xs
xsm
sm
md
lg

มฟล.เปิดห้องระดมคนถกแผนรับเออีซี-เล็งทำเมกะโปรเจกต์ยื่น “ปู” ปลายปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เชียงราย - มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เปิดห้องระดมตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถกแผนพัฒนาเมืองพ่อขุน ฯรับ เออีซี ในปี 58 ย้อนประสบการณ์ในอดีต ก่อนผุดเมกะโปรเจกต์ รอเสนอ “ปู” เดือนพฤศจิกาฯ 55

รศ.ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้จัดให้มีการประชุมเพื่อกำหนดทิศทางในการนำ จ.เชียงราย เข้าสู่ประชาคมอาเซียน ที่ห้องประชุมเชียงแสน มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย โดยมีนายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย หัวหน้าส่วนราชการบางหน่วย ภาคเอกชน นักวิชาการ สื่อมวลชนเข้าร่วม โดยมีการให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับอาเซียนก่อนการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี ในปี 2558

ดร.ดร.วันชัยแจ้งต่อที่ประชุมว่า เนื่องจากเชียงรายเป็นประตูสู่อาเซียน และเชื่อมกับมณฑลหยุนหนัน ประเทศจีน ได้จึงควรมีโครงการใหญ่เพื่อรองรับความเจริญโดยเฉพาะ ซึ่งจะนำเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีกำหนดจะเดินทางไปเยือน จ.เชียงราย ราวเดือน พ.ย. 55 ด้วย

รศ.ดร.วันชัยกล่าวว่า เพียงแต่น่าเสียดายที่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยเสียโอกาสในการเตรียมตัวเข้าสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนช้าไป เพราะมีปัญหาความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ปัจจุบันจะต้องเดินหน้าทำต่อไปให้ได้

สำหรับกรณี จ.เชียงราย ถือเป็นเมืองยุทธศาสตร์ชายแดนที่สำคัญทั้งถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีน ส่วนอาร์สามบี ในพม่าผ่าน อ.แม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-พม่า-จีน ก็พบว่ามีอนาคต เพราะรัฐบาลพม่า ตกลงกับกองกำลังไทใหญ่ได้กว่า 80% แล้ว ส่วนด้านแม่สอด จ.ตาก กับเมืองเมียวดีของพม่าก็ตกลงกันได้เต็มร้อยแล้ว โดยเปิดให้ทหารกะเหรี่ยงเป็นกองกำลังดูแลชายแดนแทนทหารพม่า เป็นต้น

สำหรับโครงการที่จะนำเสนอต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระหว่างเดินทางมาที่เชียงรายนั้น ควรเป็นมุมมองใหม่ โดยอาศัยประสบการณ์ในอดีต ซึ่งหลายโครงการไม่น่าจะเป็นไปได้ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษ ฯลฯ ซึ่งพูดคุยกันมานานนับสิบๆ ปี รวมทั้งต้องศึกษาจากพื้นที่อื่นๆ เช่น ในอดีตมีการคาดการณ์กันว่าที่เชิงสะพาน จ.หนองคาย เชื่อมกับนครเวียงจันทน์ สปป.ลาว จะเจริญรุ่งเรือง เพราะช่วงนั้นจะมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว จึงมีการเข้าไปกว๊านซื้อที่ดินกันมาก แต่ท้ายที่สุดความเจริญกลับไปอยู่ที่ จ.อุดรธานี เพราะเส้นทางคมนาคมเข้ามาสะดวก และเหมาะสม ทำให้ต้องนำเรื่อง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ซึ่งมีการก่อสร้างสะพานเชื่อมไทย-สปป.ลาว เช่นเดียวกันด้วยมาพิจารณาใหม่

นอกจากนี้ ที่ผ่านมาการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวใน จ.เชียงรายแทบไม่มีเลย โดยสังเกตได้จากช่วงหลายปีที่ผ่านมีสถานที่ท่องเที่ยวเกิดขึ้นใหม่ๆ น้อยมาก จะมีก็เพียงวัดร่องขุ่น บ้านดำ ที่เกิดจากศิลปินชาวเชียงราย แตกต่างจากในเขตสิบสองปันนา จีนตอนใต้ ที่มีการสร้างสถานที่ท่องเที่ยวใหม่มากมายกว่า 70% ฯลฯ

รศ.ดร.วันชัยยังนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจหลายเรื่องเพื่อสรุปประเด็นว่า จ.เชียงรายอยากจะเป็นอะไรในอาเซียน โดยยกตัวอย่าง เช่น ศูนย์กลางการขนส่งสินค้า ศูนย์กลางยาและสุขภาพ เมืองแห่งการศึกษา เป้าหมายการท่องเที่ยวของคนทั่วโลก เป็นต้น

จากนั้นได้เปิดโอกาสให้แต่ละฝ่ายแสดงความเห็น ซึ่งนายวันชัย จงสุทธนามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย อ.เมือง ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเส้นทางคมนาคม ที่สะดวก เช่น รถไฟสู่เชียงราย โดยมีสถานีแห่งหนึ่งอยู่ที่ อ.เวียงชัย ใกล้กับท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ต.บ้านดู่ อ.เมือง สามารถเชื่อมไปชายแดน

ขณะเดียวกัน เสนอว่าอาจจะต้องให้รัฐจัดหาที่ดินราว 5,000-10,000 ไร่ แล้วโอนเป็นของรัฐ เพื่อเข้าไปพัฒนาเป็นเมืองใหม่ที่มีผังเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ พัฒนาการศึกษาของลูกหลานเพื่อรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ของพื้นที่ในอนาคต เป็นต้น

นายพินิจ หาญพาณิชย์ รองผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย กล่าวว่า เชียงรายควรเปิดด่านชายแดนที่เดิมเปิดตั้งแต่เวลาประมาณ 06.30-18.00 น.ให้ขยายออกไปอีกจนถึงกลางคืน เพื่อขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ การขนส่งสินค้า ลดต้นทุน ดึงดูดการลงทุน ฯลฯ ส่วนการเคลื่อนย้ายแรงงานไม่น่าเป็นห่วง เพราะมีการเปิดเสรีอาชีพในเออีซีแค่ 7 สาขาอาชีพอยู่ เช่น วิศวกร แพทย์ นักบัญชี ฯลฯ ซึ่งแต่ละอย่างล้วนมีขั้นตอนที่ทำให้การโยกย้ายไปทำงานในต่างประเทศทำได้ไม่ง่ายเกินไป

กำลังโหลดความคิดเห็น