สมาคมโบรกฯ อนุมัติเก็บต้นทุนพอร์ต “เดย์เทรด” ของสมาชิกเพื่อไม่เอาเปรียบลูกค้า และนักลงทุนประเภทอื่น พร้อมลดวงเงินเหลือ 50% หวังควบคุมการเทรดให้เหมาะสม คาดดีเดย์ 1 พ.ย.นี้ พร้อมยืนยันพอร์ตโบรกฯ ไม่ใช่แก๊ง 4 โมงเย็น แต่การทุบหุ้นช่วง 16.00 น. น่าจะเป็นด้านจิตวิทยามากกว่า พอเวลาขึ้นก็ซื้อตามกัน เวลาลงก็ขายตามกันไป
นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ไทย (บล.) หรือสมาคมโบรกเกอร์ เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการสมาคมฯ มีมติให้มีการคิดต้นทุนการซื้อขายของพอร์ตโบรกเกอร์ (Prop Trade) ในการซื้อขายระยะสั้น (Day Trade) ส่วนอัตราการคิดต้นทุนจะเป็นเท่าไรนั้น ให้โบรกเกอร์แต่ละแห่งพิจารณากันเอง โดยต้องไม่เอาเปรียบลูกค้า หรือนักลงทุนประเภทอื่น นอกจากนี้ ให้ปรับลดวงเงินการซื้อขายมาอยู่ที่ไม่เกิน 50% ของส่วนผู้ถือหุ้นจากก่อนหน้านี้ที่อยู่ 75% เพื่อควบคุมให้การซื้อขายมีความเหมาะสม
“จากนี้ไปเราคงมีการคิดต้นทุนในการซื้อขาย โดยต้นทุนดังกล่าวจะปรากฏอยู่ในงบดุลของโบรกเกอร์ เช่น สมมติว่า ก่อนหน้านี้ซื้อขายได้กำไร 10 บาท แต่ตอนนี้หากคิดว่าต้องมีต้นทุน 1 บาท ก็จะนำไปหักจากส่วนนั้น ซึ่งไม่มีความเหลื่อมล้ำกับนักลงทุนอื่นๆ แน่นอน เพราะมันก็คล้ายกับค่าคอมมิชชัน โดยทุกครั้งที่เราซื้อขายก็จะต้องมีต้นทุนในการซื้อขายเสมอ”
ส่วนเรื่องวงเงินที่เราปรับเหลือ 50% เพราะอยากให้มีปริมาณธุรกรรมที่เหมาะสม แม้ว่าพอร์ตโบรกเกอร์จะเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ตลาดได้ แต่บางครั้งก็มีผลต่อการขึ้นลงของตลาดได้เช่นกัน โดยเราเน้นย้ำถึงความโปร่งใสอยู่เสมอ ทุกธุรกรรมต้องมีการตรวจสอบได้
นอกจากนี้ เราให้ความสำคัญกับไชนีส วอลล์ ซึ่งมีการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อยู่แล้ว ดังนั้น จึงไม่มีการใช้ข้อมูลการซื้อขาย หรือออเดอร์ของนักลงทุนกลุ่มอื่นมาใช้ประโยชน์แน่นอน ทั้งนี้ คาดว่าจะเริ่มใช้เกณฑ์ดังกล่าวได้ในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยต้องให้แต่ละโบรกเกอร์ไปเตรียมตัวกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจากนี้ไปจนถึงวันที่เริ่มใช้จริง
ส่วนเรื่องกรณีที่มีกระแสข่าวสะพัดในโลกออนไลน์ ระบุว่า พอร์ตโบรกเกอร์เป็นแก๊ง 4 โมงเย็นนั้น กรณีดังกล่าว นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ฯ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากการซื้อขายในช่วงเวลาดังกล่าวมาจากนักลงทุนหลายกลุ่ม ไม่ได้มีการกระจุกตัวอยู่ที่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
“เรื่องแก๊ง 4 โมงเย็น ยืนยันว่าไม่ใช่ เหตุผลสำคัญที่มีการซื้อขายมากในช่วงหลัง 4 โมงนั้น น่าจะเป็นด้านจิตวิทยามากกว่า พอเวลาขึ้นก็ซื้อตามกัน เวลาลงก็ขายตามกันไป เพราะตลาดช่วงนี้ผันผวน” นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ฯ กล่าวสรุปทิ้งท้าย