บุรีรัมย์ - นักการเมืองท้องถิ่น-ผู้ใหญ่บ้าน-ตัวแทนเกษตรกร และเกษตรกรทั้ง 23 คนที่ถูก ตร.ออกหมายเรียกฐานร่วมขบวนการทุจริตจำนำข้าวบุรีรัมย์กว่า 44 ล้านบาท เข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.หนองกี่ครบทั้งหมดแล้ว แต่ยังปฏิเสธขอให้การชั้นศาล ขณะ ตร.เร่งสรุปสำนวนส่งอัยการสั่งฟ้อง 15 พ.ย.นี้
วันนี้ (6 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากพนักงานสอบสวนตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ที่ได้รับการแต่งตั้งดูแลคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวได้ออกหมายเรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องร่วมในการกระทำทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 พื้นที่ อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ เพิ่มเติมอีกจำนวน 23 ราย ในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอหนองกี่, หนองหงส์, โนนสุวรรณ, ชำนิ, ลำปลายมาศ, นางรอง และอำเภอปะคำ ซึ่งมีทั้งนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนเกษตรกรประจำจุดจำนำ และเกษตรกร ในข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิอันเป็นเอกสารราชการ, ร่วมกันฉ้อโกง, ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น
ล่าสุดผู้ที่ถูกออกหมายเรียกทั้ง 23 รายได้เดินทางเข้ารับทราบข้อกล่าวหาที่ สภ.หนองกี่ครบทุกรายแล้ว แต่ทั้งหมดยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยจะขอต่อสู้และให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ขณะที่ผู้ต้องหาทั้ง 5 รายที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ ประกอบไปด้วย นายธนพล คู่สกุลนิรันดร์ เจ้าของท่าข้าว ธนพลพืชผล อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์, ภรรยาเจ้าของท่าข้าว, น.ส.สุกัญญา ธัญญะตุลย์ เจ้าหน้าที่ อคส.ประจำหน่วยรับฝากท่าข้าวธนพล, ผู้ช่วย อคส.ที่อยู่ระหว่างการประกันตัวสู้คดี ก็ได้เข้ารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มฐานเป็นเจ้าพนักงานที่มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการรักษาทรัพย์ใดๆ ใช้อำนาจหน้าที่ในตำแหน่งโดยทุจริต ครบทุกรายแล้วเช่นกัน
ส่วนการสอบปากคำเกษตรกรทั้ง 459 รายที่ตรวจพบเข้าข่ายมีส่วนพัวพันทุจริตนั้น ขณะนี้การสอบสวนคืบหน้าไปมาก โดยล่าสุดเหลืออีกเพียงกว่า 10 รายเท่านั้น คาดว่าจะสอบปากคำแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้เพื่อจะเร่งสรุปสำนวนคดีส่งอัยการจังหวัด เพื่อสั่งฟ้องศาลภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้ได้อย่างแน่นอน ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ขีดเส้นกำหนดให้ทุกจังหวัดที่มีคดีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวให้สรุปสำนวนคดีส่งอัยการไม่เกิน 15 พ.ย. 2555