ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - พิสูจน์ชัดที่ดิน 584 แปลง 1,764 ไร่ กลางป่าอุทยานดอยสุเทพ-ปุย ทำประโยชน์หลังประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้ เจ้าของต้องออกจากป่า พร้อมประสานกรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิมิชอบ 46 แปลง
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ครั้งล่าสุด ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจาก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานการประชุมนั้น ที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน ได้แก่ การสำรวจครอบครองที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 55 ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งผลการตรวจสอบการพิสูจน์สิทธิ์ท้องที่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยการนำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (ปี 2497) ที่ประกาศเป็นป่าหวงห้ามตามกฎหมายครั้งแรก และมีผลการแปลตีความภาพถ่ายทางอากาศแล้วมาซ้อนทับกับแปลงที่ดินที่ได้มีการสำรวจรังวัด จำนวน 604 แปลง
ปรากฏว่า แปลงที่ดินที่มีร่องรอยการทำประโยชน์เต็มแปลง (อยู่ก่อนการประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้) จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 3 ไร่เศษ แปลงที่ดินที่มีร่องรอยการทำประโยชน์บางส่วน (อยู่คาบเกี่ยวก่อน-หลัง การประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้) จำนวน 18 แปลง เนื้อที่ 92 ไร่เศษ สองกลุ่มนี้สามารถอยู่ทำประโยชน์ต่อไป
ส่วนแปลงที่ดินที่ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ (อยู่หลังการประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้) จำนวน 584 แปลง เนื้อที่ 1,764 ไร่เศษ จะต้องให้ผู้ครอบครองออกจากพื้นที่และทางราชการจะจัดหาที่ให้ตามมติ ครม.ต่อไป
กรณีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จำนวน 45 แปลง และเพิ่มเติมอีก 1 แปลงในภายหลัง กรณีการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนกับเขตอุทยานฯ ในพื้นที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประสานไปยังกรมที่ดินให้เพิกถอนโฉนดที่ดินตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 ต่อไป
นอกจากนี้ ในการการติดตามการแก้ไขปัญหาร้านค้าแผงลอย บริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาร้านค้าแผงลอยฯ ขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อวางกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโดยเร็ว โดยให้ดำเนินการภายใต้เขตอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเข้ามาจัดการปัญหาร่วมกัน
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการที่ปรึกษาอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ครั้งล่าสุด ที่ห้องประชุมโรงแรมกรีนเลค รีสอร์ท อ.เมืองเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งนายบรรพต คันธเสน ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดเชียงใหม่ ได้รับมอบหมายจาก ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เป็นประธานการประชุมนั้น ที่ประชุมมีการรายงานความคืบหน้าการดำเนินงาน ได้แก่ การสำรวจครอบครองที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 55 ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ซึ่งผลการตรวจสอบการพิสูจน์สิทธิ์ท้องที่บ้านขุนช่างเคี่ยน ตำบลช้างเผือก อำเภอเมืองเชียงใหม่ โดยการนำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (ปี 2497) ที่ประกาศเป็นป่าหวงห้ามตามกฎหมายครั้งแรก และมีผลการแปลตีความภาพถ่ายทางอากาศแล้วมาซ้อนทับกับแปลงที่ดินที่ได้มีการสำรวจรังวัด จำนวน 604 แปลง
ปรากฏว่า แปลงที่ดินที่มีร่องรอยการทำประโยชน์เต็มแปลง (อยู่ก่อนการประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้) จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 3 ไร่เศษ แปลงที่ดินที่มีร่องรอยการทำประโยชน์บางส่วน (อยู่คาบเกี่ยวก่อน-หลัง การประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้) จำนวน 18 แปลง เนื้อที่ 92 ไร่เศษ สองกลุ่มนี้สามารถอยู่ทำประโยชน์ต่อไป
ส่วนแปลงที่ดินที่ไม่มีร่องรอยการทำประโยชน์ (อยู่หลังการประกาศเขตพื้นที่ป่าไม้) จำนวน 584 แปลง เนื้อที่ 1,764 ไร่เศษ จะต้องให้ผู้ครอบครองออกจากพื้นที่และทางราชการจะจัดหาที่ให้ตามมติ ครม.ต่อไป
กรณีการออกเอกสารสิทธิในที่ดินโดยมิชอบในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จำนวน 45 แปลง และเพิ่มเติมอีก 1 แปลงในภายหลัง กรณีการออกโฉนดที่ดินทับซ้อนกับเขตอุทยานฯ ในพื้นที่ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ประสานไปยังกรมที่ดินให้เพิกถอนโฉนดที่ดินตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 11) พ.ศ. 2551 ต่อไป
นอกจากนี้ ในการการติดตามการแก้ไขปัญหาร้านค้าแผงลอย บริเวณหน้าวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้มีการจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาร้านค้าแผงลอยฯ ขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อวางกรอบแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและโดยเร็ว โดยให้ดำเนินการภายใต้เขตอำนาจหน้าที่ของกรมอุทยานฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่จะต้องเข้ามาจัดการปัญหาร่วมกัน