xs
xsm
sm
md
lg

พบนายหน้าอ้าง “อ.ต.ร.” เร่ขายบัตร “World Citizen”-เก็บหัวละ 8,000-10,000 บาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตัวอย่างบัตร “World Citizen Inherent Dignity” ที่มีการชักชวนกลุ่มชาวเขา - กลุ่มชาติพันธุ์ หลายจังหวัดในภาคเหนือตอนบนเข้าเป็นสมาชิก โดยบางรายถูกเรียกเก็บเงินสูงถึง 8,000-10,000 บาท
ศูนย์ข่าวเชียงใหม่/เชียงราย - นายหน้าอ้างชื่อ “อ.ต.ร.” เร่ขายบัตร “World Citizen Inherent Dignity” ชาวเขา-กลุ่มชาติพันธุ์ โผล่หลายจังหวัดภาคเหนือตอนบน เรียกเก็บหัวละ 8,000-10,000 บาท แลกใช้สิทธิความเป็นพลเมือง-สิทธิทางการเมือง ตามข้อตกลงสหประชาชาติ-รธน.ไทยปี 50 มาตรา 26 คุ้มครอง

รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า ขณะนี้หน่วยงานด้านความมั่นคงชายแดนได้ตรวจพบข้อมูลเรื่องกลุ่มบุคคลที่ออกเชิญชวนประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชายแดนไทย-พม่า และไทย-สปป.ลาวด้าน จ.เชียงราย และตามพื้นที่ภูเขาสูง ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ ให้ทำบัตรรูปแบบใหม่ ระบุว่า “บัตรประจำตัวการคุ้มครองสิทธิ” และเขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “World Citizen Inherent Dignity” ออกโดยองค์การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐภาคประชาชนหรือ อ.ต.ร.

พฤติกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อราวเดือน พ.ค.2555 ที่ผ่านมา เมื่อหน่วยงานชายแดนคือร้อย ตชด.327 อ.แม่จัน สืบทราบมีผู้ชักชวนให้ประชาชนพื้นที่ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ให้ไปทำบัตรดังกล่าว

บัตรนี้มีการระบุข้อความอ้างถึงรัฐธรรมนูญปี 2550 มาตรา 26 โดยมีลายมือชื่อหรือลายเซ็นของบุคคลระดับ ดร.คนหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) รับรอง และมีข้อความต่างๆ รวมทั้งเหลือช่องใส่ชื่อสำหรับผู้ที่ต้องการได้รับบัตรดังกล่าว

สำหรับด้านหน้าบัตรนอกจากระบุหัวบัตรดังกล่าวแล้วส่วนใหญ่ยังระบุเป็นภาษาอังกฤษมีเนื้อหาว่า เป็นพลเรือนที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ระบุชื่อ วันเดือนปีเกิด วันออกบัตร ลายมือชื่อ หรือประทับลายนิ้วมือ ส่วนหลังบัตรระบุเป็นภาษาไทยว่า เป็นบัตรจาก อ.ต.ร.มีรูปธงไตรรงค์หรือธงชาติไทย และพานรัฐธรรมนูญ รวมทั้งระบุที่อยู่ของสำนักงานที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมหมายเลขโทรศัพท์ และเว็บไซต์

รายงานข่าวแจ้งอีกว่าที่สำคัญทางเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ที่ต้องการจะทำบัตรดังกล่าวจะต้องเสียค่าใช้จ่ายให้ผู้ชักชวนคนละ 8,000-10,000 บาท รวมทั้งมีการโฆษณาคุณสมบัติของบัตรเกินจริง เช่น เมื่อมีบัตรจะสามารถเดินทางไปได้ทั่วกลุ่มอาเซียนโดยอ้างการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีในปี 2558 ฯลฯ ทำให้มีกลุ่มชาติพันธุ์ และชาวต่างด้าวหลงเชื่อพากันถ่ายภาพทำบัตรกับกลุ่มคนที่ไปชักชวนกว่า 120 รายแล้ว โดยพวกเขาต้องเสียเงินให้ผู้ชักชวนตามจำนวนดังกล่าวด้วย อย่างไรก็ตามจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการดำเนินคดีต่อบุคคลใด

“ASTVผู้จัดการ” ได้สอบถามไปยังนายสมชาย เขื่อนแก้ว ผู้อำนวยการ อ.ต.ร. (สำนักงานใหญ่)เชียงใหม่ ได้รับการชี้แจงว่า อ.ต.ร.สำนักงานฯ เชียงใหม่ที่ตั้งขึ้นเมื่อ 1 มี.ค. 55 เป็นผู้ออกบัตร “World Citizen Inherent Dignity” ให้แก่ผู้ที่สนใจเป็นสมาชิกจริง โดยใช้สิทธิตามกติการะหว่างประเทศ (ICCR) ว่าด้วยสิทธิพลเมือง และสิทธิทางการเมือง ซึ่งรับรองสิทธิโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยปี 2550

เขาย้ำว่า โดยหลักการแล้ว ผู้ที่ต้องการเป็นสมาชิก-ถือบัตรจะบริจาคให้องค์กรเท่าใดก็ได้แล้วแต่จิตศรัทธา ไม่มีการระบุว่าจะต้องจ่ายเท่าใด เพียงแต่อาจจะมีผู้ที่แอบอ้าง-ออกบัตรปลอม แสวงหาผลประโยชน์เข้าตัวเองเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาทางสำนักงานฯ ก็ได้เข้าแจ้งความไว้แล้วที่ สภ.แม่ปิง อ.เมืองเชียงใหม่ และ สภ.นาหวาย อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

นายสมชายยืนยันว่า ผู้ที่ถือบัตรนี้จะมีสิทธิตามรัฐธรรมนูญไทยทุกประการ แต่ถ้าเป็นบุคคลต่างด้าวจะได้รับสิทธิตามรัฐธรรมนูญไทยบางมาตราเท่านั้น

ทั้งนี้ เมื่อเดือนมิถุนายน 55 ที่ผ่านมา ผู้บริหารองค์การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ (อ.ต.ร.) สำนักงานใหญ่ เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจของอำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน กรณีถูกกล่าวถึง-อ้างถึงองค์การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและระบุชื่อนายฐิติ ปานจันทร์ กับนายสมชาย เขื่อนแก้ว ผู้อำนวยการฯ ในเชิงลบ กลางที่ประชุม ณ หอประชุม อ.ปาย เมื่อ 5 มิ.ย. 55

โดยมีรายละเอียดปรากฏตามเอกสารบันทึกระเบียบวาระการประชุมลง 5 มิ.ย. 55 ว่า กลุ่มบุคคล/องค์การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ (ภาคประชาชน) โดยนายฐิติ ปานจันทร์ และนายสมชาย เขื่อนแก้ว มีพฤติกรรมชักชวนให้ราษฎรหลงเชื่อ สมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่มองค์กรเพื่อจะได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย และแจ้งในที่ประชุมว่า ให้เฝ้าระวังติดตามดูกลุ่มบุคคลและองค์การฯ นี้ หากพบให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

การกระทำการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐได้พูดในที่ประชุมและบันทึกในระเบียบวาระการประชุม พิมพ์เป็นเอกสารออกแจกจ่ายหัวหน้าส่วนราชการและกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนกระจายข่าวให้แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวบ้านทั่วอำเภอปาย และพื้นที่ใกล้เคียง เป็นการสร้างความเสียหายแก่องค์การฯ และบุคลากรเจ้าหน้าที่ผู้ออกไปปฏิบัติหน้าที่

ที่ผ่านมาองค์การฯ และเจ้าหน้าที่ผู้ออกปฏิบัติงานได้ยื่นหนังสือแจ้งให้นายอำเภอปาย ผู้กำกับการปาย นายอำเภอปางมะผ้า และผู้กำกับการปางมะผ้า และยังได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ขณะเข้าไปในพื้นที่ก่อนออกปฏิบัติงานทุกครั้งไป ได้ออกทำงานอย่างเปิดเผย ด้วยความสุจริต มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ที่รัฐธรรมนูญให้ไว้แก่ประชาชน มิได้หลบซ่อนหรือกระทำการอื่นใดที่ผิดๆ ดังเช่นเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวอ้างแต่อย่างใด


กำลังโหลดความคิดเห็น