชื่อว่ามีคนอื่น
“จัดการ” ให้แทน หรือเขียนให้ก็ตาม เพราะถ้าพิจารณาจากสติปัญญาเท่าที่เห็นด้วยสายตาในอดีตก็ไม่
น่าจะคิดอะไรได้เป็นระบบแบบนี้ อีกทั้งที่ผ่านมาก็มักมี “ข่าวอื้อฉาว” เช่น ข่าวโกง-ลอกข้อสอบ เคยเกิด
ขึ้นให้เป็นขี้ปากมาแล้ว คราวนี้ก็ด้วยความสัตย์แม้ว่าจะไม่ค่อยเชื่อถือ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องบอกว่ามี
พัฒนาการขึ้นมามากโขทีเดียว
00 การเปิดหน้าถล่ม “มาร์ค” อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เรื่อง “หนีทหาร” ที่เกาะติดมาอย่างต่อเนื่อง จับ
ประเด็นการเมือง อาสาออกมาปกป้อง “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เป็นผู้นำรัฐบาล ทั้งในเรื่องการแก้ต่าง
เรื่อง “ของไม่แพง” เดินสายตระเวนชิมมาถึงหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ข้อมูลผิดถูกอย่างไร แต่ก็ถือว่า
สามารถชิงพื้นที่ข่าวได้ทุกครั้งตามต้องการ อันนี้ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเจ้าตัวโพสต์เอง หรือคนที่ “วาง
แผน” ชักใยอยู่ข้างหลังก็ตาม
00 การปูดข่าว “ลอบสังหารพ่อ” เพื่อหาทางลงให้ ทักษิณ ชินวัตร ไม่ต้องไปตากแดด กินฝุ่น ดม
กลิ่นเหงื่อของคนเสื้อแดง ที่จะยกขบวนแห่แหนไปที่ท่าขี้เหล็ก วันที่ 10 พ.ย.อ้าง “หน่วยข่าว” รายงานเป็นตุเป็นตะถึงขบวนการค้ายา-ค้าของเถื่อน ลงขันลงมือ แถมยังไม่วายอวดผลงานแทนพ่อว่า มูลเหตุจูงใจมาจากฝีมือการทำงานกวาดล้างยาเสพติดอย่างเด็ดขาดจนเหี้ยน ทำให้พวกนี้เดือด\ร้อนหนักจนต้องตามฆ่ามาแล้วถึง 4-5 ครั้ง แม้ข้อมูลจะโคตรมั่ว โยงเอาเรื่องการบินไทยระเบิด คาร์บ๊องส์
คาร์บวม พาดพิงไปถึง พลเอก พ. จนพล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี ถึงกับส่ายหัว แต่ล่าสุดการสรุปโยงจากคดีที่พม่าจับกุมชนกลุ่มน้อยไทยใหญ่พร้อมอาวุธสงครามทั้งเครื่องยิงอาร์พีจีพร้อมกระสุนว่านี่แหละคือขบวนการฆ่าพ่อแม้ว
00 เน้นย้ำเรื่องดังกล่าวกันถึงสองวันติดต่อกัน และก็ได้ผลเมื่อสามารถชิงหน้าสื่อได้ตามคาดมี
การนำไปพาดหัวสื่อกันออกไปอย่างครึกโครม บรรดาสาวกที่เสพข่าวแบบไม่ยั้งคิดอาจส่งเสียงซี๊ดซ๊าด
ห่วงใยแม้ว คราวนี้อาจถึงฆาตก็ได้ แต่พวกที่รู้ทันก็มองออกว่านี่ “ปาหี่” ละครน้ำเน่าจะหาสาเหตุไม่ต้อง
การไปพบคนเสื้อแดงเพื่อตอบคำถามที่น่ารำคาญใจ หลังจากเสร็จสิ้นเป้าหมายหลักนั่นคือ การพบกับ
ประธานาธิบดีเต็งเส่งก่อนหน้าในวันที่ 8 พ.ย.และพบนักธุรกิจพม่าในวันที่ 9 พ.ย.เสร็จเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเจรจาธุรกิจเรียบร้อยแล้วก็จะเสียเวลาทำไม แต่ปัญหาก็คือเมื่อมาถึงแล้วไปมาพบปะกันสักหน่อยกัน
ก็หักหาญน้ำใจกันมากไปหน่อย ก็นี่ไงเรื่อง “ลอบสังหาร” งัดมาใช้เมื่อไหร่เป็นได้เรื่องทุกที
00 อย่างไรก็ปัญหามันก็คือในเมื่อ “บทละครน้ำเน่า” มันเน่าเกินบรรยาย ทำให้บางคนถึงกับ “หลุด
คิว” อย่างที่กำลังเกิดกับ พล.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม อยู่นี่ไง เพราะดันให้สัมภาษณ์ไปตาม
ประสาพาซื่อ ตามที่ข้อมูลได้รับมาว่า “ไม่มีใครจ้องฆ่า” อาวุธที่จับได้ก็ไม่เห็นเกี่ยวตรงไหน แม้เป็นเรื่อง
จริง แต่มันผิดแผน มันถึงได้เห็นอาการไม่งามเมื่อ “เด็กวานซืน ถอนหงอกเพื่อนพ่อ” ทำตัวเหมือนลูกเจ้า
ของบริษัท เอาแต่ใจไล่ด่าลูกน้องพ่อ ต่อหน้าพนักงานทั้งบริษัท ภาพออกมาอย่างนั้นจริงๆ
00 น่าเจ็บปวดสำหรับคนที่เป็นถึง รมว.กลาโหม คุมทหารสามเหล่าทัพ แต่มาถูกหักหน้าด่าประจานกลางตลาดอย่างที่เห็น มันก็ย่อยยับป่นปี้ แม้ว่าในความเป็นจริงแล้ว มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการจิกหัวด่าลูกน้องพ่อ ที่ได้ตำแหน่งมาด้วยวิธีพิเศษ แต่อีกด้านหนึ่งนี่คือเสนาบดี ต้องมีเกียรติมีศักดิ์ศรี ไม่ใช่เด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมมาสอนเชิงเรื่องงานข่าวกรอง เรื่องอาวุธกับนายทหาร หรือว่า ลูกโอ๊ค นึก
สนุกคันมือขึ้นมา ถึงขั้นคิดไปไกลตามแรงยุให้ “คิดการใหญ่” เสียเองหรือเปล่า อาจคิดไปว่าในเมื่อระดับมันสมองของ “อาปู” ที่รับรู้กันทั่วในหมู่คนในครอบครัวว่ายังเป็นนายกฯมาได้ถึงปีกว่าแล้วยังจะเป็นเรื่อยๆ แล้วมีลูกยุจากบางคนว่า ทำไมคนอย่างโอ๊คจะเป็นนักการเมือง หรือถึงขั้นเป็นนายกฯ บ้างไม่ได้ แต่ไม่..ไม่..ไม่..นะโอ๊ค อย่าคิดเลอะเทอะเป็นอันขาด ขอร้องละ !!