ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - นศ.-ผู้ปกครอง และศิษย์เก่า “ทัศนศิลป์” ม.ราชภัฏโคราช ลุกฮือต้าน “อาจารย์” ลามกฉาวโฉ่ ยังด้านขอกลับมาสอน ชี้ขาดจริยธรรมความเป็นครู และมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่โปร่งใสอื้อ พร้อมบุกร้องอธิการบดีฯ ยกเลิกคำสั่งบรรจุตารางสอน และแจงผลสอบปี’ 47 ทำไมยังปล่อยลอยนวล จี้เอาผิดเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างภายใน 3 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อาคารเรียนโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กลุ่มตัวแทนผู้ปกครองนักศึกษา นำโดย นายพนมมาศ ยอมเยาว์ นายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ พร้อมด้วยศิษย์เก่า และนักศึกษาโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รวมกว่า 60 คน ได้ร่วมกันหารือ และเปิดแถลงข่าวคัดค้านกรณีการขอกลับมาสอนประจำที่โปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ ของ อ.บุญกอง อินตา เนื่องจากขาดจริยธรรมความเป็นครู โดยมี ผศ.ดร.สามารถ จับโจร ประธานโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ และคณาอาจารย์ผู้สอนในโปรแกรมวิชานี้ร่วมสังเกตการณ์ และรับฟังปัญหา
ที่ประชุมได้หยิบยกเหตุการณ์ฉาวโฉ่ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2547 กรณี นายบุญกอง อินตา ถ่ายภาพโชว์ลีลาการสำเร็จความใคร่ตัวเองเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ทางราชการ และถูกเผยแพร่ไปทั่วมหาวิทยาลัย ตกเป็นข่าวใหญ่อื้อฉาวครึกโครมไปทั่วประเทศ จนกลุ่มนักศึกษาออกมาชุมนุมประท้วงขับไล่ กระทั่งอธิการบดีฯ ได้ตั้งกรรมการสอบ พร้อมสั่งปลดออกจากตำแหน่งประธานโปรแกรมวิชาศิลปกรรมขณะนั้น และชี้ว่ามีโทษถึงขั้นให้ออก
ขณะที่ นายบุญกอง เองยอมรับว่า เป็นภาพของตัวเองจริง และทำการตัดต่อเองตั้งแต่สมัยเรียนอยู่มหาวิทยาลัยศิลปากรก่อนรูปดังกล่าวได้หายไป พร้อมอ้างว่าถูกผู้ไม่หวังดีกลั่นแกล้งนำภาพไปเผยแพร่ จากนั้นเรื่องได้เงียบหายไปท่ามกลางความกังขาของเหล่านักศึกษา และคณาจารย์ถึงความไม่ชัดเจนในเรื่องของการลงโทษเอาผิดอาจารย์คนดังกล่าว
นอกจากนี้ นายบุญกองยังถูกกลุ่มคณาจารย์โปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ร้องเรียนถึงเรื่องพฤติกรรมก้าวร้าว ชอบแทรกแซงการเรียนการสอนในรายวิชาอื่น และมีเหตุขัดแย้งกับอาจารย์หลายคน รวมทั้งมีปัญหาถูกกล่าวหาปลอมแปลงเอกสารเบิกจ่ายวัสดุฝึกงานนักศึกษาไปใช้ส่วนตัว จนถูกตั้งกรรมการสอบ และสั่งให้นำเงินที่ยักยอกไปส่งคืนมหาวิทยาลัยมาแล้ว
นายพนมมาศ ยอมเยาว์ ตัวแทนผู้ปกครองนักศึกษาโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ เปิดเผยว่า หลังเวลาผ่านไป 8 ปี ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการลงโทษเอาผิด แต่ล่าสุด ได้รับทราบข้อมูลจากโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ว่าเมื่อเร็วๆ นี้ ทางคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้มีบันทึกข้อความมายังประธานโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ ให้จัดตารางการสอนรายวิชาให้แก่ นายบุญกอง อินตา ได้สอนที่โปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 นี้ นั่นหมายถึงเป็นการกลับเข้ามาสอนประจำยังโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์อีกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเราไม่เห็นด้วยประการทั้งปวง เนื่องจากบุคคลนี้ไม่เหมาะสมที่จะเป็นอาจารย์แล้ว
เรื่องนี้อยากถามถึงท่านอธิการบดี และผู้บริหารมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ว่า กำลังทำอะไรอยู่ ทำไมปล่อยให้ยืดเยื้อลอยนวลมาจนถึงวันนี้ โดยไม่ดำเนินการอะไรที่ชัดเจนเลย แถมยังให้ความดีความชอบมาโดยตลอด ถือว่าเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาดำเนินการตามระเบียบราชการโดยเด็ดขาด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไป
“หลักการใหญ่ คือ ผู้ที่เป็นครูบาอาจารย์ต้องมีพฤติกรรมที่เหมาะสม แต่ทราบจากข่าวเมื่อปี 2547 ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และขณะนี้ พวกเรามีลูกสาวเรียนอยู่ในคณะนี้ จะยอมรับ และไว้วางใจให้กลับเข้ามาสอนลูกเราได้อย่างไร ท่านอธิการบดี และผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ควรเอาความจริงมาเปิดเผยว่าที่ผ่านมา ได้ตั้งคณะกรรมการสอบเอาผิดลงโทษแค่ตัดเงินเดือนๆ ละ 200 บาท นั้นเหมาะสมถูกต้องแล้วหรือยัง ที่สำคัญ อาจารย์ท่านนี้ควรพิจารณาเอง และเปิดโอกาสให้บุคลากรท่านอื่นได้เข้ามาพัฒนาการเรียนการสอนดีกว่าให้โอกาสอาจารย์ที่ล้มเหลวทางจริยธรรม” นายพนมมาศกล่าว
ด้าน นายทนงศักดิ์ หาญวงษ์ ตัวแทนผู้ปกครองนักศึกษาโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ อีกคนกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นปัญหาที่เกิดกับคณาจารย์ และนักศึกษา รวมทั้งศิษย์เก่าของโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์มาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอธิการบดีก็รับทราบดี หากยังดึงดันผลักดันให้ นายบุญกอง อินตา เข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนของโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์อีก ตนเชื่อว่าจะกลายเป็นปมด้อยของนายบุญกอง เองที่ไม่อาจสู้หน้ากับคณาจารย์ และนักศึกษาทุกคนได้
สุดท้าย คนที่จะได้รับผลกรรมมากที่สุดคือ นายบุญกอง ซึ่งจะมีสภาพไม่ต่างจากตายทั้งเป็น ทั้งที่ความจริงแล้วหากทางมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เห็นว่าสามารถทำคุณประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยได้ ทางออกที่ดีที่สุดคือ ควรให้ไปสังกัดหน่วยงานอื่นที่ตรงกับความรู้ความสามารถ เพื่อหลีกเลี่ยงการต่อต้านจากนักศึกษาทั้งศิษย์เก่า และนักศึกษาปัจจุบัน รวมถึงคณาจารย์ในโปรแกรมวิชา และนำมาซึ่งปัญหาความขัดแย้งอย่างไม่รู้จักจบสิ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมของกลุ่มตัวแทนผู้ปกครองศิษย์เก่า และนักศึกษาวิชาโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ มีมติร่วมกันในการทำหนังสือข้อเรียกร้องถึงอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เพื่อแจ้งความประสงค์ของนักศึกษาผู้ปกครอง และศิษย์เก่า โปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ว่า ไม่ต้อนรับ นายบุญกอง อินตา เข้ามาเป็นอาจารย์สอนในโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ และขอให้ดำเนินการเอาผิดทางวินัย และจรรยาบรรณของครูผู้สอนแก่นายบุญกอง อินตา โดยเร่งด่วนภายในระยะเวลา 3 วัน โดยมีข้อเรียกร้องต่ออธิการบดีดังต่อไปนี้
1.ยกเลิกคำสั่งลงนามโดยคณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ตามบันทึกข้อความ ถึง ประธานโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2555
2.ขอให้เปิดเผยรายละเอียดผลสอบย้อนหลังความผิดของ นายบุญกอง อินตา และรายชื่อกรรมการสอบ และผลของบทลงโทษต่างๆ โดยขอทราบผลดำเนินการทั้งหมดใน 3 วัน
จากนั้น กลุ่มตัวแทนผู้ปกครอง ศิษย์เก่า และนักศึกษา รวมทั้งคณาจารย์วิชาโปรแกรมวิชาทัศนศิลป์ ได้ร่วมกันเคลื่อนขบวนพร้อมชูป้ายประท้วงข้อความต่างๆ เข้ายื่นหนังสือข้อเรียกร้องดังกล่าวต่ออธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ซึ่ง มี ผศ.คมกฤช ตรีสินธุรส รองอธิการบดี ฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นตัวแทนรับหนังสือ
ทางด้าน ผศ.คมกฤช ตรีสินธุรส รองอธิการบดี ฝ่ายบริหาร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา กล่าวภายหลังรับหนังสือร้องเรียน ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องเก่านานมาแล้วได้มีการลงโทษไปแล้ว การที่นักศึกษา และตัวแทนผู้ปกครองเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ ต้องขอเวลาหาข้อมูลประกอบเพื่อเรียนให้ท่านอธิการบดีทราบก่อน อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรมควรจะรับฟังข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายทั้งผู้ร้องและผู้ถูกร้อง เพื่อดำเนินการหาทางออกที่ดีที่สุด