ศูนย์ข่าวขอนแก่น - อีสานโพล มข.เผยผลสำรวจ “ทัศนคติของชาวอีสานต่อค่านิยมการมีผิวขาว” พบคนอีสานไม่อยากมีผิวคล้ำ ขณะที่วัยรุ่นเห็นว่าการมีผิวขาวเป็นเรื่องสำคัญ และดารา ศิลปินทั้งของไทยและต่างชาติล้วนมีอิทธิพลต่อค่านิยมผิวขาว โดยที่ฝ่ายหญิงให้ความสำคัญต่อการมีผิวขาวมากกว่าฝ่ายชาย
ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อค่านิยมการมีผิวขาว ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 30-31 กันยายน 2555 จากกลุ่มตัวอย่าง 810 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด พบว่าในเรื่องความสำคัญของการมีผิวขาว กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่ามีความสำคัญน้อยถึงร้อยละ 38.3 ไม่สำคัญเลยร้อยละ 35.6 โดยมีผู้เห็นว่า การมีผิวขาวมีความสำคัญร้อยละ 20.4 และสำคัญเป็นอย่างมากเพียงร้อยละ 5.7
อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองกลุ่ม จะพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น (อายุไม่เกิน 25 ปี) นั้น ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 44.1 เห็นว่าการมีผิวขาวค่อนข้างมีความสำคัญ และกว่าร้อยละ 11.8 เห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อแยกตามเพศ พบว่ากลุ่มตัวอย่างเพศหญิง
ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 37.6 เห็นว่าการมีผิวขาวค่อนข้างมีความสำคัญ และอีกร้อยละ 12.9 เห็นว่ามีความสำคัญมาก ในขณะที่เพศชายส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 42.4 เห็นว่าการมีผิวขาวมีความสำคัญน้อย และอีกกว่าร้อยละ 35.6 เห็นว่าไม่สำคัญเลย
เมื่อถามต่อว่า หากเลือกได้ต้องการให้ผิวของตนเองมีสีเช่นใด พบว่ามีเพียงร้อยละ 1.2 ของกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการมีผิวสีเข้มหรือคล้ำแบบคนใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างชาวอีสานส่วนใหญ่ตอบว่าต้องการมีผิวขาวแบบคนไทยทั่วไป ร้อยละ 68.8 รองลงมาต้องการมีผิวขาวแบบคนภาคเหนือ ร้อยละ 15.4 ตามมาด้วยผิวสีน้ำผึ้ง ร้อยละ 7.5 และ ขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ร้อยละ 7.0
จากคำถามดังกล่าว เมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างตามอายุ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นวัยรุ่น (อายุไม่เกิน 25 ปี) ส่วนใหญ่ต้องการมีผิวขาวแบบคนไทยทั่วไป ร้อยละ 52.9 โดยอันดับรองลงมาคือ ต้องการให้ตนเองมีผิวขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่นสูงถึงร้อยละ 23.5 (เทียบกับโดยรวมตอบเพียงร้อยละ 7.0) และต้องการขาวแบบคนเหนือร้อยละ 20.6 (โดยรวมตอบร้อยละ 15.4) และเมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างตามเพศ พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ทั้งชายและหญิง (เพศชายร้อยละ 71.2 และเพศหญิงร้อยละ 61.4) ต้องการมีผิวแบบคนไทยทั่วไป (ขาวเหลือง)
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นเพศหญิงต้องการมีผิวขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ร้อยละ 10.9 ในขณะที่เพศชายต้องการมีผิวขาวแบบเดียวกันเพียงร้อยละ 6.8 และกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงต้องการมีผิวขาวแบบคนเหนือร้อยละ 22.8 ในขณะที่เพศชายต้องการมีผิวขาวแบบคนเหนือร้อยละ 16.9
อีสานโพลได้สอบถามต่อว่า หากสามารถเลือกได้ กลุ่มตัวอย่างต้องการมีเนื้อคู่ที่มีผิวสีใด ร้อยละ 68.7 ต้องการให้เนื้อคู่ของตนมีผิวขาวแบบคนไทยทั่วไป รองลงมาร้อยละ 12.1 ขาวแบบคนเหนือ ตามมาด้วยร้อยละ 9.8 ขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ร้อยละ 8 ผิวสีน้ำผึ้ง และร้อยละ 1.8 ผิวสีเข้มแบบคนใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างที่เป็นหญิงและชายมีความเห็นใกล้เคียงกัน
เมื่อสอบถามถึงทัศนคติของชาวอีสานว่า นอกจากบุคลิก หน้าตา และความสามารถแล้ว การมีผิวขาวมีส่วนช่วยดารา นักร้อง และนักแสดงได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 43.7 เห็นว่ามีส่วนพอสมควร รองลงมาร้อยละ 30.6 เห็นว่ามีส่วนอย่างมาก ตามมาด้วยร้อยละ 19.8 เห็นว่ามีส่วนเพียงเล็กน้อย และร้อยละ 5.9 เห็นว่าไม่มีส่วนเลย และเมื่อถามต่อว่าสิ่งใดที่มีส่วนมากที่สุดต่อค่านิยมการมีผิวขาวของคนไทย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 43.3 เห็นว่ามาจากการที่ดารา นักร้อง และนักแสดงไทยมักมีผิวขาวสวย
รองลงมาเห็นว่ามาจากความนิยมในศิลปินต่างชาติ เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น ร้อยละ 23.0 ซึ่งสอดคล้องกับคำถามก่อนหน้าที่แสดงว่าบุคคลในวงการบันเทิงที่มักมีผิวขาวสวยนั้นส่งผลต่อค่านิยมผิวขาวของคนไทย
นอกจากนี้ยังมีผู้ตอบว่า ค่านิยมนี้มาจากอิทธิพลของโฆษณาของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ไวเทนนิ่ง เครื่องดื่มผสมกลูตา และโรลออนวงแขนขาว ร้อยละ 15.9 มาจากความเชื่อที่ว่าการมีผิวขาวแสดงถึงฐานะและชาติตระกูลดี ร้อยละ 9.6 และมาจากความเชื่อที่ว่าการมีผิวขาวแสดงถึงการมีสุขภาพดี ร้อยละ 8.4
เมื่อถามถึงพฤติกรรมการดูแลผิวพรรณของกลุ่มตัวอย่างชาวอีสาน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.2 ดูแลโดยการทาครีมบำรุง เช่น ครีมกันแดดและไวเทนนิ่ง รองลงมาร้อยละ 35.3 จะรับประทานอาหารที่มีสารบำรุงผิวพรรณ เช่น ผัก ผลไม้ อันดับสาม ร้อยละ 24.2 ตอบว่าไม่ได้ดูแลผิวพรรณเลย
นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างชาวอีสานดูแลผิวโดยรับประทานอาหารเสริม เช่น วิตามิน คอลลาเจน กลูตาไธโอน เพียงร้อยละ 5.6 ตามมาด้วยการใช้บริการสถานเสริมความงามหรือสปาร้อยละ 2.8 และฉีดสารทางการแพทย์ เช่น กลูตาไธโอนและคอลลาเจนเพียงร้อยละ 0.4 เท่านั้น ซึ่งเมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างตามอายุแล้ว พบว่าคำตอบเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้ใหญ่
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างชาวอีสานส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 61.9 มีความเห็นต่อวิธีการปรับสีผิวให้ขาว โดยการฉีดสารเพิ่มความขาวเข้าสู่ผิวว่ามีอันตราย เพราะอาจมีสารตกค้างในร่างกาย หรือก่อให้เกิดการแพ้ได้ รองลงมาร้อยละ 16.6 ตอบว่าไม่แน่ใจ ตามมาด้วยร้อยละ 14.3 เห็นว่ามีอันตราย เพราะผู้ที่ทำให้มักไม่ใช่แพทย์ โดยมีผู้เห็นว่าไม่อันตรายเพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลเพียงร้อยละ 5.4 และไม่อันตรายเพราะใช้สารที่ปลอดภัย และนิยมทำกันแพร่หลายร้อยละ 1.7
ดร.สุทินระบุว่า จากผลการสำรวจข้างต้นทำให้พบว่ากลุ่มตัวอย่างชาวอีสานส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องความขาวของสีผิวมากนัก แต่ก็ไม่ต้องการมีผิวสีเข้มหรือคล้ำ สำหรับกลุ่มที่เป็นวัยรุ่นกลับพบว่าการมีผิวขาวมีความสำคัญ โดยเกือบ 1 ใน 4 ของกลุ่มนี้ต้องการมีผิวขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงยังเห็นว่าการมีผิวขาวค่อนข้างมีความสำคัญ ในขณะที่เพศชายไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เท่าใดนัก และนอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างยังเชื่อว่าการมีค่านิยมผิวขาวมีอิทธิพลมาจากดาราและศิลปินทั้งของไทยและต่างชาติที่มักมีผิวขาวสวย
รวมถึงอิทธิพลของโฆษณาของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ไวเทนนิ่ง เครื่องดื่มผสมกลูตา และโรลออนวงแขนขาว อย่างไรก็ดี แม้ผลการสำรวจจะพบว่ามีวัยรุ่นชาวอีสานเพียงจำนวนน้อยที่ดูแลผิวพรรณโดยพึ่งวิธีการเปลี่ยนสีผิวด้วยการฉีดสาร หรือไปใช้สถานเสริมความงาม แต่ก็ยังต้องระมัดระวัง เนื่องจากกลุ่มนี้ยังขาดวิจารณญาณในการรับสื่อ จึงให้ความสำคัญต่อการมีผิวขาว โดยต้องการขาวอย่างดารา และอาจหันไปพึ่งวิธีที่อาจเป็นอันตรายตามที่เป็นข่าว
ดร.สุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการอีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน (ECBER) คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยถึงผลสำรวจความคิดเห็นของคนอีสานต่อค่านิยมการมีผิวขาว ซึ่งทำการสำรวจระหว่างวันที่ 30-31 กันยายน 2555 จากกลุ่มตัวอย่าง 810 ราย ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน 20 จังหวัด พบว่าในเรื่องความสำคัญของการมีผิวขาว กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เห็นว่ามีความสำคัญน้อยถึงร้อยละ 38.3 ไม่สำคัญเลยร้อยละ 35.6 โดยมีผู้เห็นว่า การมีผิวขาวมีความสำคัญร้อยละ 20.4 และสำคัญเป็นอย่างมากเพียงร้อยละ 5.7
อย่างไรก็ตาม เมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสองกลุ่ม จะพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นกลุ่มวัยรุ่น (อายุไม่เกิน 25 ปี) นั้น ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 44.1 เห็นว่าการมีผิวขาวค่อนข้างมีความสำคัญ และกว่าร้อยละ 11.8 เห็นว่ามีความสำคัญอย่างมาก นอกจากนี้เมื่อแยกตามเพศ พบว่ากลุ่มตัวอย่างเพศหญิง
ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 37.6 เห็นว่าการมีผิวขาวค่อนข้างมีความสำคัญ และอีกร้อยละ 12.9 เห็นว่ามีความสำคัญมาก ในขณะที่เพศชายส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 42.4 เห็นว่าการมีผิวขาวมีความสำคัญน้อย และอีกกว่าร้อยละ 35.6 เห็นว่าไม่สำคัญเลย
เมื่อถามต่อว่า หากเลือกได้ต้องการให้ผิวของตนเองมีสีเช่นใด พบว่ามีเพียงร้อยละ 1.2 ของกลุ่มตัวอย่างที่ต้องการมีผิวสีเข้มหรือคล้ำแบบคนใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างชาวอีสานส่วนใหญ่ตอบว่าต้องการมีผิวขาวแบบคนไทยทั่วไป ร้อยละ 68.8 รองลงมาต้องการมีผิวขาวแบบคนภาคเหนือ ร้อยละ 15.4 ตามมาด้วยผิวสีน้ำผึ้ง ร้อยละ 7.5 และ ขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ร้อยละ 7.0
จากคำถามดังกล่าว เมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างตามอายุ พบว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นวัยรุ่น (อายุไม่เกิน 25 ปี) ส่วนใหญ่ต้องการมีผิวขาวแบบคนไทยทั่วไป ร้อยละ 52.9 โดยอันดับรองลงมาคือ ต้องการให้ตนเองมีผิวขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่นสูงถึงร้อยละ 23.5 (เทียบกับโดยรวมตอบเพียงร้อยละ 7.0) และต้องการขาวแบบคนเหนือร้อยละ 20.6 (โดยรวมตอบร้อยละ 15.4) และเมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างตามเพศ พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ทั้งชายและหญิง (เพศชายร้อยละ 71.2 และเพศหญิงร้อยละ 61.4) ต้องการมีผิวแบบคนไทยทั่วไป (ขาวเหลือง)
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นเพศหญิงต้องการมีผิวขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ร้อยละ 10.9 ในขณะที่เพศชายต้องการมีผิวขาวแบบเดียวกันเพียงร้อยละ 6.8 และกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงต้องการมีผิวขาวแบบคนเหนือร้อยละ 22.8 ในขณะที่เพศชายต้องการมีผิวขาวแบบคนเหนือร้อยละ 16.9
อีสานโพลได้สอบถามต่อว่า หากสามารถเลือกได้ กลุ่มตัวอย่างต้องการมีเนื้อคู่ที่มีผิวสีใด ร้อยละ 68.7 ต้องการให้เนื้อคู่ของตนมีผิวขาวแบบคนไทยทั่วไป รองลงมาร้อยละ 12.1 ขาวแบบคนเหนือ ตามมาด้วยร้อยละ 9.8 ขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ร้อยละ 8 ผิวสีน้ำผึ้ง และร้อยละ 1.8 ผิวสีเข้มแบบคนใต้ โดยกลุ่มตัวอย่างที่เป็นหญิงและชายมีความเห็นใกล้เคียงกัน
เมื่อสอบถามถึงทัศนคติของชาวอีสานว่า นอกจากบุคลิก หน้าตา และความสามารถแล้ว การมีผิวขาวมีส่วนช่วยดารา นักร้อง และนักแสดงได้รับความนิยมมากขึ้นหรือไม่ โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 43.7 เห็นว่ามีส่วนพอสมควร รองลงมาร้อยละ 30.6 เห็นว่ามีส่วนอย่างมาก ตามมาด้วยร้อยละ 19.8 เห็นว่ามีส่วนเพียงเล็กน้อย และร้อยละ 5.9 เห็นว่าไม่มีส่วนเลย และเมื่อถามต่อว่าสิ่งใดที่มีส่วนมากที่สุดต่อค่านิยมการมีผิวขาวของคนไทย กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ร้อยละ 43.3 เห็นว่ามาจากการที่ดารา นักร้อง และนักแสดงไทยมักมีผิวขาวสวย
รองลงมาเห็นว่ามาจากความนิยมในศิลปินต่างชาติ เช่น เกาหลี และญี่ปุ่น ร้อยละ 23.0 ซึ่งสอดคล้องกับคำถามก่อนหน้าที่แสดงว่าบุคคลในวงการบันเทิงที่มักมีผิวขาวสวยนั้นส่งผลต่อค่านิยมผิวขาวของคนไทย
นอกจากนี้ยังมีผู้ตอบว่า ค่านิยมนี้มาจากอิทธิพลของโฆษณาของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ไวเทนนิ่ง เครื่องดื่มผสมกลูตา และโรลออนวงแขนขาว ร้อยละ 15.9 มาจากความเชื่อที่ว่าการมีผิวขาวแสดงถึงฐานะและชาติตระกูลดี ร้อยละ 9.6 และมาจากความเชื่อที่ว่าการมีผิวขาวแสดงถึงการมีสุขภาพดี ร้อยละ 8.4
เมื่อถามถึงพฤติกรรมการดูแลผิวพรรณของกลุ่มตัวอย่างชาวอีสาน พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.2 ดูแลโดยการทาครีมบำรุง เช่น ครีมกันแดดและไวเทนนิ่ง รองลงมาร้อยละ 35.3 จะรับประทานอาหารที่มีสารบำรุงผิวพรรณ เช่น ผัก ผลไม้ อันดับสาม ร้อยละ 24.2 ตอบว่าไม่ได้ดูแลผิวพรรณเลย
นอกจากนี้ พบว่ากลุ่มตัวอย่างชาวอีสานดูแลผิวโดยรับประทานอาหารเสริม เช่น วิตามิน คอลลาเจน กลูตาไธโอน เพียงร้อยละ 5.6 ตามมาด้วยการใช้บริการสถานเสริมความงามหรือสปาร้อยละ 2.8 และฉีดสารทางการแพทย์ เช่น กลูตาไธโอนและคอลลาเจนเพียงร้อยละ 0.4 เท่านั้น ซึ่งเมื่อแยกกลุ่มตัวอย่างตามอายุแล้ว พบว่าคำตอบเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งกลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มผู้ใหญ่
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างชาวอีสานส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 61.9 มีความเห็นต่อวิธีการปรับสีผิวให้ขาว โดยการฉีดสารเพิ่มความขาวเข้าสู่ผิวว่ามีอันตราย เพราะอาจมีสารตกค้างในร่างกาย หรือก่อให้เกิดการแพ้ได้ รองลงมาร้อยละ 16.6 ตอบว่าไม่แน่ใจ ตามมาด้วยร้อยละ 14.3 เห็นว่ามีอันตราย เพราะผู้ที่ทำให้มักไม่ใช่แพทย์ โดยมีผู้เห็นว่าไม่อันตรายเพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญดูแลเพียงร้อยละ 5.4 และไม่อันตรายเพราะใช้สารที่ปลอดภัย และนิยมทำกันแพร่หลายร้อยละ 1.7
ดร.สุทินระบุว่า จากผลการสำรวจข้างต้นทำให้พบว่ากลุ่มตัวอย่างชาวอีสานส่วนใหญ่ไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องความขาวของสีผิวมากนัก แต่ก็ไม่ต้องการมีผิวสีเข้มหรือคล้ำ สำหรับกลุ่มที่เป็นวัยรุ่นกลับพบว่าการมีผิวขาวมีความสำคัญ โดยเกือบ 1 ใน 4 ของกลุ่มนี้ต้องการมีผิวขาวแบบเกาหลี-ญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงยังเห็นว่าการมีผิวขาวค่อนข้างมีความสำคัญ ในขณะที่เพศชายไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เท่าใดนัก และนอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างยังเชื่อว่าการมีค่านิยมผิวขาวมีอิทธิพลมาจากดาราและศิลปินทั้งของไทยและต่างชาติที่มักมีผิวขาวสวย
รวมถึงอิทธิพลของโฆษณาของผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เช่น ไวเทนนิ่ง เครื่องดื่มผสมกลูตา และโรลออนวงแขนขาว อย่างไรก็ดี แม้ผลการสำรวจจะพบว่ามีวัยรุ่นชาวอีสานเพียงจำนวนน้อยที่ดูแลผิวพรรณโดยพึ่งวิธีการเปลี่ยนสีผิวด้วยการฉีดสาร หรือไปใช้สถานเสริมความงาม แต่ก็ยังต้องระมัดระวัง เนื่องจากกลุ่มนี้ยังขาดวิจารณญาณในการรับสื่อ จึงให้ความสำคัญต่อการมีผิวขาว โดยต้องการขาวอย่างดารา และอาจหันไปพึ่งวิธีที่อาจเป็นอันตรายตามที่เป็นข่าว