ระยอง- 3 รีสอร์ตกลางทะเลหน้าเกาะเสม็ด ยังดื้อไม่ยอมรื้อถอน แม้จะสิ้นสุดคำสั่งรื้อถอนในเย็นวันที่ 31 ต.ค .นี้ โดยใช้ผ้าใบปิดด้านหน้าไม่ให้คนมองเห็นภายใน ด้าน หน.อุทยานฯ เตรียมถ่ายรูปนำเสนอผู้บริหารระดับสูงพิจารณาต่อไป
วันนี้ (31 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เป็นวันครบกำหนดการขอผ่อนผันรื้อสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดของรีสอร์ต “มุกเสม็ด” “อันซีน” และ “พลอยเสม็ด” หมู่ 4 ต.เพ อ.เมืองระยอง ตามคำสั่งของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อปี 2546 เมื่อ 9 ปีที่ผ่านมา รีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง เคยถูกเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จับกุมดำเนินคดีส่งฟ้องศาลข้อหาปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำเขตอุทยานฯ มาครั้งหนึ่งแล้ว
คดีดังกล่าวได้สิ้นสุดในชั้นศาลฎีกาพิพากษาให้ทำการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 แห่ง แต่ยังไม่มีการรื้อถอน กลับมีการซื้อขายต่อเปลี่ยนตัวผู้ประกอบการใหม่ และเมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า มีนายสมปอง วงษ์เพชร อายุ 46 ปี เป็นผู้จัดการ “พลอยเสม็ด” นายราเชษฐ กลิ่นพิกุล อายุ 33 ปี ผู้จัดการ “มุกเสม็ด” และนายบุญมี ยืนยง อายุ 33 ปี ผู้จัดการ “อันซีน” เข้ามาดำเนินกิจการต่อ และยังมีการขยายต่อเติมจากเดิมที่มีการจับกุมดำเนินคดีเมื่อ 9 ปีก่อน
เจ้าหน้าที่จึงดำเนินการจับกุมนายสมปอง วงษ์เพชร นายบุญมี ยืนยง และนายราเชษฐ กลิ่นพิกุล ผู้จัดการรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งในข้อหา พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.2504 มาตรา 22 ต่อมา เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้นำคำสั่งให้รื้อถอนที่ 41/2555 ปิดประกาศรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 28 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เมื่อครบกำหนด รีสอร์ตทั้ง 3 แห่งก็ยังไม่ยอมรื้อถอน เมื่อวันที่ 1 กันยายนที่ผ่านมา กลุ่มผู้ประกอบการ และชาวบ้านเกาะเสม็ดได้มีการรวมตัวร้องขอผ่อนผันการรื้อถอนรีสอร์ตออกไปจนถึงวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และในวันเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดการผ่อนผันการรื้อถอนรีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง ยังพบว่ารีสอร์ตทั้ง 3 แห่งได้ใช้ผ้าใบมาปิดด้านหน้า และยังไม่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างแต่อย่างใด
เกี่ยวกับกรณีนี้นายอาคม น้ำคำ หน.อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กล่าวว่า หลังมีคำสั่งรื้อถอนรีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง ได้ให้เจ้าหน้าที่อุทยานฯคอยสอดส่องดูแลไม่ให้มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าพัก หรือมีการเปิดขายอาหาร แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถที่จะคอยเฝ้าดูได้ตลอดเวลา บางครั้งอาจจะมีการให้ญาติหรือพวกพ้องเข้าไปพัก หรืออาจจะมีการจองที่พักไว้ล่วงหน้าก่อนหน้านี้บ้าง
ส่วนการรื้อถอนยังไม่มีการรื้อถอนแต่อย่างใด ยังคงสภาพเดิม และในช่วงเวลาเย็นวันเดียวกันนี้ซึ่งจะหมดเวลาผ่อนผัน ก็จะลงพื้นที่เข้าตรวจสอบหากยังไม่มีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ก็จะถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานแล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
“รอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาที่จะสั่งการลงมา และเนื่องจากขณะนี้ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช คนใหม่ เข้ามารับหน้าที่ จึงต้องรอนโยบายอธิบดีคนใหม่ก่อน และพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบาย ถึงอย่างไร รีสอร์ตทั้ง 3 แห่ง ต้องถูกรื้อถอนอย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว โดยพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบายของผู้บังคับบัญชา” นายอาคมกล่าว
ด้านนายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยอง กล่าวว่า กรณีคำสั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ต “มุกเสม็ด” “อันซีน”และ “พลอยเสม็ด” ที่ปลูกสร้างรุกล้ำลำน้ำเขตอุทยานแห่งชาติฯ เกาะเสม็ดครบกำหนดให้รื้อถอนภายในวันที่ 31 ตุลาคมวันนี้นั้น เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนกรณีองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยองประกาศปิดท่าเทียบเรือเกาะเสม็ดในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้
ด้านนายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ระยอง กล่าวว่า ขณะนี้ทราบว่า นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผวจ.ระยองได้ประสานอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ให้เปิดใช้ท่าเทียบเรือของอุทยานฯ บริเวณอ่าวลูกโยน ซึ่งอยู่ใกล้ท่าเทียบเรือของ อบจ. เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนและนักท่องเที่ยวแทนท่าเทียบเรือของ อบจ.ระยองที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ ซึ่งอาจเป็นอันตรายแก่ประชาชน และนักท่องเที่ยวได้