ระยอง - หัวหน้าอุทยานฯ ตรวจ 3 รีสอร์ตบนเกาะเสม็ดที่โดนคำสั่งรื้อถอน พบรื้อถอนบ้านพักพนักงาน ไม้กระดานปูพื้น และราวลูกกรงระเบียงไม้ ส่วนหลังคา ห้องพัก ร้านอาหาร ยังคงสภาพเดิม
วันนี้ (2 ก.ย.) นายอาคม น้ำคำ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง ได้พาสื่อมวลชนลงเรือเร็วไปตรวจสอบรีสอร์ต มุกเสม็ด อันซีนและพลอยเสม็ด ที่ถูกคำสั่งศาลพิพากษาให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ปรากฏว่าไม่มีคนงานมารื้อถอนทั้ง 3 แห่งแต่อย่างใด ส่วนที่พลอยเสม็ดมีการรื้อถอนไม้กระดานปูพื้นกว่า 10 แผ่น และลูกกรงระเบียงไม้บางส่วนออกไปกองรวมกันไว้เท่านั้น ส่วนที่อันซีนมีการรื้อไม้กระดานปูพื้นเพียงบางส่วนเช่นกัน
จากนั้นได้เดินทางไปตรวจสอบมุกเสม็ดพบว่ามีการรื้อหลังคาบ้านพักพนักงานของรีสอร์ตเท่านั้น แต่ตัวรีสอร์ตยังไม่มีการดำเนินการแต่อย่างใด พร้อมบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาไม่มีความตั้งใจจริงที่จะรื้อถอนตามคำสั่ง ถ้ามีเจตนาและจริงใจที่จะรื้อตามคำสั่งต้องมีการรื้อถอนหลังคา ร้านอาหาร ขนย้ายข้าวของหรือหยุดกิจการ แต่นี่ระยะเวลาได้ผ่านมานานแล้วก็ยังไม่ดำเนินการ
นายอาคมกล่าวว่า กรณีกลุ่มผู้ประกอบการรีสอร์ตและชาวบ้านเกาะเสม็ด หมู่ 4 ต.เพ อ.เมืองระยอง ประมาณ 100 คนเข้ายื่นหนังสือขอผ่อนผันการรื้อถอนรีสอร์ตมุกเสม็ด พลอยเสม็ด และอันซีน ซึ่งครบกำหนดรื้อถอนในวันที่ 1 กันยายนออกไปเป็นวันที่ 31 ตุลาคม ตามที่ได้มีการพูดคุยกันก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ข้อตกลงเป็นการหารือกัน ซึ่งผู้ประกอบได้นำเสนอขอเป็นผู้รื้อถอนเองภายในวันที่ 31 ตุลาคม ทางกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้พิจารณาสั่งการแจ้งให้ผู้ประกอบการมาทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในแนวทางเดียวกันที่ถูกต้อง และต้องมีการยินยอมด้วยกันทั้งสองฝ่ายก่อน
แต่ในกรณี้นี้ผู้ประกอบการไม่สามารถลงนามในบันทึกกับอุทยานฯ ได้จึงไม่ได้ใช้บันทึกนี้เป็นข้อพิจารณา ณ ปัจจุบันนี้กำหนดตามข้อบันทึกที่กล่าวอ้างหมดเวลาไปแล้ว ส่วนเรื่องการรื้อถอนรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งนี้เมื่อไหร่นั้นต้องรอคำสั่ง เนื่องจากเป็นนโยบายระดับสูงของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะเป็นผู้สั่งการลงมา
“ขณะนี้ได้มีคำสั่งแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามการดำเนินการของรีสอร์ตทั้ง 3 แห่งที่ถูกคำสั่งศาลพิพากษารื้อถอน พร้อมแจ้งให้ผู้ประกอบการรีบดำเนินการขนย้ายข้าวของออกไปให้เสร็จสิ้น ส่วนกรณีที่เจ้าหน้าที่ออกไปตรวจพบว่าคำสั่งรื้อถอนที่ติดประกาศไว้ทั้ง 3 แห่งหายหมด จะให้เจ้าหน้าที่แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่ามีการทำลายทรัพย์สินหรือประกาศของทางราชการ”