โยคะ...เรียกได้ว่าเป็นกีฬาหนึ่งชนิด ที่มีหลายแขนง ยิ่งในปัจจุบัน มีโยคะในรูปแบบใหม่ ออกมามากมาย ซึ่งก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ร่างกายแข็งแรงทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้กระทั้งผิวพรรณของคนเรา ซึ่งก็สามารถทำ "โยคะหน้า" ให้ผิวหน้าแข็งแรง กระชับได้เช่นกัน @skinexercise เครื่องสำอางแบรนด์ดัง ก็ได้จัดกิจกรรมดีๆ มาเอาใจสาวๆ ผู้รักสุขภาพผิวแบบไม่ตกเทรนด์ กับการจัดกิจกรรมเวิร์คชอป การทำ "โยคะหน้า" โดยคุณครูสอนโยคะคนสวย ครูจิ๊บ - วลัยพัชร อักษรดี เจ้าของผลงานหนังสือ "โยคะสีชมพู" มาให้ความรู้ในการออกกำลังให้ผิวหน้ากระชับแข็งแรง ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนท่าของการทำโยคะหน้ากัน ก็ต้องทำความสะอาดผิวหน้ากันก่อนด้วยเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ครูจิ๊บ - วลัยพัชร ได้กล่าวถึงหลักสำคัญในการทำโยคะหน้าครั้งนี้ว่า "สิ่งสำคัญของการทำโยคะ คือ การหายใจ เริ่มด้วยการฝึกหายใจเข้าลึกๆ 1-2-3-4 และค่อยๆ หายใจออก 1-2-3-4 การฝึกหายใจ เป็นหลักการเบื้องต้นของการฝึกโยคะ ส่วนการทำโยคะหน้า บริเวณที่จะเป็นที่กังวลของเราคือ หน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา ร่องแก้มและคอ ซึ่งการฝึกโยคะ จะช่วยให้ผิวสวย อยู่กับเราได้นานขึ้น กระชับ ริ้วรอยดูลดเลือน และป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งเคล็ดไม่ลับสำคัญ ที่จะทำให้การทำโยคะหน้าได้ผลดีที่สุดนั้นก็คือ ความสม่ำเสมอ เหมือนกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ต้องใช้สม่ำเสมอเช่นเดียวกัน โดยการทำโยคะหน้า สามารถทำได้ตลอด ยิ่งทำมากยิ่งเห็นผลมาก ทำทุกวันได้ยิ่งดี เพื่อให้ผิวได้ออกกำลัง เพราะเป็นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเราจะเน้นการหายใจเข้าไปด้วย โดยสิ่งที่เราเรียกว่าอาหารผิว คือเลือด กับ น้ำเหลือง ถ้าอยู่นิ่งๆ ก็จะไปจับเป็นสิ่งสกปรกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่ถ้าเราออกกำลัง เพื่อให้มันได้เคลื่อนที่ มันก็จะกลายเป็นอาหารผิวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นคะ"
เมื่อฝึกหายใจกันแล้ว ครูจิ๊บก็เริ่มการทำโยคะหน้า ท่าแรกช่วยกระชับแก้ม ว่า "เริ่มแรกเลยนะคะ ลองฝึกทำแก้มป่องแรงๆ จนรู้สึกว่าบริเวณปากได้ใช้กล้ามเนื้อ จากนั้นค่อยๆ เป่าปากหายใจออก ต่อด้วยการหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกทำแก้มป่องข้างซ้าย - ขวา 3 ครั้ง แล้วค่อยๆ เป่าลมหายใจออก ทำแบบนี้สลับกัน ช่วยให้แก้มประชับ ยิ่งแรงมากยิ่งกระชับคะ แต่ก็จะรู้สึกเมื่อยที่แก้ม แต่จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกกระชับมากขึ้น เมื่อกระชับที่แก้มแล้ว ต่อไปก็จะเป็นบริเวณที่คนส่วนใหญ่เป็นกังวล
นั่นก็คือ ร่องแก้ม ให้ค่อยๆ หายใจเข้า แล้วดูดแก้มทั้งสองข้างเข้าไป ให้ปากจู๋ แล้วปล่อยออกมาพร้อมหายใจออกให้เป็นเสียงดัง เป๊าะ... ช่วยเรื่องปัญหาร่องแก้ม ซึ่งท่านี้ลิ้นก็ได้ออกกำลังไปด้วย ช่วยในเรื่องของกล้ามเนื้อคอให้กระชับไปพร้อมๆ กันคะ"
และเพื่อเพิ่มความกระชับให้กับผิว ก็ต้องเพิ่มเติมด้วยอาหารผิวที่เป็นเซรั่ม เพื่อซึมซาบสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและรวดเร็ว และเพื่อให้สารอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น ครูจิ๊บ - วลัยพัชร ก็ได้แนะนำ ท่าโยคะลำคอ ต่อไปว่า "เมื่อบำรุงผิวกันไปแล้ว ก็จะมาทำให้บริเวณของใบหน้ามีความร้อน เพื่อขับสิ่งสกปรกออก ด้วยการหายใจผ่านลำคอโดยใช้มือทั้งสองข้างทาบลำคอไว้ หลังตรง สูดหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆ หายใจออก ให้รู้สึกมีเสียงสั่นที่ลำคอ ต่อไปเอามือทาบลำคอเช่นเดิม หายใจเข้า แล้วยืดคอออกมาข้างหน้า จากนั้นฉีกยิ้มอย่างเต็มที่พร้อมหายใจออก ต่อจากนี้ก็เป็นท่าค่อนข้างแอดวานซ์ ต้องฝึกบ่อยๆ คือทำท่าเดิม แต่ปิดปาก แล้วหายใจผ่านจมูก ผ่านลำคอให้มีเสียง การหายใจแบบนี้ จะรู้สึกได้ว่าใบหน้าร้อนขึ้น และช่วยกระชับกล้ามเนื้อคอ ต่อด้วยท่าคล้ายๆ กัน มือซ้ายจับคอ มองด้านซ้าย แหงนหน้าขึ้น ยิ้มยิงฟัน เอาลิ้นแตะเพดานด้านบน แล้วกลืนน้ำลาย ท่านี้ทำแล้วอาจจะรู้สึกกระหายน้ำ เราสามารถจิบน้ำได้ แล้วค่อยทำต่อคะ ซึ่งท่าดังกล่าว ช่วยให้กล้ามเนื้อคอกระชับทั้งสิ้นเลย"
เมื่อเติมเซรั่มลงสู่ผิวอย่างล้ำลึกแล้ว จากนั้นก็เป็นการบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ โดยการแต้ม 5 จุดบนใบหน้าแล้วทาย้อนขึ้น จากนั้นตามด้วย ท่าโยคะบริหารช่วงตา กันบ้าง "บริเวณหางตาที่มักจะหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย เราจะใช้ทักษะการกระพริบตาซ้ายและขวาตอนหายใจออกให้ชินก่อน ต่อไปให้ใช้นิ้วช่วย ดึงบริเวณหางตาขึ้น หายใจเข้า แล้วหายใจออกพร้อมกระพริบตาซ้ายและขวาสลับกัน ต่อไปเพิ่มน้ำหนักการทำงานของกล้ามเนื้อตาด้วยท่าเช่นเดิม แต่กระพริบตาแบบไม่ปิด ทำซ้ายขวาสลับกัน และต่อไป หลับตา หายใจเข้า ปิดตาแน่นๆ แต่ไม่ใช่หลับตาปี๋ แล้วค่อยๆ หายใจออก ทำ 3 ครั้ง ช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้ออกกำลังด้วย"
สาวๆ บำรุงผิวไปครบขั้นตอนแล้ว จากนั้นก็ต้องเป็นการปกป้องผิวหน้ากันบ้าง ด้วยการทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 50 และปกป้องทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีด้วย ต่อไปเป็น ท่าโยคะออกกำลังช่วงบริเวณหว่างคิ้ว ซึ่งหว่างคิ้วบางคนจะย่น เนื่องจากกล้ามเนื้อเคยชิน เราก็สามารถทำโยคะได้ด้วยการใช้สองนิ้ว กดที่หัวคิ้วทั้งสองข้างดึงห่างออกจากกัน ในขณะที่เรากำลังย่นคิ้ว เป็นการต้านกำลังกัน ให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้ออกกำลัง
ปิดท้ายด้วย ท่าสุดท้าย สำหรับทั่วใบหน้า ครูจิ๊บกล่าวว่า เป็นท่าที่ตลกที่สุด แต่ได้ผลมากที่สุด "ก่อนอื่นยื่นแขนออกไปหงายฝ่ามือแล้ววางทาบบนเข่า หายใจเข้า พอหายใจออก ให้แลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุดและตามองไปข้างบน ท่านี้เรียกกันว่าท่าสิงโตคะ เป็นท่าที่ตลก แต่ได้ผลทุกส่วนเลยจริงๆ ทั้งใบหน้า ลำคอ และแขนอีกด้วยนะคะ"
ก่อนจะเข้าสู่กระบวนท่าของการทำโยคะหน้ากัน ก็ต้องทำความสะอาดผิวหน้ากันก่อนด้วยเจลล้างหน้าสูตรอ่อนโยน ครูจิ๊บ - วลัยพัชร ได้กล่าวถึงหลักสำคัญในการทำโยคะหน้าครั้งนี้ว่า "สิ่งสำคัญของการทำโยคะ คือ การหายใจ เริ่มด้วยการฝึกหายใจเข้าลึกๆ 1-2-3-4 และค่อยๆ หายใจออก 1-2-3-4 การฝึกหายใจ เป็นหลักการเบื้องต้นของการฝึกโยคะ ส่วนการทำโยคะหน้า บริเวณที่จะเป็นที่กังวลของเราคือ หน้าผาก หว่างคิ้ว หางตา ร่องแก้มและคอ ซึ่งการฝึกโยคะ จะช่วยให้ผิวสวย อยู่กับเราได้นานขึ้น กระชับ ริ้วรอยดูลดเลือน และป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งเคล็ดไม่ลับสำคัญ ที่จะทำให้การทำโยคะหน้าได้ผลดีที่สุดนั้นก็คือ ความสม่ำเสมอ เหมือนกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ต้องใช้สม่ำเสมอเช่นเดียวกัน โดยการทำโยคะหน้า สามารถทำได้ตลอด ยิ่งทำมากยิ่งเห็นผลมาก ทำทุกวันได้ยิ่งดี เพื่อให้ผิวได้ออกกำลัง เพราะเป็นการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ซึ่งเราจะเน้นการหายใจเข้าไปด้วย โดยสิ่งที่เราเรียกว่าอาหารผิว คือเลือด กับ น้ำเหลือง ถ้าอยู่นิ่งๆ ก็จะไปจับเป็นสิ่งสกปรกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แต่ถ้าเราออกกำลัง เพื่อให้มันได้เคลื่อนที่ มันก็จะกลายเป็นอาหารผิวทำงานได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นคะ"
เมื่อฝึกหายใจกันแล้ว ครูจิ๊บก็เริ่มการทำโยคะหน้า ท่าแรกช่วยกระชับแก้ม ว่า "เริ่มแรกเลยนะคะ ลองฝึกทำแก้มป่องแรงๆ จนรู้สึกว่าบริเวณปากได้ใช้กล้ามเนื้อ จากนั้นค่อยๆ เป่าปากหายใจออก ต่อด้วยการหายใจเข้าลึกๆ และหายใจออกทำแก้มป่องข้างซ้าย - ขวา 3 ครั้ง แล้วค่อยๆ เป่าลมหายใจออก ทำแบบนี้สลับกัน ช่วยให้แก้มประชับ ยิ่งแรงมากยิ่งกระชับคะ แต่ก็จะรู้สึกเมื่อยที่แก้ม แต่จากนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นความรู้สึกกระชับมากขึ้น เมื่อกระชับที่แก้มแล้ว ต่อไปก็จะเป็นบริเวณที่คนส่วนใหญ่เป็นกังวล
นั่นก็คือ ร่องแก้ม ให้ค่อยๆ หายใจเข้า แล้วดูดแก้มทั้งสองข้างเข้าไป ให้ปากจู๋ แล้วปล่อยออกมาพร้อมหายใจออกให้เป็นเสียงดัง เป๊าะ... ช่วยเรื่องปัญหาร่องแก้ม ซึ่งท่านี้ลิ้นก็ได้ออกกำลังไปด้วย ช่วยในเรื่องของกล้ามเนื้อคอให้กระชับไปพร้อมๆ กันคะ"
และเพื่อเพิ่มความกระชับให้กับผิว ก็ต้องเพิ่มเติมด้วยอาหารผิวที่เป็นเซรั่ม เพื่อซึมซาบสู่ผิวได้อย่างล้ำลึกและรวดเร็ว และเพื่อให้สารอาหารทำงานได้ดียิ่งขึ้น ครูจิ๊บ - วลัยพัชร ก็ได้แนะนำ ท่าโยคะลำคอ ต่อไปว่า "เมื่อบำรุงผิวกันไปแล้ว ก็จะมาทำให้บริเวณของใบหน้ามีความร้อน เพื่อขับสิ่งสกปรกออก ด้วยการหายใจผ่านลำคอโดยใช้มือทั้งสองข้างทาบลำคอไว้ หลังตรง สูดหายใจเข้าลึกๆ และค่อยๆ หายใจออก ให้รู้สึกมีเสียงสั่นที่ลำคอ ต่อไปเอามือทาบลำคอเช่นเดิม หายใจเข้า แล้วยืดคอออกมาข้างหน้า จากนั้นฉีกยิ้มอย่างเต็มที่พร้อมหายใจออก ต่อจากนี้ก็เป็นท่าค่อนข้างแอดวานซ์ ต้องฝึกบ่อยๆ คือทำท่าเดิม แต่ปิดปาก แล้วหายใจผ่านจมูก ผ่านลำคอให้มีเสียง การหายใจแบบนี้ จะรู้สึกได้ว่าใบหน้าร้อนขึ้น และช่วยกระชับกล้ามเนื้อคอ ต่อด้วยท่าคล้ายๆ กัน มือซ้ายจับคอ มองด้านซ้าย แหงนหน้าขึ้น ยิ้มยิงฟัน เอาลิ้นแตะเพดานด้านบน แล้วกลืนน้ำลาย ท่านี้ทำแล้วอาจจะรู้สึกกระหายน้ำ เราสามารถจิบน้ำได้ แล้วค่อยทำต่อคะ ซึ่งท่าดังกล่าว ช่วยให้กล้ามเนื้อคอกระชับทั้งสิ้นเลย"
เมื่อเติมเซรั่มลงสู่ผิวอย่างล้ำลึกแล้ว จากนั้นก็เป็นการบำรุงผิวด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์ โดยการแต้ม 5 จุดบนใบหน้าแล้วทาย้อนขึ้น จากนั้นตามด้วย ท่าโยคะบริหารช่วงตา กันบ้าง "บริเวณหางตาที่มักจะหย่อนคล้อย เกิดริ้วรอย เราจะใช้ทักษะการกระพริบตาซ้ายและขวาตอนหายใจออกให้ชินก่อน ต่อไปให้ใช้นิ้วช่วย ดึงบริเวณหางตาขึ้น หายใจเข้า แล้วหายใจออกพร้อมกระพริบตาซ้ายและขวาสลับกัน ต่อไปเพิ่มน้ำหนักการทำงานของกล้ามเนื้อตาด้วยท่าเช่นเดิม แต่กระพริบตาแบบไม่ปิด ทำซ้ายขวาสลับกัน และต่อไป หลับตา หายใจเข้า ปิดตาแน่นๆ แต่ไม่ใช่หลับตาปี๋ แล้วค่อยๆ หายใจออก ทำ 3 ครั้ง ช่วยให้กล้ามเนื้อตาได้ออกกำลังด้วย"
สาวๆ บำรุงผิวไปครบขั้นตอนแล้ว จากนั้นก็ต้องเป็นการปกป้องผิวหน้ากันบ้าง ด้วยการทาครีมกันแดด ที่มีค่า SPF 50 และปกป้องทั้งรังสียูวีเอและยูวีบีด้วย ต่อไปเป็น ท่าโยคะออกกำลังช่วงบริเวณหว่างคิ้ว ซึ่งหว่างคิ้วบางคนจะย่น เนื่องจากกล้ามเนื้อเคยชิน เราก็สามารถทำโยคะได้ด้วยการใช้สองนิ้ว กดที่หัวคิ้วทั้งสองข้างดึงห่างออกจากกัน ในขณะที่เรากำลังย่นคิ้ว เป็นการต้านกำลังกัน ให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นได้ออกกำลัง
ปิดท้ายด้วย ท่าสุดท้าย สำหรับทั่วใบหน้า ครูจิ๊บกล่าวว่า เป็นท่าที่ตลกที่สุด แต่ได้ผลมากที่สุด "ก่อนอื่นยื่นแขนออกไปหงายฝ่ามือแล้ววางทาบบนเข่า หายใจเข้า พอหายใจออก ให้แลบลิ้นออกมาให้ยาวที่สุดและตามองไปข้างบน ท่านี้เรียกกันว่าท่าสิงโตคะ เป็นท่าที่ตลก แต่ได้ผลทุกส่วนเลยจริงๆ ทั้งใบหน้า ลำคอ และแขนอีกด้วยนะคะ"