ป.ป.ช.ย้ำภาคเอกชนอีสานเดินหน้าต้านคอร์รัปชัน

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ป.ป.ช.ผนึกหอการค้าไทยมอบรางวัล “บรรษัทภิบาลดีเด่น” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ให้ 3 บริษัทชั้นนำในภาคอีสาน ฟินิคซ พัลพฯ, โรงพยาบาลเอกอุดร และอุดรกระจกรถยนต์ ยึดหลักโปร่งใสและซื่อสัตย์สุจริต ชูเป็นแบบอย่างที่ดียึดหลักธรรมาภิบาลบริหารธุรกิจ กระตุ้นให้สถานประกอบการอื่นปรับใช้ แนะทุกภาคส่วนร่วมขับเคลื่อนต้านการคอร์รัปชันจากสังคมไทย

วันนี้ (10 ต.ค.) หอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยการสนับสนุนจากสำนักงาน ป.ป.ช. จัดพิธีมอบรางวัล “บรรษัทภิบาลดีเด่น 5 ภูมิภาค” ในส่วนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยมีปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. มอบรางวัลแก่บริษัทที่ได้รับคัดเลือก ณ ห้องประชุม พล.ต.อ.เภา สารสิน อาคารสุนทร-อารยา อรุณานนท์ชัย วิทยาลัยบัณฑิตศึกษาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

สำหรับสถานประกอบการที่ได้รับรางวัลบรรษัทภิบาลดีเด่นประจำปี 2555 ในส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 3 บริษัท ประกอบด้วย บริษัท ฟินิคซ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประกอบการผลิตและส่งออกเยื่อกระดาษ ตั้งสถานประกอบการที่จังหวัดขอนแก่น บริษัท อุดรกระจกรถยนต์ จำกัด จำหน่ายและติดตั้งกระจกรถยนต์ที่ จ.อุดรธานี และโรงพยาบาลเอกอุดร ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนขนาดใหญ่ในพื้นที่ จ.อุดรธานี

นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ ประธานกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวว่า การมอบรางวัล “บรรษัทภิบาลดีเด่น 5 ภูมิภาค” ครั้งนี้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 วัตถุประสงค์การมอบรางวัลเพื่อเชิดชู ยกย่องผู้ประกอบการที่มีแนวทางบริหารจัดการธุรกิจด้วยหลักบรรษัทภิบาล (Corporate Governance) เน้นความโปร่งใสและความซื่อสัตย์สุจริต ตามโครงการประกาศเกียรติคุณจรรยาบรรณหอการค้าไทย

หอการค้าไทยได้มอบหมายให้คณะกรรมการจรรยาบรรณหอการค้าไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และหอการค้าจังหวัดที่เกี่ยวข้องในฐานะกรรมการจรรยาบรรณหอการค้าไทย เป็นหน่วยงานหลักกำหนดหลักเกณฑ์ คุณสมบัติ ตลอดจนพิจารณาคัดเลือกผู้ได้รับรางวัลบรรษัทภิบาลดีเด่นในระดับภูมิภาค ให้เป็นไปด้วยความยุติธรรมและเหมาะสมกับรางวัลอันทรงคุณค่านี้

นายปานเทพกล่าวต่อว่า ปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันเป็นปัญหาสำคัญที่สร้างความเสียหายรุนแรงต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ การพัฒนาสังคม และเสถียรภาพการเมืองของประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง และยิ่งการพัฒนาประเทศเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หลักบรรษัทภิบาลมีความสำคัญ หากเราไม่โปร่งใสคงไม่สามารถแข่งขันกับประเทศอื่นได้

ดังนั้น ทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันในการป้องกันและต่อต้านการทุจริต คอร์รัปชัน แม้จะไม่สามารถทำให้การทุจริตคอร์รัปชันหมดไปจากสังคมไทย แต่ก็ทำให้บรรเทาเบาบางลง โดยภาคเอกชนจะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อน นำหลักธรรมาภิบาลมาใช้บริหาร ซึ่งการมอบรางวัลบรรษัทธรรมาภิบาลจะเป็นแบบอย่างที่ดี กระตุ้นให้บริษัทอื่นเห็นความสำคัญของบรรษัทภิบาล ตระหนักถึงความรับผิดชอบสังคม นำหลักธรรมาภิบาลไปปรับใช้

ป.ป.ช.มีนโยบายให้ความสำคัญต่องานด้านการป้องกันการทุจริตไม่ยิ่งหย่อนกว่างานด้านการปราบปรามทุจริต โดยการมอบรางวัลครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานด้านการป้องกันการทุจริต ซึ่งหากการดำเนินงานป้องกันการทุจริตเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพแล้ว เชื่อมั่นได้ว่างานด้านการปราบปรามทุจริตจะลดน้อยลง ส่งผลให้บรรลุเป้าหมายแก้ปัญหาทุจริตได้อย่างแท้จริง