xs
xsm
sm
md
lg

“ผบช.ภ. 3”ส่งมอบตำแหน่ง – ยันคดียิงลูก“ชาดา”จบแล้ว เลื่อนส่งฟ้องสัปดาห์หน้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “พล.ต.ท.ภาณุ ” ผบช.ภ. 3ส่งมอบตำแหน่งให้ผู้บัญชาการคนใหม่ ฝากสานต่อนโยบาย 2 เรื่องหลักอีสานใต้ ทั้งปราบยาเสพติดและกลุ่มลักลอบตัดไม้พะยูง ระบุคดีใหญ่ยิงลูก ส.ส.ชาดา จบแล้ว ยันตำรวจทำคดีตรงไปตรงมาไม่มีใครสั่งได้ เผยมีผู้ต้องหาคดีนี้แค่ 2 ราย และเลื่อนส่งฟ้องอัยการไปสัปดาห์หน้า เพื่อตรวจสอบความถูกต้ององคดีให้ละเอียดก่อน

วันนี้ ( 28 ก.ย.) ที่ห้องประชุมสารสิน กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ได้ทำพิธีส่งมอบตำแหน่งให้แก่ พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 คนใหม่ ก่อนเดินทางไปรับตำแหน่ง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) โดยมี พล.ต.ต.ประสิทธิ์ ทำดี รอง ผบช.ภ. 3 รับมอบเพื่อทำหน้าที่รักษาการแทน ก่อนที่ พล.ต.ท.เชิด ชูเวช เดินทางมารับตำแหน่งในวันที่ 1 ต.ค. 2555 นี้ โดยมีรองผู้บัญชาการ นายตำรวจชั้นสัญญาบัตรในพื้นที่ 8 จังหวัดอีสานตอนล่างเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียงกัน

พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่รับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากผู้ใต้บังคับบัญชา และประทับใจชาวอีสานเป็นคนที่มีน้ำใจดีงาม มีวัฒนธรรม มีระเบียบ วินัย ขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยงานมาโดยตลอด สิ่งที่อยากฝากถึงผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 คนใหม่ ซึ่งทราบว่าท่านเป็นคนอีสาน เชื่อว่าจะเข้าใจคนอีสานและลักษณะภูมิประเทศเป็นอย่างดี

ในพื้นที่ความรับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 สิ่งที่น่าห่วงมากที่สุดคือเรื่องยาเสพติด ซึ่งส่วนใหญ่พื้นที่นี้จะเป็นเส้นทางลักลอบขนยาเสพติดเข้าประเทศ ฉะนั้นดำเนินการอย่างเข้มงวดต่อไป รวมถึงเรื่องการปราบปรามกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงขาย ซึ่งตำรวจต้องรบกับกลุ่มนี้

การบ้าน 2 ข้อนี้เป็นเรื่องใหญ่ที่มีอิทธิพลและวงเงินเข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก เรื่องนี้จึงเป็นสิ่งที่ตำรวจต้องขจัดออกไปให้ได้ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดหากเรากำจัดออกไปได้จะทำให้ประเทศชาติปลอดภัย ช่วงที่ตนดำรงตำแหน่งอยู่ก็ได้ดำเนินการปราบปราบไปได้ส่วนหนึ่ง แต่หากมีการทำงานอย่างต่อเนื่องก็จะดี และท่านที่เข้ามารับตำแหน่งใหม่ ก็เป็นคนดี และเป็นลูกอีสาน เชื่อว่าท่านจะไม่ทิ้งการบ้าน 2 ข้อนี้แน่นอน

นอกจากนี้ พล.ต.ท.ภาณุ ยังกล่าวถึงคดีใหญ่ที่สำคัญและถูกจับตามองจากสังคมว่า คดีที่ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมากในตอนนี้ คือ คดียิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา นั้น ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว หลักฐานที่ได้จากทั้งทางนิติวิทยาศาสตร์ และพยานวัตถุ พยานแวดล้อมก็ได้ครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ในตอนแรกคาดว่าจะส่งฟ้องต่ออัยการได้ในวันนี้ ( 28 ก.ย. ) แต่เนื่องจากทางพนักงานสอบสวนต้องตรวจสอบความถูกต้องอีกเล็กน้อยเท่านั้น จึงเลื่อนไปในสัปดาห์หน้า คือช่วงต้นเดือน ต.ค. จะถึงมืออัยการแน่นอน

สำหรับผู้ต้องหาในคดีนี้มี 2 รายคือ ผู้ต้องหาหลักคือ นายมั่น พูลทรัพย์ ที่เป็นคนยิงนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ เสียชีวิต และอีกรายคือ นายสุริยา ไทยเศรษฐ์ ที่ก่อเหตุยิงใส่รถของนายมั่น แม้ว่าอาวุธปืนของนายมั่น หาไม่เจอก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะจากการตรวจสอบฟิล์มเอกซเรย์หัวกระสุนที่ฝังอยู่ในศีรษะของนายฟารุต มีขนาดตรงกันกับอาวุธปืนของนายมั่น ตามที่ นายมั่น รับสารภาพ

“ยืนยันว่าตำรวจเราทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา ผมไม่รู้จักใครทั้งสิ้น ไม่มีคำสั่งจากใครหรือใครออเดอร์มาใด ๆ ทั้งสิ้น ทำตามหลักฐานที่ปรากฏอยู่ และหลักฐานที่ปรากฏอยู่ก็ชัดเจนอยู่แล้ว ทางนิติวิทยาศาสตร์แต่ละส่วนก็มีที่ไปที่มาสามารถตอบโจทย์ได้ทุกอย่างใครยิงใครก่อนก็ชัดเจนแล้ว เมื่อส่งฟ้องอัยการและศาลจังหวัดสีคิ้ว ท่านก็คงพิจารณาตามหลักฐานที่มีอยู่” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น