อุดรธานี - จังหวัดอุดรธานีขึ้นป้ายเตือนโรคคอตีบระบาด ขณะที่นายแพทย์สาธารณสุขแนะวิธีป้องกันตนเองโดยไม่รับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นโดยไม่ใช้ช้อนกลาง และหลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้มีอาการไข้ ไอ เผยแถบภาคอีสานได้รับการแพร่เชื้อมาจากประเทศเพื่อนบ้าน พบผู้ป่วยในกลุ่มจังหวัดใกล้เคียงแล้ว 35 ราย
นายแพทย์สัญชัย ปิยะพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์โรคคอตีบในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะแถบภาคอีสานที่มีการติดเชื้อข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และพบผู้ป่วยในจังหวัดใกล้เคียงแล้วจำนวน 35 ราย จากการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสเชื้อ พบว่ามีผู้สัมผัสเชื้อจำนวนหนึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี และได้กลับมาเยี่ยมบ้านหลังการสัมผัสเชื้อจากผู้ป่วย ซึ่งขณะนี้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีและหน่วยบริการในพื้นที่อยู่ระหว่างติดตามเฝ้าระวังอาการกลุ่มผู้สัมผัสเชื้อเหล่านั้นอย่างใกล้ชิด
ประกอบกับมีประชากรจากจังหวัดเลยบางส่วนมาประกอบอาชีพค้าขายในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี เนื่องจากโรคคอตีบเป็นโรคติดต่อร้ายแรงและเกิดการระบาดได้ง่าย
ดังนั้น เพื่อความปลอดภัยจากโรคดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดอุดรธานีขอแนะนำให้ประชาชนยึดหลักพึงระวัง เลี่ยงคลุกคลี และรีบพบแพทย์ทันทีที่มีอาการต้องสงสัย โดยข้อที่พึงระวังคือ ต้องตระหนักรู้อันตรายของโรคคอตีบ และงดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ได้แก่ การดื่มน้ำในที่สาธารณะ ซึ่งใช้แก้วใบเดียวกัน บุตรหลานรับวัคซีนป้องกันโรคไม่ครบตามเกณฑ์ที่กำหนด การเข้าไปในพื้นที่ที่มีการระบาดโดยไม่ป้องกันตนเอง การรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่นโดยไม่ใช้ช้อนกลาง
ขณะที่การเลี่ยงคลุกคลีคือ หลีกเลี่ยงการคลุกคลีกับผู้มีอาการไข้ ไอ และมีฝ้าขาวในลำคอ ผู้ป่วยโรคคอตีบและผู้ที่กำลังรับการรักษาต้องแยกตัวอย่างน้อย 3 สัปดาห์ และเลี่ยงการไปในที่ชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น
ที่สำคัญ หากมีอาการไข้ เจ็บคอ ควรเข้ารับการตรวจที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน และหากแพทย์วินิจฉัยว่ามีอาการน่าสงสัยว่าเป็นโรคคอตีบต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการรักษาอย่างเคร่งครัด โดยรับประทานยาให้ตรงเวลา ต่อเนื่องจนครบกำหนด และมาพบแพทย์ตามนัดทุกครั้งเพื่อตรวจดูอาการของโรคอย่างใกล้ชิด
สำหรับโรคคอตีบติดต่อได้จากน้ำลาย ละอองเสมหะ การไอ จามรดกัน การดื่มน้ำจากแก้วเดียวกัน สิ่งสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อคอตีบคือ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ กลืนลำบาก เด็กจะต้องได้รับวัคซีนให้ครบตามกำหนด