xs
xsm
sm
md
lg

นาข้าวบุรีรัมย์แห้งตายแทบยกตำบล ร้องรัฐช่วย-อบต.นำรถน้ำฉีดต้นข้าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

แล้งจัด นาข้าวที่กำลังตั้งท้องใกล้ออกรวง ในพื้นที่ ต. กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์  ขาดน้ำยืนต้นแห้งตายเกือบทั้งตำบล เกษตรกรร้องรัฐช่วยเหลือด่วน วันนี้ ( 31 ต.ค.)
บุรีรัมย์ - แล้งจัด กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน พร้อมเกษตรกรบุรีรัมย์ร้องรัฐช่วยเหลือนาข้าวที่กำลังตั้งท้องแห้งตายเสียหายกว่า 40% ของพื้นที่เพาะปลูกกว่า 17,000 ไร่ เกษตรกรไม่มีข้าวไปเข้าร่วมโครงการจำนำ ขณะ อบต.นำรถน้ำไปฉีดพ่นนาข้าวช่วยเกษตรกรที่ข้าวใกล้แห้งตาย แต่แทบช่วยอะไรไม่ได้

วันนี้ (31 ต.ค.) นายสำรวย สว่างอารมณ์ กำนันตำบลกลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมผู้ใหญ่บ้าน และตัวแทนเกษตรกร 13 หมู่บ้านของตำบลกลันทา ได้ออกมาร้องขอความช่วยเหลือหลังนาข้าวเกษตรกรในตำบลประสบปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก ฝนทิ้งช่วง ทำให้ต้นข้าวที่กำลังตั้งท้องยืนต้นตายเสียหายสิ้นเชิงกว่า 40% หรือกว่า 8,000 ไร่ ของจำนวนพื้นที่เพาะปลูกทั้งตำบลกว่า 17,000 ไร่ สร้างความเดือดร้อนเสียหายแก่เกษตรกร

ทั้งยังส่งผลให้เกษตรกรบางส่วนไม่มีข้าวไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลฤดูกาลผลิตปี 2555/56 ทำให้ไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว และใช้จ่ายหนี้สินที่เกิดจากการกู้ยืมมาทำการเพาะปลูกข้าวในปีการผลิตนี้

นายสำรวย สว่างอารมณ์ กำนันตำบลกลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ในปีนี้ตำบลกลันทา พื้นที่นาข้าวของเกษตรกรได้รับความเสียหายอย่างหนักจากภาวะฝนทิ้งช่วงและปัญหาภัยแล้งมากที่สุดในรอบ 10 ปี เกษตรกรจำนวนมากทำนาปีนี้แทบไม่ได้ข้าวเลย ยืนต้นแห้งตายเกือบทั้งหมด ไม่รู้ว่าจะหาข้าวจากที่ไหนไปเข้าร่วมโครงการรับจำนำของรัฐบาล เพราะนาข้าวที่ทำแทบจะไม่มีเหลือกินในครอบครัว จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหรือรับผิดชอบ เร่งเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยโดยด่วน

เบื้องต้นขณะนี้ได้ให้ผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการหมู่บ้านออกไปสำรวจชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาภัยแล้ง เพื่อรวบรวมข้อมูลพื้นที่เสียหายจริงส่งให้ทางอำเภอและจังหวัดหาแนวทางช่วยอย่างเร่งด่วน ทั้งการจ่ายเป็นเงินชดเชย และแจกจ่ายพันธุ์ข้าวแก่เกษตรกรที่จำนำไปเพาะปลูกในฤดูการผลิตหน้า พร้อมทั้งพิจารณาพักชำระหนี้ให้เกษตรกรที่มีหนี้สินกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เพื่อคลายความเดือดร้อนให้เกษตรกรดังกล่าวด้วย

ด้านนางบุญจันทร์ อุตมะ อายุ 45 ปี เกษตรกรบ้านหนองบอน หมู่ 10 ต.กลันทา อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ตนทำนา 19 ไร่ แต่ประสบปัญหาภัยแล้งเสียหายสิ้นเชิงไปเกือบ 18 ไร่ และไม่รู้ว่านาข้าวส่วนที่ไม่เสียหายจะเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวได้หรือไม่ เพราะนาไม่มีน้ำต้นข้าวแห้ง และเมล็ดข้าวก็ลีบเล็ก

“ปีนี้หมดทุกอย่าง แทบสิ้นเนื้อประดาตัว ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปใช้หนี้เขาที่กู้ยืมมา เพราะเงินที่กู้มาหมดไปกับการลงทุนทำนาแล้ว จึงอยากขอให้หน่วยงานของรัฐเร่งเข้ามาสำรวจช่วยเหลือโดยด่วน เพราะทุกวันนี้ต้องออกไปรับจ้างรายวันหาเงินมาจุนเจือครอบครัว” นางบุญจันทร์กล่าว

ขณะเดียวกัน ทางองค์การบริหารส่วนตำบลกลันทาได้เร่งนำรถบรรทุกน้ำไปฉีดพ่นนาข้าวของเกษตรกรที่ใกล้แห้งตายช่วยเหลือเกษตรกร แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือได้ครอบคลุมเนื่องจากติดเรื่องค่าใช้จ่าย และรถบรรทุกน้ำไม่เพียงพอมีเพียงคันเดียว





กำลังโหลดความคิดเห็น