ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชาวระยอง นักท่องเที่ยวไทย ต่างประเทศ ธุรกิจท่องเที่ยว ที่พักอาศัย การค้า เดือดร้อนหนัก หลัง อบจ.ระยองตัดสินใจประกาศปิดตายห้ามเรือทุกชนิด ทุกประเภทเข้าเทียบท่าเรือเกาะเสม็ด พบสะพานชำรุด และการก่อสร้างสะพานแห่งใหม่ยังไม่เรียบร้อย หลังโดนระงับการก่อสร้าง และไม่มีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหา หวั่นนักท่องเที่ยว และประชาชนได้รับอันตราย ดีเดย์ 1 พ.ย.55 ปิดตาย
วันนี้ (21 ต.ค.) นายปิยะ ปิตุเตชะ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.) ระยอง พร้อมเจ้าหน้าที่ได้เดินทางไปตรวจสอบสะพานเทียบเรือเกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง พบว่า ยังมีเรือรับนักท่องเที่ยว เรือประมง เรือเร็ว และเรือรับ-ส่งสินค้าระหว่างเกาะกับชายฝั่งยังหมุนเวียนเข้าเทียบสะพานเกาะเสม็ดเก่าที่ชำรุดทรุดโทรม และสะพานใหม่ที่ยังดำเนินการก่อสร้างยังไม่เรียบร้อย มีนักท่องเที่ยว ชาวไทย และชาวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยว และพักอาศัยเป็นจำนวนมาก เพราะเป็นวันหยุดราชการ และยังเป็นช่วงปิดเทอมของนักเรียนด้วย
นายปิยะ ปิตุเตชะ นายก อบจ.ระยอง เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบสะพานเทียบเรือเกาะเสม็ดทั้งสะพานเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก และสะพานใหม่ที่กำลังก่อสร้าง ใช้งบประมาณ 170 ล้านบาท แต่ว่าได้เกิดปัญหาเมื่อได้มีประกาศอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด โดยนายอาคม น้ำคำ นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษและหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า และหมู่เกาะเสม็ด เรื่อง มิให้ดำเนินการก่อสร้างก่อนได้รับอนุญาต เพราะได้ตรวจสอบพบว่า การก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด โดยกิจการร่วมค้าบ้านค่ายพระนคร เลขที่ กพ.15/2554 ลง 11 ก.ย.2553 ยังมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของการอนุญาต
ดังนั้น จึงประกาศให้นักท่องเที่ยว และประชาชนรับทราบว่า มิให้บริษัทร่วมค้าบ้านค่ายพระนคร และองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยอง ดำเนินการก่อสร้างใดๆ ก่อนได้รับอนุญาต และให้ อบจ.ระยอง ดำเนินการรีบเร่งจัดทำรายงานการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EA) หรืออย่างน้อยต้องดำเนินการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น (EE) เพื่ออุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จะได้นำเสนอกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้ประกอบการอนุญาตต่อไป ด้วยประกาศนี้ทำให้การก่อสร้างได้หยุดลงอย่างกะทันหัน
ที่ผ่านมา ขณะดำเนินการก่อสร้างสะพานใหม่ก็ได้ผ่อนผันให้เรือขนส่งสินค้า เรือนักท่องเที่ยว เรือประมงเข้าเทียบท่าเรือเก่าได้บ้าง ไม่เช่นนั้นการหมุนเวียนของวิถีประชาชน นักท่องเที่ยวที่อยู่บนเกาะเสม็ดจะไม่สามารถดำเนินการทางด้านการท่องเที่ยว การค้าขาย การบริการบ้านพักได้เลย แต่ตอนนี้สะพานเก่าได้มีการชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก ถ้าปล่อยให้ใช้ต่อไปจะเกิดอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ และเมื่อเกิดปัญหาทำให้เสียชื่อเสียงด้านความปลอดภัยของการท่องเที่ยว และใครจะรับผิดชอบความเสียหาย
สุดท้าย อบจ.ระยองจะต้องรับผิดชอบถ้าเกิดปัญหา จึงได้ตัดปัญหาทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นด้วยการประกาศปิดห้ามใช้ท่าเรือใหม่ที่กำลังดำเนินการก่อสร้างค้างอยู่ขณะนี้ และท่าเรือเก่าด้วย กำหนดปิดในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2555 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาเรื่องการก่อสร้างท่าเรือใหม่ให้แล้วเสร็จต่อไป
นายปิยะ กล่าวอีกว่า ถึงแม้ว่าเมื่อประกาศปิดสะพานเทียบเรือเกาะเสม็ดอย่างเป็นทางการ ประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศต้องเดือดร้อนอย่างหนักก็ต้องยอมให้ประชาชนออกมาต่อต้าน และประณาม อบจ.ระยอง ถ้าไม่ตัดสินใจดำเนินการอย่างนี้ ประชาชนก็ไม่เข้าใจว่าปัญหาที่แท้จริงคืออะไร เพราะก่อนการก่อสร้างดำเนินการตามขั้นตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ดำเนินโครงการก่อสร้างสะพานท่าเทียบเรือเกาะเสม็ด โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดระยองเรียบร้อยหมดแล้วจึงได้ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา และกำหนดระยะเวลาเพื่อเปิดบริการได้อย่างปลอดภัย สะดวก มีมาตรฐาน
แต่ในเมื่ออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้สั่งระงับก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนความเดือดร้อนของชาวระยอง และนักท่องเที่ยวที่ตามมาก็ต้องเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหา ไม่ใช่ปล่อยให้ อบจ.ระยองแก้ไขอยู่เพียงผู้เดียว