ศรีสะเกษ - “ตำบลน้ำคำ” ศรีสะเกษแล้งหนัก ฝนไม่ตกมานานกว่า 2 เดือน ข้าวในนายืนต้นแห้งตายกว่า 70% รวมกว่าพันไร่แล้ว เผย 2 ปีที่แล้วประสบปัญหาน้ำท่วมทำไร่นาไม่ได้ ปีนี้เจอภัยแล้งต้นข้าวตายเกือบหมด จึงพากันไถพรวนดินปลูกพริกกลับมาขาดน้ำแห้งตายซ้ำอีก วอนรัฐช่วยเหลือด่วน
วันนี้ (2 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหนองคำ ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ขณะนี้ชาวบ้านกำลังประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ต้นข้าวของเกษตรกรที่กำลังออกรวงได้ยืนต้นแห้งตายไปแล้วประมาณ 1,000 ไร่ ทุ่งนากลายเป็นทุ่งหญ้าขึ้นแทนต้นข้าวเต็มไปหมด ชาวบ้านต้องพากันไถพรวนดินส่วนหนึ่งที่ต้นข้าวแห้งตายเพื่อหันมาปลูกพริกพืชใช้น้ำน้อยตามคำแนะนำของหน่วยงานรัฐแทน เพื่อหวังจะเป็นการสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัวได้บ้าง
แต่ปรากฏว่าไม่มีน้ำรดต้นพริกเพียงพอ ทำให้ต้นพริกต้องแห้งตายเสียหายไปจำนวนมากเช่นกัน แม้แต่ปูนายังต้องอพยพเพื่อไปหาที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำแห่งใหม่ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด แต่ไปไม่รอดต้องนอนแห้งตายเพราะขาดน้ำ
นายสำรวย ศรีเสมอ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84 ม.9 ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ในเขต ต.น้ำคำ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ฝนไม่ตกมานานกว่า 2 เดือนแล้วตั้งแต่ต้นเดือน ก.ย.เป็นต้นมา ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้มีข่าวว่าจะมีพายุพัดเข้ามาในเขตพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ ชาวบ้านก็หวังจะมีฝนตกเพื่อให้มีน้ำมาเลี้ยงต้นข้าวในนาบ้าง แต่ไม่มีพายุพัดเข้ามาแต่อย่างใด ทำให้ต้นข้าวของชาวบ้านยืนต้นแห้งตายไปแล้วกว่า 70% ของพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้การช่วยเหลือแต่อย่างใด เพียงแค่ให้แจ้งพื้นที่ประสบภัยแล้งไว้เท่านั้น
“ปี 2553-2554 ที่ผ่านมาพื้นที่ ต.น้ำคำได้เกิดน้ำท่วมไม่สามารถทำไร่นาได้ แต่มาถึงปีนี้ข้าวที่เกษตรกรปลูกไว้ต้องมาแห้งตายเพราะประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้พวกเราได้รับความเดือดร้อนมาก จึงขอวอนให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาหาทางช่วยเหลือโดยด่วนด้วย” นายสำรวยกล่าว