พระนครศรีอยุธยา - สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา หวั่นโบราณสถานหลายแห่งในกรุงเก่าถูกน้ำท่วมเหมือนปี 54 เร่งระดมคนงานกรอกกระสอบทรายเพื่อหนุนกำแพงกั้นน้ำเจ้าพระยาที่จะทะลักเข้าท่วมวัดไชยวัฒนาราม ด้าน “สุกุมล คุณปลื้ม” รมว.วัฒนธรรม ลงพื้นที่พรุ่งนี้
วันนี้ (12 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พระนครศรีอยุธยาว่า จากสถานการณ์น้ำที่เอ่อล้นเข้าท่วมหลายอำเภอของ จ.พระนครศรีอยุธยา ในขณะนี้ ทำให้สำนักศิลปากรที่ 3 จ.พระนครศรีอยุธยา หวั่นเกรงว่าโบราณสถานหลายแห่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา จะได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมเช่นเดียวกับปี 2554 ที่ผ่านมา จึงได้เร่งระดมคนงานกรอกกระสอบทรายเพื่อหนุนกำแพงกั้นน้ำเจ้าพระยา ที่จะทะลักเข้าท่วมวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างเร่งด่วน โดยการยกชั้นกำแพงเหล็กขึ้นแล้ววางพลาสติกปูเป็นแนวผนังเหล็กแล้ววางกระสอบทรายทับเป็นชั้นๆ แล้วค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามระดับน้ำ เนื่องจากในช่วงนี้ปริมาณน้ำเริ่มปริ่มๆ ใกล้ถึงชั้นกำแพงแล้ว
นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากรกล่าวว่า จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใน จ.สุโขทัย และหลายอำเภอใน จ.พระนครศรีอยุธยานั้น ในส่วนของสำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย ได้รายงานเข้ามาว่า น้ำที่ไหลเข้าท่วมนั้นส่งผลกระทบต่อโบราณสถาน 1 แห่งคือ วัดราชธานี แต่โบราณสถานยังไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งทางจังหวัดกำลังเร่งสูบน้ำออกแล้ว ขณะที่สำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา รายงานมาว่า โบราณสถานใน จ.พระนครศรีอยุธยา ยังไม่ได้รับความเสียหายเช่นกัน ซึ่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนได้ลงพื้นตรวจสอบมาตรการป้องกันโบราณสถาน โดยเฉพาะที่วัดไชยวัฒนาราม ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตั้งพนังกั้นน้ำสำหรับป้องกันน้ำแล้ว คาดว่าภายในวันนี้ (13 ก.ย.) จะแล้วเสร็จ
ทั้งนี้ สำหรับโบราณสถานใน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์อุทกภัยเมื่อปี 54 มีทั้งหมด 130 แห่ง บูรณะเสร็จแล้ว 54 แห่ง ส่วนวัดไชยวัฒนาราม บูรณะเสร็จแล้วกว่า 40% อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) นางสุกุมล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม (วธ.) และผู้บริหารกรมศิลปากรจะลงพื้นเพื่อติดตามความคืบหน้าการบูรณะ และหารือแนวทางป้องกันน้ำท่วมโบราณสถานใน จ.อ่างทอง และ จ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า วันเดียวกัน ที่บริเวณคลองรางจระเข้หน้าวัดกระโดงทอง ต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่า มีผักตบชวาแน่นคลองรางจระเข้ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ส่งผลให้น้ำไหลไม่สะดวกจนน้ำไหลเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อยู่ริมคลอง 2 ตำบล จนทำให้ประชาชนไม่สามารถใช้เรือสัญจรไปมาได้สะดวก
ขณะเดียวกัน นายพงศกร มงคลหมู่ นายก อบต.รางจระเข้ พร้อมด้วย น.ท.(พิเศษ) อักษรดิษฐ์ ผู้แทนศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพอากาศ ได้นำกำลังทหารและประชาชน ต.รางจระเข้ ต.บ้านโพธิ์ อ.เสนา จำนวน 100 คน ร่วมกันกำจัดผักตบชวาผลักดันให้ออกไปสู่แม่น้ำน้อย และหากสามารถผลักดันผักตบชวาออกจนหมดภายใน 2 วันจะทำให้น้ำไหลสะดวกปริมาณน้ำลดลงได้
สำหรับผลกระทบจากอุทกภัยจนถึงวันนี้ทั้ง 6 อำเภอ 53 ตำบล 332 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,0862 ครัวเรือน รวมทั้งสิ้น 23,929 คน