By Lady Manager
ณ ชั่วโมงนี้ชาวเน็ตคงไม่มีใครไม่รู้จักสาวหน้าใสชื่อเล่นดั่งเสียงหัวเราะอย่าง เอิ๊กเอิ๊ก - พีรญา ป้อมอาษา บล็อกเกอร์อันดับ 1 ของไทยจาก Thailand Blog Awards 2012 ประเภท Shopping & Beauty Blog
นอกจากนางจะให้ความรู้ และอาหารตาในการสาธิตการแต่งหน้า และเป็นตัวแม่เรื่องข้อมูลเรื่องผิวพรรณมาแล้วมากมาย นางยังบอกเราด้วยว่า สมัยก่อนนางหน้าเน่า สิวประทุระเบิดเต็มหน้า! เพราะหลงใหลในสกินแคร์ประเภท Whitening มาแล้ว
ผลิตภัณฑ์ Whitening ทำเอิ้กหน้าแหก!
ด้วยความเด็กบวกกับไร้ประสบการณ์เรื่องการดูแลผิวพรรณ จึงทำให้สาวน้อยคนหนึ่งมีค่านิยมหน้าขาวตามทีวีกระทั่งหนังหน้าพัง!
"ปกติเอิ้กจะเป็นคนที่ไม่ได้เป็นสิวอยู่แล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อายุประมาณ 12 -13 เราเห็นทีวีโฆษณา และเราเริ่มไปชอบในผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง(Whitening) เด็กๆเราก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก คิดแค่ว่าหน้าขาวก็ดี โดยไม่คิดหรอกว่าตัวเองยังเด็กมาก มันไม่จำเป็นต้องใช้ ตอนเด็กแค่มอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมดาไม่ต้องอะไรมากมากมันก็โอเคแล้ว เราก็จะชอบดูโฆษณา ผลิตภัณฑ์ออกใหม่แบรนด์นั้นแบรนด์นี้ ไม่ได้ถึงกับเคาน์เตอร์แบรนด์แต่เป็นครีมไวท์เทนนิ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป หลังจากซื้อใช้ปุ้บ หน้าเราก็แหกเลย
อันที่จริงตอนนั้นหน้าเอิ้กก็ไม่ได้ดำมากนะ เเต่เป็นเพราะดำแดดมากกว่าเหมือนเด็กทั่วๆ ไปที่ยังไม่ได้ดูแลตัวเอง เพราะยังไม่รู้จักกันแดด นั่งหน้าเสาธงแดดเปรี้ยงๆทุกเช้า แค่คล้ำแดด แต่คนไม่ได้ว่าอะไรเราหรอกว่าเราคล้ำแดด แต่มันเหมือนเป็นค่านิยมของคนไทยซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่
พอซื้อครีมไวท์เทนนิ่งมาปุ้บก็ซื้อทาทั้งหน้า แต่สิวจะระเบิดตรงช่วงหน้าผาก ระเบิดเต็มเลยในขณะที่ตอนแรกเอิ้กไม่มีสิวเลย จึงเริ่มหาหมอสิวตั้งแต่อายุ 12 เพราะเราอาย เพื่อนจะล้อ และมีเพื่อนอยู่คนนึงเขียนในเฟรนด์ชิปว่า ขอให้หน้าแกหายเป็นสิวนะ เอิ้กก็ยิ่งเซ็งไปกันใหญ่" เอิ้ก กล่าว
สิวพ่นพิษ! ไม่กล้าสู้หน้าแฟน เน้นสวยร้อยเมตร หลบสายตาผู้คน
นางเล่าต่อแบบเปลือยใจว่าช่วงนั้นเซ็งจิตสะเทือนใจในสิวมาก ด้วยความที่สิวเยอะ หน้าก็เน่า จึงพยายามหลบสายตาผู้คน แม้กระทั่งแฟนยังไม่กล้าเจอในระยะใกล้ เน้นโทรศัพท์ มักเจอกันในระยะสวยร้อยเมตร และวันฝนพรำ
"ช่วงนั้นต้องเดินก้มหน้า เพราะอายเรื่องสิวตอนนั้นมีแฟนคนแรกแต่ก็ไม่ให้เขาเจอตัว คือโทรคุยกันเฉยๆ คือจะเห็นเราในแบบไกลๆ เพราะระยะไกลเราจะสวยไง หรือเจอกันอีกทีตอนวันฝนตก เวลาตกจะมองไม่ค่อยเห็นสิวไง อายมาตลอด มีแฟนก็ไม่เจอจะเน้นคุยโทรศัพท์
มีน้าเราเขาสงสาร เป็นเยอะมากเลย บอกว่าเดี๋ยวพาไปรักษาคลินิกแถวบ้าน เพราะสิวหนองระเบิดเต็มหน้าผาก ตอนนั้นก็ไม่รู้จักคอนซีลเลอร์ หรือแป้งเพื่อมาปกปิด จึงต้องทนอยู่ในสภาพแบบนั้น หลังจากนั้นเอิ้กหน้าใส คือครีมหมอดีมาก ทาสามวันก็หน้าใส เอิ้กหาหมอสิวอยู่ที่นี่ประมาณ 10 ปี ตอนแรกหาหมอประมาณ ม.1 พอ ม.2 ปุ้บ คนจีบเต็มเลย แค่สิวหายเลย
ส่วนแฟนก็เริ่มเจอกันได้แล้ว ในขณะที่ตอนเป็นสิวไม่มีคนมาจีบเลย พอ ม.2 เอิ้กป็อบเลยนะแต่ดำ หมอเขาก็เริ่มให้ยากันแดดเรามาแล้วนะ คือตอนนั้นเด็ก ยาหมอไม่มีฉลาก สีอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกว่าเราไม่อยากใช้ คราวนี้เริ่มไปหลงแพกเกจ ดูพวกสกินแคร์ เวชสำอางตามห้าง ผลิตภัณฑ์ที่มีในทีวี ใครที่เป็นพรีเซนเตอร์ตอนเด็กๆสมัยนั้นเราก็จะซื้อมาใช้ตามบ้าง แล้วก็ขยับไปซื้อแบรนด์ที่โฆษณาอีกเรื่อยๆ แต่ยังซื้อในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง เพื่อความขาวเหมือนเดิม
คราวนี้จัดเต็มเลยค่ะ หน้าแหก สิวมาเต็มเลยค่ะ สิวอักเสบบริเวณ 2 ข้างแก้มแดงๆ เต็มเลย คราวนี้ต้องไปหาหมออีกครั้ง แล้วใช้ชีวิตลำบากมากต้องเดินก้มหน้า รู้สึกสะเทือนใจมากในเรื่องสิว
ม.4 หน้าสิว พอม.4 กลับมาหน้าใส ปีเว้นปีอยู่อย่างนี้ แต่จากนั้นก็ใช้ของหมออย่างเดียวเลย เพราะเรารู้สึกว่าใช้ของหมอปุ้บหน้าเราจะใส มีมาตอน ม.5 เอิ้กซ้อมเชียร์ลีดเดอร์เลยมีสิวขึ้นมา 2 เม็ด เลยไม่ได้ไปเรียนเลย เหมือนเรามีปมด้อย
แค่มีคนทักว่าสิวขึ้นคนเดียวเราเซ็งเลยนะ เหมือนเสียศูนย์ เราไม่ต้องการให้ใครมาทัก อยากเก็บตัวอยู่บ้าน ไม่อยากเจอใคร คือบางทีเพื่อนผู้ชายเขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาพูดมันทำให้เราเสียเซลฟ์ เช่น สิวแกเม็ดใหญ่มากเลย พอเขาทักเราก็กลับบ้านเลยค่ะ"
อึ้ง! หน้าใสไร้สิวเพราะหมอจ่ายสเตียรอยด์มา 12 ปี
เตือนน้องๆ ระวังหมอจ่ายยาผสมสเตียรอยด์ พึงสังเกตทาปุ้บหน้าจะใสเด้ง สิวหายวับในทันที
"ช่วง ม.4 ,5 ,6 จะไม่ค่อยเป็นสิว อย่างมากก็เม็ดสองเม็ด ช่วงมหาวิทยาลัยไม่เป็นเลย จะมาเป็นอีกทีคือจบมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะเราหาหมอคนเดิมมาตั้งแต่ ม.1 รวมทั้งหมด 10 กว่าปี แต่เอิ้กมารู้ตอนหลังว่า ยาที่หมอให้เป็นสเตียรอยด์ (Steroids) เมื่อผ่านมาแล้ว 12 ปี และเราก็แนะนำเพื่อนไปหลายคนเพราะเราไม่มีความรู้เรื่องสิวเลย อีกอย่างยาถูกมากแถวบ้านเราด้วย
เรารู้สึกว่าหมอใจดี คือก็มียาบางตัวที่เขาไม่ใส่สเตียรอยด์ เขาก็บอกถ้าเราถาม แต่พอดีเราไม่รู้ว่าสเตียรอยด์คืออะไร จนกระทั่งวันนึงเราโตขึ้นมาจนกระทั่งรู้แล้วว่าสเตียรอยด์คืออะไร ทำให้คนติดแล้วมีปัญหากับผิวหนัง เราเพิ่งรู้ เสร็จปุ้บก็ส่งน้องอีกคนหนึ่งไป แล้วก็เหมือนกับน้องคนนั้นเขาอ่านบล็อกของเรา แต่ตอนนั้นเอิ้กเริ่มห่างจากยาของหมอเขาแล้วนะ
ช่วงหนึ่งที่กลับมาเป็นอีกรอบเนื่องจากว่า ต้องการผลัดเซลล์ผิวออก รอยดำ รอยแดง ในขณะที่เราไม่รู้ว่าผิวของเราเป็นแบบไหน เราก็ไปใช้ AHA คือจริงๆแล้วสาวผิวแห้งไม่ควรใช้ BHA AHA ถ้าจะสครับผิวก็ต้องให้น้อยที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นผิวคุณจะแห้งมาก พอแห้งแล้วระคายเคือง สิวโผล่อีก
น้องคนนั้นที่เอิ้กแนะนำไปหาหมอสิวก็มาเล่าให้ฟังว่า น้องเขาบอกหมอว่าไม่อยากได้อะไรที่มีสเตียรอยด์ แล้วหมอเค้าชี้ตลับที่เอิ้กมี แล้วเอิ้กคุ้นๆน้องบอก ว่าพี่ๆ ครีมตลับที่พี่เอิ้กใช้มีสเตียรอยด์นะ เราก็ตกใจว่า อ้าว หมอไม่เคยเปลี่ยนยาให้เลย
ตั้งแต่ ม.1 จนกระทั่งอายุ 20 กว่า ก็ยังคงใช้ตัวเดิมอยู่ ดังนั้นหมายความว่าเราใช้ยาที่มีสเตียรอยด์มาตลอดเวลา 12 ปี แต่ไม่โกรธหมอ เพราะว่า น้องคนนี้เขาขอที่ไม่มีสเตียรอยด์แล้วเค้าได้ คือเราเองก็ไม่ได้ทักหมอว่าไม่เอาสเตียรอยด์เพราะเราไม่รู้ว่าสเตียรอยด์มันคืออะไร แต่ก็แอบโกรธนิดนึงว่า เขาน่าจะบอกว่า มันมีผลต่อเราอะไรบ้าง เพราะหลังจากเราเลิกสเตียรอยด์มันจะมีอาการผดขึ้น คือเราจะใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย มันจะเป็นผดขึ้นมา หน้าจะสาก และจะกลับมาเป็นในจุดๆเดิม จึงทำให้เราต้องกลับไปหาหมอคนนั้นอีก เราไม่เข้าใจคำว่าการเลี้ยงไข้ ไม่เข้าใจอะไรเลย” เอิ้กเล่าประสบการณ์สิวอย่างออกรสออกชาติ
วิเคราะห์ผิวตนเอง หมั่นยิงเลเซอร์ลดรอยแดง-ดำ
เอิ้ก แนะนำว่า อย่าพยายามทำอะไรรบกวนหน้าให้มาก แค่ครีมว่านหางจระเข้ก็เวิร์กแล้ว ทว่าเราควรวิเคราะห์ผิวหน้าตัวเองด้วยว่าเป็นประเภทใด เช่น ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง เพราะแต่ละผิวจะดูแลต่างกัน
“หลังจากนั้นเอิ้กได้พบกับคุณหมอท่านหนึ่ง คราวนี้เป็นระดับอาจารย์เลย เขาให้ความรู้ในเรื่องว่าเราผิวสภาพไหน หมอเขาก็ให้ความรู้เรื่องผิว แล้วเราก็ไปตรวจผิวในเครื่องจึงรู้ว่าเราเป็นคนผิวแห้ง ไม่เคยรู้มาก่อน เราเข้าใจมาโดยตลอดว่า เราผิวมัน หรือผิวผสม อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เราก็เลยไปใช้แต่พวก AHA ก็ไปกันใหญ่เลย ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวโดยใช้ AHA จะทำให้หน้าระคายเคืองสิวเห่อได้
จากนั้นก็จบโดยการที่เอิ้กไปเล่นเกมส์กับคลินิกนึง เผอิญได้รางวัลชนะเลิศ เขียนเรื่องสิวเข้าไป คือ เขาคงเห็นว่าเราคงเสียใจกับเรื่องนี้จริงๆ แล้วเราไม่เข้าใจว่าเลเซอร์คืออะไร ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก เราจะเหมาะกับมันหรือเปล่า แต่เขาบอกว่าโครงการนี้รักษาสิวฟรี ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าเลเซอร์ มันดีอย่างไรแค่รู้ว่า เลเซอร์แล้วสิวมันคงหายมั้งปรากฏว่าเลเซอร์แล้วมันหายจริงๆ คลินิกนี้ทำให้เอิ้กหายสิว คือช่วงนั้นสิวมันยุบลงไปแล้ว แต่มันจะเหลือรอยแดงรอยดำซึ่งเขาจะยิงรอยดำรอยแดงตลอด แต่ยาไม่ได้ทาของเขา คือตอนนั้นเอิ้กก็จะใช้แต่พวกว่านหางจระเข้ หรือครีมอะไรก็ตามที่ให้ความชุ่มชื้น
คือเอิ้กก็เลิกหาหมอคนเดิมแล้ว พอผดขึ้นมา เราก็ฝืน ลองใช้เจลว่านหางจระเข้ ใช้วิตามินอีครีมตามร้านขายยา ลองทาให้ความชุ่มชื้นมันดู เพราะมันจะมีอยู่ช่วงนึงที่เอิ้กป่วยไป 2 เดือน คือเอิ้กไม่อยากรับรู้อะไรบนโลกนี้คือมันเหมือนเป็นช่วงพีคของชีวิตพอดี เราก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสวยอยู่แล้ว ต้องเอาสุขภาพของตัวเองไว้ก่อน ก็นอนไม่ได้ทาครีม ปรากฏว่า ลองแค่แต้มว่านหางจระเข้ทำไมหน้ามันใสจังเลย เราก็งง แล้วรู้สึกว่าจริงๆแล้วเราไม่ควรจะเยอะกับหน้าเรารึป่าว นั่นคือเป็นจุดเริ่มต้นที่เราคิดจะดูแลผิวพรรณให้ถูกต้อง
หลังจากพอเป็นสิวปุ้บ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราไปรักษาแล้วก็หาย เพราะคลินิกที่เอิ้กไปเล่นเกมส์ได้ เราเลยคิดว่าเลเซอร์ที่ไปยิงรอยดำรอยแดงนี่ดีนะ เพราะเลเซอร์บางตัวก็ช่วยลดเชื้อได้ แต่ถ้าเกิดเราไม่ควบคุมต้นเหตุ เราก็จะรักษาสิวให้หายไม่ได้เช่นกัน”
:: กูรูสิวแนะ
ผิวสุขภาพดีต้องชุ่มชื้น ไม่ใช่ “ขาว”
“ที่เอิ้กเขียนคอลัมน์เรื่องผิวหนังเพราะเราจะอยากรู้เรื่องผิวหนังลึกๆ แต่ถามว่าถ้าเราจะมีโอกาสกลับมาแพ้ได้อีกมั้ย บอกเลยว่ามี เพราะเราเป็นคนผิวแห้งถ้าเราเจออากาศที่เย็นๆ มันจะคันๆแถวโหนกแก้ม ผื่นแดงๆ จะขึ้นมา เอิ้กก็จะพกสเตียรอยด์หลอดนึงที่ซื้อตามร้านขายยา เราก็บอกเขาว่า ขอยาแก้แพ้เครื่องสำอาง แต่เราเริ่มรู้แล้วว่ามันไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3 วัน พอทา 1-2 วันแล้วหาย แต่หากเกิน 3 วัน เราก็เลิกใช้ แต่ควรติดไว้คนผิวแห้งจำเป็นมาก หรือภูมิแพ้ผิวหนังควรมีพกติดตัวไว้ จะมีลักษณะเป็นครีม
หลังจากที่เรารู้มากขึ้นพวกผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งจะมาหลอกอะไรเราไม่ได้แล้ว ตอนนี้ไม่อยากได้ความขาวแล้ว แต่เป็นความชุ่มชื้นมากกว่า เพราะจริงๆแล้วผิวที่ดูสุขภาพดี อันดับ 1 ในการบำรุงผิวเราควรเน้นเรื่องความชุ่มชื้นก่อน ให้ผิวอยู่ในลักษณะสมดุลมากที่สุด คือไม่แห้ง ไม่มันจนเกินไป ถ้ามันต้องคุมความมันให้ดีเพราะโอกาสจะเกิดสิวก็มา และถ้าแห้งโอกาสเกิดสิวก็จะกลับมาได้ ดังนั้นเราจะไม่ทำให้ผิวเราแห้ง ต้องทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ทาครีมทุกวัน เอิ้กจะไม่เน้นไวท์เทนนิ่งเลย เราไม่อยากขาวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะรู้สึกว่าถ้าขาวแต่หน้าเห่อก็ไม่ไหว
เอิ้กว่าหลักการบำรุงผิวจริงๆ ผิวดีคือผิวที่มีชุ่มชื้นอย่างเพียงพอและพอเหมาะ เพราะผิวจะดูมีออร่าขึ้นมาเอง คือมันจะดูเปล่งดูใส โดยที่เราไม่ต้องขาว แต่ถ้าเราขาวแบบกร้านๆ กระดำกระด่างก็ไม่ค่อยดี ไม่แนะนำพวกไวท์เทนนิ่งที่ผลัดเซลล์ผิวเท่าไหร่ เนื่องจากผลัดเซลล์ผิวก็เหมือนแค่ผลัดเอาขี้ไคลออกไป แต่เอิ้กจะเน้นไวท์เทนนิ่งในรูปแบบของการยับยั้งผิวสี ซึ่งมันจะลงลึกกว่า จะไปช่วยในเรื่องของเม็ดสีของเราจริงๆแล้วก็เลือกที่ปลอดภัยมีงานวิจัยรองรับ
คุณต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะเริ่มใช้อะไรไป ถ้ามันพลาดไปนอกจากจะเสียเงินค่ารักษาหมอบานแล้วถ้าเราเป็นประเภทเป็นสิวง่ายมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่” เอิ้ก แนะนำปิดท้าย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net
ณ ชั่วโมงนี้ชาวเน็ตคงไม่มีใครไม่รู้จักสาวหน้าใสชื่อเล่นดั่งเสียงหัวเราะอย่าง เอิ๊กเอิ๊ก - พีรญา ป้อมอาษา บล็อกเกอร์อันดับ 1 ของไทยจาก Thailand Blog Awards 2012 ประเภท Shopping & Beauty Blog
นอกจากนางจะให้ความรู้ และอาหารตาในการสาธิตการแต่งหน้า และเป็นตัวแม่เรื่องข้อมูลเรื่องผิวพรรณมาแล้วมากมาย นางยังบอกเราด้วยว่า สมัยก่อนนางหน้าเน่า สิวประทุระเบิดเต็มหน้า! เพราะหลงใหลในสกินแคร์ประเภท Whitening มาแล้ว
ผลิตภัณฑ์ Whitening ทำเอิ้กหน้าแหก!
ด้วยความเด็กบวกกับไร้ประสบการณ์เรื่องการดูแลผิวพรรณ จึงทำให้สาวน้อยคนหนึ่งมีค่านิยมหน้าขาวตามทีวีกระทั่งหนังหน้าพัง!
"ปกติเอิ้กจะเป็นคนที่ไม่ได้เป็นสิวอยู่แล้ว มีอยู่ช่วงหนึ่งที่อายุประมาณ 12 -13 เราเห็นทีวีโฆษณา และเราเริ่มไปชอบในผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง(Whitening) เด็กๆเราก็ไม่ค่อยเข้าใจหรอก คิดแค่ว่าหน้าขาวก็ดี โดยไม่คิดหรอกว่าตัวเองยังเด็กมาก มันไม่จำเป็นต้องใช้ ตอนเด็กแค่มอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมดาไม่ต้องอะไรมากมากมันก็โอเคแล้ว เราก็จะชอบดูโฆษณา ผลิตภัณฑ์ออกใหม่แบรนด์นั้นแบรนด์นี้ ไม่ได้ถึงกับเคาน์เตอร์แบรนด์แต่เป็นครีมไวท์เทนนิ่งสามารถหาซื้อได้ทั่วไป หลังจากซื้อใช้ปุ้บ หน้าเราก็แหกเลย
อันที่จริงตอนนั้นหน้าเอิ้กก็ไม่ได้ดำมากนะ เเต่เป็นเพราะดำแดดมากกว่าเหมือนเด็กทั่วๆ ไปที่ยังไม่ได้ดูแลตัวเอง เพราะยังไม่รู้จักกันแดด นั่งหน้าเสาธงแดดเปรี้ยงๆทุกเช้า แค่คล้ำแดด แต่คนไม่ได้ว่าอะไรเราหรอกว่าเราคล้ำแดด แต่มันเหมือนเป็นค่านิยมของคนไทยซึ่งทุกวันนี้ก็ยังเป็นอยู่
พอซื้อครีมไวท์เทนนิ่งมาปุ้บก็ซื้อทาทั้งหน้า แต่สิวจะระเบิดตรงช่วงหน้าผาก ระเบิดเต็มเลยในขณะที่ตอนแรกเอิ้กไม่มีสิวเลย จึงเริ่มหาหมอสิวตั้งแต่อายุ 12 เพราะเราอาย เพื่อนจะล้อ และมีเพื่อนอยู่คนนึงเขียนในเฟรนด์ชิปว่า ขอให้หน้าแกหายเป็นสิวนะ เอิ้กก็ยิ่งเซ็งไปกันใหญ่" เอิ้ก กล่าว
สิวพ่นพิษ! ไม่กล้าสู้หน้าแฟน เน้นสวยร้อยเมตร หลบสายตาผู้คน
นางเล่าต่อแบบเปลือยใจว่าช่วงนั้นเซ็งจิตสะเทือนใจในสิวมาก ด้วยความที่สิวเยอะ หน้าก็เน่า จึงพยายามหลบสายตาผู้คน แม้กระทั่งแฟนยังไม่กล้าเจอในระยะใกล้ เน้นโทรศัพท์ มักเจอกันในระยะสวยร้อยเมตร และวันฝนพรำ
"ช่วงนั้นต้องเดินก้มหน้า เพราะอายเรื่องสิวตอนนั้นมีแฟนคนแรกแต่ก็ไม่ให้เขาเจอตัว คือโทรคุยกันเฉยๆ คือจะเห็นเราในแบบไกลๆ เพราะระยะไกลเราจะสวยไง หรือเจอกันอีกทีตอนวันฝนตก เวลาตกจะมองไม่ค่อยเห็นสิวไง อายมาตลอด มีแฟนก็ไม่เจอจะเน้นคุยโทรศัพท์
มีน้าเราเขาสงสาร เป็นเยอะมากเลย บอกว่าเดี๋ยวพาไปรักษาคลินิกแถวบ้าน เพราะสิวหนองระเบิดเต็มหน้าผาก ตอนนั้นก็ไม่รู้จักคอนซีลเลอร์ หรือแป้งเพื่อมาปกปิด จึงต้องทนอยู่ในสภาพแบบนั้น หลังจากนั้นเอิ้กหน้าใส คือครีมหมอดีมาก ทาสามวันก็หน้าใส เอิ้กหาหมอสิวอยู่ที่นี่ประมาณ 10 ปี ตอนแรกหาหมอประมาณ ม.1 พอ ม.2 ปุ้บ คนจีบเต็มเลย แค่สิวหายเลย
ส่วนแฟนก็เริ่มเจอกันได้แล้ว ในขณะที่ตอนเป็นสิวไม่มีคนมาจีบเลย พอ ม.2 เอิ้กป็อบเลยนะแต่ดำ หมอเขาก็เริ่มให้ยากันแดดเรามาแล้วนะ คือตอนนั้นเด็ก ยาหมอไม่มีฉลาก สีอะไรก็ไม่รู้ รู้สึกว่าเราไม่อยากใช้ คราวนี้เริ่มไปหลงแพกเกจ ดูพวกสกินแคร์ เวชสำอางตามห้าง ผลิตภัณฑ์ที่มีในทีวี ใครที่เป็นพรีเซนเตอร์ตอนเด็กๆสมัยนั้นเราก็จะซื้อมาใช้ตามบ้าง แล้วก็ขยับไปซื้อแบรนด์ที่โฆษณาอีกเรื่อยๆ แต่ยังซื้อในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง เพื่อความขาวเหมือนเดิม
คราวนี้จัดเต็มเลยค่ะ หน้าแหก สิวมาเต็มเลยค่ะ สิวอักเสบบริเวณ 2 ข้างแก้มแดงๆ เต็มเลย คราวนี้ต้องไปหาหมออีกครั้ง แล้วใช้ชีวิตลำบากมากต้องเดินก้มหน้า รู้สึกสะเทือนใจมากในเรื่องสิว
ม.4 หน้าสิว พอม.4 กลับมาหน้าใส ปีเว้นปีอยู่อย่างนี้ แต่จากนั้นก็ใช้ของหมออย่างเดียวเลย เพราะเรารู้สึกว่าใช้ของหมอปุ้บหน้าเราจะใส มีมาตอน ม.5 เอิ้กซ้อมเชียร์ลีดเดอร์เลยมีสิวขึ้นมา 2 เม็ด เลยไม่ได้ไปเรียนเลย เหมือนเรามีปมด้อย
แค่มีคนทักว่าสิวขึ้นคนเดียวเราเซ็งเลยนะ เหมือนเสียศูนย์ เราไม่ต้องการให้ใครมาทัก อยากเก็บตัวอยู่บ้าน ไม่อยากเจอใคร คือบางทีเพื่อนผู้ชายเขาไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เขาพูดมันทำให้เราเสียเซลฟ์ เช่น สิวแกเม็ดใหญ่มากเลย พอเขาทักเราก็กลับบ้านเลยค่ะ"
อึ้ง! หน้าใสไร้สิวเพราะหมอจ่ายสเตียรอยด์มา 12 ปี
เตือนน้องๆ ระวังหมอจ่ายยาผสมสเตียรอยด์ พึงสังเกตทาปุ้บหน้าจะใสเด้ง สิวหายวับในทันที
"ช่วง ม.4 ,5 ,6 จะไม่ค่อยเป็นสิว อย่างมากก็เม็ดสองเม็ด ช่วงมหาวิทยาลัยไม่เป็นเลย จะมาเป็นอีกทีคือจบมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะเราหาหมอคนเดิมมาตั้งแต่ ม.1 รวมทั้งหมด 10 กว่าปี แต่เอิ้กมารู้ตอนหลังว่า ยาที่หมอให้เป็นสเตียรอยด์ (Steroids) เมื่อผ่านมาแล้ว 12 ปี และเราก็แนะนำเพื่อนไปหลายคนเพราะเราไม่มีความรู้เรื่องสิวเลย อีกอย่างยาถูกมากแถวบ้านเราด้วย
เรารู้สึกว่าหมอใจดี คือก็มียาบางตัวที่เขาไม่ใส่สเตียรอยด์ เขาก็บอกถ้าเราถาม แต่พอดีเราไม่รู้ว่าสเตียรอยด์คืออะไร จนกระทั่งวันนึงเราโตขึ้นมาจนกระทั่งรู้แล้วว่าสเตียรอยด์คืออะไร ทำให้คนติดแล้วมีปัญหากับผิวหนัง เราเพิ่งรู้ เสร็จปุ้บก็ส่งน้องอีกคนหนึ่งไป แล้วก็เหมือนกับน้องคนนั้นเขาอ่านบล็อกของเรา แต่ตอนนั้นเอิ้กเริ่มห่างจากยาของหมอเขาแล้วนะ
ช่วงหนึ่งที่กลับมาเป็นอีกรอบเนื่องจากว่า ต้องการผลัดเซลล์ผิวออก รอยดำ รอยแดง ในขณะที่เราไม่รู้ว่าผิวของเราเป็นแบบไหน เราก็ไปใช้ AHA คือจริงๆแล้วสาวผิวแห้งไม่ควรใช้ BHA AHA ถ้าจะสครับผิวก็ต้องให้น้อยที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นผิวคุณจะแห้งมาก พอแห้งแล้วระคายเคือง สิวโผล่อีก
น้องคนนั้นที่เอิ้กแนะนำไปหาหมอสิวก็มาเล่าให้ฟังว่า น้องเขาบอกหมอว่าไม่อยากได้อะไรที่มีสเตียรอยด์ แล้วหมอเค้าชี้ตลับที่เอิ้กมี แล้วเอิ้กคุ้นๆน้องบอก ว่าพี่ๆ ครีมตลับที่พี่เอิ้กใช้มีสเตียรอยด์นะ เราก็ตกใจว่า อ้าว หมอไม่เคยเปลี่ยนยาให้เลย
ตั้งแต่ ม.1 จนกระทั่งอายุ 20 กว่า ก็ยังคงใช้ตัวเดิมอยู่ ดังนั้นหมายความว่าเราใช้ยาที่มีสเตียรอยด์มาตลอดเวลา 12 ปี แต่ไม่โกรธหมอ เพราะว่า น้องคนนี้เขาขอที่ไม่มีสเตียรอยด์แล้วเค้าได้ คือเราเองก็ไม่ได้ทักหมอว่าไม่เอาสเตียรอยด์เพราะเราไม่รู้ว่าสเตียรอยด์มันคืออะไร แต่ก็แอบโกรธนิดนึงว่า เขาน่าจะบอกว่า มันมีผลต่อเราอะไรบ้าง เพราะหลังจากเราเลิกสเตียรอยด์มันจะมีอาการผดขึ้น คือเราจะใช้อย่างอื่นไม่ได้เลย มันจะเป็นผดขึ้นมา หน้าจะสาก และจะกลับมาเป็นในจุดๆเดิม จึงทำให้เราต้องกลับไปหาหมอคนนั้นอีก เราไม่เข้าใจคำว่าการเลี้ยงไข้ ไม่เข้าใจอะไรเลย” เอิ้กเล่าประสบการณ์สิวอย่างออกรสออกชาติ
วิเคราะห์ผิวตนเอง หมั่นยิงเลเซอร์ลดรอยแดง-ดำ
เอิ้ก แนะนำว่า อย่าพยายามทำอะไรรบกวนหน้าให้มาก แค่ครีมว่านหางจระเข้ก็เวิร์กแล้ว ทว่าเราควรวิเคราะห์ผิวหน้าตัวเองด้วยว่าเป็นประเภทใด เช่น ผิวมัน ผิวผสม ผิวแห้ง เพราะแต่ละผิวจะดูแลต่างกัน
“หลังจากนั้นเอิ้กได้พบกับคุณหมอท่านหนึ่ง คราวนี้เป็นระดับอาจารย์เลย เขาให้ความรู้ในเรื่องว่าเราผิวสภาพไหน หมอเขาก็ให้ความรู้เรื่องผิว แล้วเราก็ไปตรวจผิวในเครื่องจึงรู้ว่าเราเป็นคนผิวแห้ง ไม่เคยรู้มาก่อน เราเข้าใจมาโดยตลอดว่า เราผิวมัน หรือผิวผสม อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ เราก็เลยไปใช้แต่พวก AHA ก็ไปกันใหญ่เลย ซึ่งการผลัดเซลล์ผิวโดยใช้ AHA จะทำให้หน้าระคายเคืองสิวเห่อได้
จากนั้นก็จบโดยการที่เอิ้กไปเล่นเกมส์กับคลินิกนึง เผอิญได้รางวัลชนะเลิศ เขียนเรื่องสิวเข้าไป คือ เขาคงเห็นว่าเราคงเสียใจกับเรื่องนี้จริงๆ แล้วเราไม่เข้าใจว่าเลเซอร์คืออะไร ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นเทคโนโลยีที่ใหม่มาก เราจะเหมาะกับมันหรือเปล่า แต่เขาบอกว่าโครงการนี้รักษาสิวฟรี ซึ่งเราไม่รู้หรอกว่าเลเซอร์ มันดีอย่างไรแค่รู้ว่า เลเซอร์แล้วสิวมันคงหายมั้งปรากฏว่าเลเซอร์แล้วมันหายจริงๆ คลินิกนี้ทำให้เอิ้กหายสิว คือช่วงนั้นสิวมันยุบลงไปแล้ว แต่มันจะเหลือรอยแดงรอยดำซึ่งเขาจะยิงรอยดำรอยแดงตลอด แต่ยาไม่ได้ทาของเขา คือตอนนั้นเอิ้กก็จะใช้แต่พวกว่านหางจระเข้ หรือครีมอะไรก็ตามที่ให้ความชุ่มชื้น
คือเอิ้กก็เลิกหาหมอคนเดิมแล้ว พอผดขึ้นมา เราก็ฝืน ลองใช้เจลว่านหางจระเข้ ใช้วิตามินอีครีมตามร้านขายยา ลองทาให้ความชุ่มชื้นมันดู เพราะมันจะมีอยู่ช่วงนึงที่เอิ้กป่วยไป 2 เดือน คือเอิ้กไม่อยากรับรู้อะไรบนโลกนี้คือมันเหมือนเป็นช่วงพีคของชีวิตพอดี เราก็ไม่มีอารมณ์ที่จะสวยอยู่แล้ว ต้องเอาสุขภาพของตัวเองไว้ก่อน ก็นอนไม่ได้ทาครีม ปรากฏว่า ลองแค่แต้มว่านหางจระเข้ทำไมหน้ามันใสจังเลย เราก็งง แล้วรู้สึกว่าจริงๆแล้วเราไม่ควรจะเยอะกับหน้าเรารึป่าว นั่นคือเป็นจุดเริ่มต้นที่เราคิดจะดูแลผิวพรรณให้ถูกต้อง
หลังจากพอเป็นสิวปุ้บ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เราไปรักษาแล้วก็หาย เพราะคลินิกที่เอิ้กไปเล่นเกมส์ได้ เราเลยคิดว่าเลเซอร์ที่ไปยิงรอยดำรอยแดงนี่ดีนะ เพราะเลเซอร์บางตัวก็ช่วยลดเชื้อได้ แต่ถ้าเกิดเราไม่ควบคุมต้นเหตุ เราก็จะรักษาสิวให้หายไม่ได้เช่นกัน”
:: กูรูสิวแนะ
ผิวสุขภาพดีต้องชุ่มชื้น ไม่ใช่ “ขาว”
“ที่เอิ้กเขียนคอลัมน์เรื่องผิวหนังเพราะเราจะอยากรู้เรื่องผิวหนังลึกๆ แต่ถามว่าถ้าเราจะมีโอกาสกลับมาแพ้ได้อีกมั้ย บอกเลยว่ามี เพราะเราเป็นคนผิวแห้งถ้าเราเจออากาศที่เย็นๆ มันจะคันๆแถวโหนกแก้ม ผื่นแดงๆ จะขึ้นมา เอิ้กก็จะพกสเตียรอยด์หลอดนึงที่ซื้อตามร้านขายยา เราก็บอกเขาว่า ขอยาแก้แพ้เครื่องสำอาง แต่เราเริ่มรู้แล้วว่ามันไม่ควรใช้ติดต่อกันเกิน 3 วัน พอทา 1-2 วันแล้วหาย แต่หากเกิน 3 วัน เราก็เลิกใช้ แต่ควรติดไว้คนผิวแห้งจำเป็นมาก หรือภูมิแพ้ผิวหนังควรมีพกติดตัวไว้ จะมีลักษณะเป็นครีม
หลังจากที่เรารู้มากขึ้นพวกผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งจะมาหลอกอะไรเราไม่ได้แล้ว ตอนนี้ไม่อยากได้ความขาวแล้ว แต่เป็นความชุ่มชื้นมากกว่า เพราะจริงๆแล้วผิวที่ดูสุขภาพดี อันดับ 1 ในการบำรุงผิวเราควรเน้นเรื่องความชุ่มชื้นก่อน ให้ผิวอยู่ในลักษณะสมดุลมากที่สุด คือไม่แห้ง ไม่มันจนเกินไป ถ้ามันต้องคุมความมันให้ดีเพราะโอกาสจะเกิดสิวก็มา และถ้าแห้งโอกาสเกิดสิวก็จะกลับมาได้ ดังนั้นเราจะไม่ทำให้ผิวเราแห้ง ต้องทำให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา ทาครีมทุกวัน เอิ้กจะไม่เน้นไวท์เทนนิ่งเลย เราไม่อยากขาวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะรู้สึกว่าถ้าขาวแต่หน้าเห่อก็ไม่ไหว
เอิ้กว่าหลักการบำรุงผิวจริงๆ ผิวดีคือผิวที่มีชุ่มชื้นอย่างเพียงพอและพอเหมาะ เพราะผิวจะดูมีออร่าขึ้นมาเอง คือมันจะดูเปล่งดูใส โดยที่เราไม่ต้องขาว แต่ถ้าเราขาวแบบกร้านๆ กระดำกระด่างก็ไม่ค่อยดี ไม่แนะนำพวกไวท์เทนนิ่งที่ผลัดเซลล์ผิวเท่าไหร่ เนื่องจากผลัดเซลล์ผิวก็เหมือนแค่ผลัดเอาขี้ไคลออกไป แต่เอิ้กจะเน้นไวท์เทนนิ่งในรูปแบบของการยับยั้งผิวสี ซึ่งมันจะลงลึกกว่า จะไปช่วยในเรื่องของเม็ดสีของเราจริงๆแล้วก็เลือกที่ปลอดภัยมีงานวิจัยรองรับ
คุณต้องหาข้อมูลให้ดีก่อนที่จะเริ่มใช้อะไรไป ถ้ามันพลาดไปนอกจากจะเสียเงินค่ารักษาหมอบานแล้วถ้าเราเป็นประเภทเป็นสิวง่ายมันจะยิ่งแย่ไปกันใหญ่” เอิ้ก แนะนำปิดท้าย
>> อัพเดตข่าวในแวดวงสังคม ก็อซซิป แฟชั่น ความงาม และเที่ยว กิน ดื่ม เพิ่มเติมได้ที่ http://www.celeb-online.net