ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ผบช.ภ. 3” ระบุพนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานคดียิงลูก ส.ส.ชาดา ครบถ้วนทั้งหมดแล้ว เผยสั่งฟ้องข้อหาหนักทั้ง 2 ฝ่าย 2 คน คือ “นายมั่น” มือยิง และ หลานชาย “ชาดา” ที่นั่งในรถคู่มากับ “ฟารุต” ผู้ตาย พร้อมสรุปสำนวนคดีส่งอัยการ 28 ก.ย.นี้
วานนี้ ( 26 ก.ย.) ที่ สภ.ปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าคดี นายมั่น พูลทรัพย์ ชาว จ.ราชบุรี ก่อเหตุยิง นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จ.อุทัยธานี เสียชีวิตคารถยนต์ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2555 สาเหตุเกิดจากการเปิดไฟรถยนต์สาดใส่กันไปมา ว่า จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว ทั้งที่ได้จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 และกองพิสูจน์หลักฐานกลาง รวมทั้ง พยานบุคคล พยานวัตถุ และ หลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามข้างทางจนสามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดได้ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุไปจนถึงหลังเกิดเหตุ รวมถึงใครเป็นผู้ลงมือยิงใส่อีกฝ่ายก่อน ซึ่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมดจะเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย
โดยพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้อง นายมั่น พูลทรัพย์ ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวและรับสารภาพว่าเป็นคนยิงรวม 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ ยิงปืนในเมือง
ส่วนฝ่ายนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.ชาติไทยพัฒนา นั้น พนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้อง นายสุริยา ไทยเศรษฐ์ หลานชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่นั่งคู่ด้านหน้ารถยนต์ โตโยต้า รุ่น พราโด มา กับ นายฟารุต ผู้ตายรวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย พยายามฆ่าผู้อื่น ,พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ ยิงอาวุธปืนในเมือง
“ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปตามตามหลักฐานที่ปรากฏ โดยพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งให้อัยการภายในวันที่ 28 กันยายนนี้ ” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากพยานหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ และ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีน้ำหนักเชื่อได้ว่า ทางฝ่ายลูกชายของ ส.ส.ชาดา เป็นฝ่ายลงมือใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะของคู่กรณีก่อนหลายนัด จนเป็นเหตุให้คู่กรณีชักอาวุธปืนยิงตอบโต้กลับไปและถูกนายฟารุต ลูกชาย ของ นายชาดาที่ขับรถยนต์โตโยต้า รุ่น พราโด เสียชีวิตดังกล่าว
วานนี้ ( 26 ก.ย.) ที่ สภ.ปักธงชัย อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (ผบช.ภ.3) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวถึงความคืบหน้าคดี นายมั่น พูลทรัพย์ ชาว จ.ราชบุรี ก่อเหตุยิง นายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) จ.อุทัยธานี เสียชีวิตคารถยนต์ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาเมื่อวันที่ 20 ส.ค.2555 สาเหตุเกิดจากการเปิดไฟรถยนต์สาดใส่กันไปมา ว่า จนถึงขณะนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดแล้ว ทั้งที่ได้จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 3 และกองพิสูจน์หลักฐานกลาง รวมทั้ง พยานบุคคล พยานวัตถุ และ หลักฐานจากกล้องวงจรปิดตามข้างทางจนสามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ทั้งหมดได้ ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุไปจนถึงหลังเกิดเหตุ รวมถึงใครเป็นผู้ลงมือยิงใส่อีกฝ่ายก่อน ซึ่งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทั้งหมดจะเป็นสิ่งสำคัญในการดำเนินคดีกับทั้ง 2 ฝ่าย
โดยพนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้อง นายมั่น พูลทรัพย์ ผู้ต้องหาที่เข้ามอบตัวและรับสารภาพว่าเป็นคนยิงรวม 4 ข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ ยิงปืนในเมือง
ส่วนฝ่ายนายฟารุต ไทยเศรษฐ์ ลูกชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.ชาติไทยพัฒนา นั้น พนักงานสอบสวนได้สั่งฟ้อง นายสุริยา ไทยเศรษฐ์ หลานชาย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ ที่นั่งคู่ด้านหน้ารถยนต์ โตโยต้า รุ่น พราโด มา กับ นายฟารุต ผู้ตายรวม 3 ข้อหา ประกอบด้วย พยายามฆ่าผู้อื่น ,พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ ยิงอาวุธปืนในเมือง
“ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปตามตามหลักฐานที่ปรากฏ โดยพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีสั่งฟ้องส่งให้อัยการภายในวันที่ 28 กันยายนนี้ ” พล.ต.ท.ภาณุ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากพยานหลักฐานที่เก็บได้จากที่เกิดเหตุ และ พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มีน้ำหนักเชื่อได้ว่า ทางฝ่ายลูกชายของ ส.ส.ชาดา เป็นฝ่ายลงมือใช้อาวุธปืนยิงใส่รถยนต์กระบะของคู่กรณีก่อนหลายนัด จนเป็นเหตุให้คู่กรณีชักอาวุธปืนยิงตอบโต้กลับไปและถูกนายฟารุต ลูกชาย ของ นายชาดาที่ขับรถยนต์โตโยต้า รุ่น พราโด เสียชีวิตดังกล่าว